วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เหตุพายุทอร์นาโดในเขต Midwest ของสหรัฐอเมริกา


รายงานล่าสุดของสถานกงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก ถึงเหตุการณ์พายุทอร์นาโดพัดถล่มเมืองต่างๆ ในเขต Midwest ของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2556 พบว่าที่มลรัฐโอคลาโฮมามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวจำนวน 24 ราย และเกิดความเสียหายในวงกว้าง โดยเฉพาะกับบ้านเรือนประชาชน ถนนหนทาง และระบบสาธารณูปโภค ฯลฯ
สำนักงานอุตตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐ (National Weather Service) แจ้งว่าทอร์นาโดลูกนี้มีระดับ ความรุนแรงสูงสุดตามมาตรวัดของ Fujita scale กล่าวคือ ความเร็วลม 419 – 512 กิโลเมตรต่อชั่วโมง


อย่างไรก็ดีในชั้นนี้ สถานกงสุญใหญ่ฯ ตรวจสอบจากเครือข่ายของชุมชนไทยในพื้นที่แล้ว ยังไม่ปรากฎข้อมูลว่ามีคนไทยเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่กับภับพิบัติลักษณะนี้ ไม่มีอะไรแน่นอนสถานกงสุลใหญ่ฯ ยังต้องพยายามติดต่อประสานงาน เพื่อตรวจสอบข้อมูลต่างๆ อย่างใกล้ชิด และจะรายงานให้ทราบเป็นระยะต่อไป

สถานกงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก
กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
กรมการกงสุล
กระทรวงการต่างประเทศ
123 ถ.แจ้งวัฒนะ ทุ่งสองห้อง หลักสี่ กทม 10210
โทร. 0 2575 1047-51
โทรสาร  0 2575 1052

เปิดร้านสปาไทยในประเทศแทนซาเนีย

             ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นายธวัช  ขวัญจิตร์ กงสุลประจำสถานทูตไทย ณ กรุงไนโรบี ประเทศเคนยา ได้เดินทางไปประเทศแทนซาเนียเพื่อแวะเวียนไปเยี่ยมถามไถ่ทุกข์สุขของคนไทยในเมือง Arusha ซึ่งถือเป็น\เขตอาณาในความรับผิดชอบของสถานทูต  กงสุลได้รายงานว่าที่นั่นมีคนไทยพำนักอยู่ 3 คน เป็นช่างเจียระไนอัญมณีและทำธุรกิจค้าขายสินแร่ เพชร พลอย ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีอยู่มากในประเทศแทนซาเนียแห่งนี้

         แต่มีหนึ่งเรื่องที่น่าทึ่งสำหรับประเทศที่อยู่ห่างไกลบ้านเราถึงทวีปแอฟริกาอันไกลโพ้น คือ ท่านกงสุลได้มีโอกาสไปร่วมพิธีเปิดร้าน ซึ่งเป็นร้านนวดแผนไทยแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศนี้ ร้านนวดได้เปิดให้บริการกว่า 15 ปี แล้ว มีทั้งหมอนวดไทยและพื้นเมืองคอยให้บริการนวดน้ำมันและเสริมสวยแก่ลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยว สำหรับเจ้าของร้านก็เป็นคนไทยที่ไปสมรสกับชาวแทนซาเนียและตั้งรกรากถาวรอยู่ที่นั่น
         เรื่องราวข้างต้นไม่มีประเด็นที่จะเตือนภัยหรือทำให้วิตกกังวลแต่อย่างใด เพียงแต่อยากจะชี้ให้เห็นว่า ในทุกวันนี้ คนไทยเดินทางไปพำนักอาศัยแทบจะทั่วทุกแห่งหน  มีทั้งสุขสบายและยากลำบาก  กรมการกงสุลจึงขอประชาสัมพันธ์อีกครั้งว่า ท่านจะพำนักอยู่ที่ใดก็ตาม อย่างไรก็อย่าลืมติดต่อให้ข้อมูลไว้กับสถานทูตไทยด้วย ยามเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้ช่วยเหลือกัน  หรือหากไม่มีเหตุร้าย เจ้าหน้าที่ของสถานทูตก็ยังแวะมาเยี่ยมเยียนดูแลเป็นระยะได้
           

****************

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไนโรบี  


และ
กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
กรมการกงสุล
กระทรวงการต่างประเทศ
123 ถ.แจ้งวัฒนะ ทุ่งสองห้อง หลักสี่ กทม 10210
โทร. 0 2575 1047-51
โทรสาร  0 2575 1052


ภาพจาก http://www.thaihoteltravel.com/thailand_travel_guide/Images/Spa1.jpg

วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การจัดโครงการให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขแก่คนไทยในยูเออีประจำปี 2556



             เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2556   ฯพณฯ วราวุธ ชูวิรัช เอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี ได้เป็นประธานในการกล่าวเปิดโครงการให้บริการทางแพทย์และสาธารณสุขแก่คนไทยประจำปี 2556 ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ  จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-4 พ.ค. และวันที่ 6 พ.ค. 2556 ส่วนวันที่ 5 พ.ค. 2556 คณะแพทย์ได้เดินทางไปให้การบริการเคลื่อนที่ที่ดูไบ    
               ตลอดทั้ง 3 วัน มีแรงงานไทยมาเข้าร่วมโครงการประมาณ 180 คน นักเรียนไทยจากเมืองอัลเอนและบุคคลทั่วไปเข้าร่วมจำนวนประมาณกว่า 100 คน   โดยคณะแพทย์ได้บรรยายแนวทางการรักษาสุขภาพ ควบคู่ไปกับการวินิจฉัยโรคและจ่ายยารักษาโรคเป็นรายบุคคล  และเอกอัครราชทูตฯ ได้เลี้ยงอาหารกลางวันแก่แรงงานไทย นักศึกษาไทยและประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ โดยจากการสำรวจแบบสอบถามพบว่า ประชาชนต้องการให้จัดโครงการทุก 6 เดือนหรือทุกปี เนื่องจากแรงงานไทยส่วนใหญ่มักมีปัญหาในการสื่อสารกับแพทย์ต่างชาติ  นับว่าเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับคนไทยโดยเฉพาะแรงงานไทย ซึ่งคนไทยทุกคนในยูเออีแสดงความชื่นชมบทบาทของสถานเอกอัครราชทูต ฯ ในการดูแลคนไทยในยูเออีเป็นอย่างมาก



The 2013 Medical and Hygiene Service Project to Thai people in UAE
                On 3 May 2013, H.E. Warawudh Chuwiruch, Ambassador of Thailand to the UAE presided over the opening ceremony of the 2013 Medical and Hygiene Service Project to Thai people in UAE, that was organized by the Thai Embassy during 3-4 and 6 May 2013, and on 5 May 2013, the delegation of doctors went to Dubai for Medical Mobile Unit.
                During 3-4 and 6 May 2013, there were approximately 180 Thai workers, Thai students from                    Al Ain and over 100 Thai people in UAE joined the Unit. Apart from lecturing, exchanging views and providing medical information and medicine from the delegation of doctors to Thai people individually,                 the Ambassador gave lunch to all participated Thai people. According from the questionnaire, Thai people in UAE requested the Embassy to organize such the project every 6 months or annually, because most  Thai workers had language barrier and communication problems with foreign doctors. However, Thai  people expressed their appreciation for the role of the Thai Embassy to strongly look after them in UAE.


                                                    

******************************

ชุมชนไทยในรัฐอาบูดาบีบริจาคเงินช่วยเหลือคนไทยที่ตกทุกข์ได้ยาก



         เมื่อวันที่  8 พ.ค. 2556 เวลา 11.00 น.  ฯพณฯ วราวุธ ชูวิรัช เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอาบูดาบี ได้รับมอบเงินบริจาคจากคุณบรรจง เคซี่ย์และกลุ่มสตรีไทยในกรุงอาบูดาบี เพื่อช่วยเหลือคนไทยที่ตกทุกข์ได้ยากใน                   ยูเออี
           โอกาสนี้  ออท. ได้กล่าวขอบคุณคุณบรรจง เคซี่ย์และกลุ่มสตรีไทยในกรุงอาบูดาบี สำหรับกุศลจิตและไมตรีจิตอันแสดงถึงความเอื้ออาทรและความมีน้ำใจของชาวไทยที่มีต่อผู้ประสบความทุกข์ยากในต่างแดนตลอดมา พร้อมรับที่จะเป็นผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อนำเงินจำนวนดังกล่าวฯ มอบให้คนไทยที่ตกทุกข์ได้ยากในยูเออีต่อไป   ทั้งนี้  ออท. ได้เสนอให้ใช้ทำเนียบฯ เป็นสถานที่ในการจัดงานสงกรานต์ 2557  เพื่อเป็นการประหยัดต้นทุนในเรื่องของค่าเช่าสถานที่และค่าอาหาร และเพื่อเอื้อประโยชน์ให้คนไทยสามารถเข้าร่วมงานได้มากยิ่งขึ้น เพราะไม่ต้องเสียค่าบัตรเข้าร่วมงาน  ซึ่งคุณบรรจง เคซี่ย์และกลุ่มสตรีไทยในกรุงอาบูดาบีได้กล่าวขอบคุณ ออท. ในความอนุเคราะห์ดังกล่าว

Thai community in Abu Dhabi extended assistance to Thai people suffering in UAE
         On 8 May 2013 at 11.00 hrs, Mrs. Banjong Casey and the Thai Ladies group in Abu Dhabi presented donation money from Songkran Festival 2013 to H.E. Warawudh Chuwiruch, Thai Ambassador to the UAE, to lend support to Thai people suffering in UAE.
           H.E. the Ambassador thanked Mrs. Casey and the Thai Ladies’ Club for such gesture and generousity, and will give the money to help distressed Thai people in UAE. However, H.E.              the Ambassador offered his residence for Songkran Festival 2014. The purpose is not only to save cost for hotel charge, but also for food cost. And more Thai people will have the chance to join the event because there is no charge. Therefore, Mrs. Casey and the Thai Ladies group in Abu Dhabi thanked the Ambassador for his kindness.

                                                   ****************************************

วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เกาหลีใต้...หลอกไปทำงานนวดก็เยอะ



               สถานทูตไทยที่กรุงโซล รายงานข้อมูลน่าตกใจไม่น้อยว่าในประเทศเกาหลีใต้มีการโฆษณาสถานบริการนวดแผนไทยจำนวนมากมายถึง 1,320 แห่ง และคาดว่ามีหญิงไทยประมาณ 2,000 คน อาจถูกล่อลวงให้เดินทางไปทำงานตามสถานที่เหล่านี้อย่างผิดกฏหมายและอาจถูกบังคับให้ค้าประเวณีอีกด้วย
                ล่าสุดเจ้าหน้าที่สถานทูตเพิ่งจะช่วยเหลือหญิงไทย 2 ราย ที่ต้องหลบหนีนายจ้างออกมาจากสถานบริการนรกในย่ายเมืองชีฮึง จังหวัดคยองกี ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงโซล พวกเธอถูกนายหน้า ซึ่งเป็นคนไทยด้วยกันต้มตุ๋นจนสุก บอกว่าจะได้งานสบายมีเงินเดือนนับล้านวอน (28,000 บาท) ถ้าไม่เชื่อก็ลองซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางไปดูด้วยตาตัวเอง เมื่อเจอเล่ห์เหลี่ยมอย่างนี้ เรื่องเศร้าจึงเกิดขึ้นจนได้ เพราะทันทีที่ไปถึง พวกเธอก็ถูกนำตัวไปส่งที่สถานบริการและถูกกักขังอยู่ในห้องใต้ดิน ถูกข่มขู่ห้ามติดต่อกับผู้คน และในที่สุดถูกบังคับให้ค้าบริการ
                เรื่องราวอย่างนี้ไม่เคยจบสิ้นเสียที สถานทูตไทยได้แต่ขอร้องให้หญิงไทยทั้งหลายใช้ความระมัดระวัง อย่าหลงเชื่อใครง่ายๆ อย่าคิดว่าไปประเทศเจริญแล้วจะไม่มีปัญหา เพราะคนเลวมีอยู่ทุกแห่งหน ขอให้ดูตัวอย่างกรณีข้างต้นเป็นอุทธาหรณ์ก็แล้วกัน...

ด้วยความปราถนาดีจาก
กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
กรมการกงสุล
กระทรวงการต่างประเทศ
123 ถ.แจ้งวัฒนะ ทุ่งสองห้อง หลักสี่ กทม 10210
โทร. 0 2575 1047-51
โทรสาร  0 2575 1052

17 พ.ค. 2556

วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ปะทุภูเขาไฟในฟิลิปปินส์.... คนไทยได้รับการช่วยเหลือแล้ว




              เมื่อช่วงเช้าของวันอังคาร ที่ 7 พฤษภาคม 2556  ภูเขาไฟมายอน (Mount Mayon) ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงมะนิลาไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 330 กิโลเมตร ได้ปะทุขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3  ปี  พ่นเถ้าถ่านและกลุ่มควันจำนวนมากจนเกิดความแตกตื่นไปทั่วทั้งภูมิภาค   เหตุการณ์นี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 5 คน ได้รับบาดเจ็บ 7 คน  มีนักไต่เขาชาวต่างชาติจำนวนหนึ่งติดค้างอยู่ในพื้นที่ 
 ทันทีที่เกิดเหตุขึ้น สถานทูตไทย ณ กรุงมะนิลา ได้รีบติดต่อสอบถามกับหน่วยงานของรัฐบาลฟิลิปปินส์ทันที เพราะทราบมาว่ามีกลุ่มนักท่องเที่ยวและคนไทยที่ชอบกีฬาไต่เขาเดินทางเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวด้วยเช่นกัน  ผลการตรวจสอบพบว่า ไม่มีคนไทยเสียชีวิตจากเหตุภัยพิบัติครั้งนี้  คนไทยกลุ่มดังกล่าวประกอบด้วยผู้ชาย 4 คน และหญิง 1 คน ทุกคนได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัยของรัฐบาลฟิลิปปินส์เรียบร้อยแล้ว


*******************


7 พฤษภาคม 2556


กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
กรมการกงสุล
กระทรวงการต่างประเทศ
123 ถ.แจ้งวัฒนะ ทุ่งสองห้อง หลักสี่ กทม 10210
โทร. 0 2575 1047-51
โทรสาร  0 2575 1052

วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

อย่างนี้ก็มีด้วย...ใช้อุบายขี้นก...ลักทรัพย์ในอาร์เจนตินา



มีรายงานที่ขำไม่ออกมาจากสถานทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ว่ามีนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่มหนึ่ง เดินทางไปเที่ยวที่กรุงบัวโนสไอเรส ขณะเดินอยู่บริเวณ Plaza de Meyo   ซึ่งเป็นจตุรัส ด้านหน้าทำเนียบประธานาธิบดีของเขาแท้ๆ มีชายแปลกหน้าท่าทางลับๆ ล่อๆ เดินเข้ามาใกล้ หลังจากนั้นก็พบว่า เสื้อผ้าของตนเปรอะเปื้อนขี้นก มีกลิ่นเหม็นรุนแรง จึงหยุดเช็ดทำความสะอาด ซึ่งในจังหวะนี้เองจะมีคนอีก 1-2 คน เดินเข้ามาประกบเหยื่อช่วยเหลือจนเหตุการณ์ชุลมุน แล้วก็ล้วงชิงทรัพย์ไปอย่างแนบเนียน จนคนถูกล้วงไม่ทันรู้สึกตัวเลย
         เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นได้ทุกแห่งหน จึงขอเตือนภัย สำหรับคนไทยที่ชอบไปเที่ยว ตปท. ไกลๆ ยังไงก็อย่าเพลิดเพลินจนลืมระมัดระวังตัว เพราะโจรสมัยนี้ใช้เล่ห์อุบายสารพัดอย่างทำเป็นกระบวนการ เป้าหมายคือนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย ซึ่งกระเป๋าหนักชอบพกเงินสดและทรัพย์สินมีค่าติดตัว มิจฉาชีพพวกนี้ลงทุนใช้กระทั่งสารเคมีกลิ่นเหม็นเหมือนขี้นก (Green mud) ก็ยังกล้าเอามาใช้เป็นอุบายหลอกนักท่องเที่ยว...เฮ้อ!..อย่าเพลิดเพลินจนเผลอตัวเข้าล่ะ ช่วยบอกต่อๆ กันด้วย     นะคะ

                ด้วยความปรารถนาดี จาก สอท. ณ กรุงบัวโนสไอเรส
                กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
กรมการกงสุล
กระทรวงการต่างประเทศ
123 ถ.แจ้งวัฒนะ ทุ่งสองห้อง หลักสี่ กทม 10210
โทร. 0 2575 1047-51
โทรสาร  0 2575 1052

ขอวีซ่าเชงเกนผิดระเบียบ อาจถูกเฉ่งกลับบ้าน


           เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีกรณีคนไทย 3 คนเดินทางไปประเทศเยอรมนี โดยตั้งใจว่าหลังจากนั้นจะไปเที่ยวต่อที่สาธารณรัฐเช็คและออสเตรีย แต่ถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกักตัวไว้ที่สนามบินนครมิวนิก  ไม่อนุญาตให้เข้าประเทศเยอรมนี เนื่องจากขอวีซ่าเชงเกน (Schengen Visa) ผิดระเบียบ คือไปขอวีซ่าเข้าประเทศเนเธอแลนด์ทั้งที่มิได้มีแผนไปท่องเที่ยวในประเทศนั้นแต่อย่างใด
            เรื่องนี้เดือดร้อนไปถึงเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ต้องรีบประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สนามบินทันทีเพื่อให้ความช่วยเหลือ  จนกระทั่งในเวลาต่อมา ตำรวจฯ ได้อนุญาตให้คนไทยทั้งหมดสามารถเดินทางเข้าเยอรมนีได้  ซึ่งเป็นความโชคดีที่ตำรวจฯ อนุโลมให้
            กรณีนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิดของคนไทยซึ่งคิดว่าการขอวีซ่าเชงเกงจะยื่นขอจากสถานทูตประเทศใดก็ได้ในกรุงเทพฯ  ซึ่งไม่ถูกต้อง  จึงขอแนะนำว่า ถ้าจะไปเที่ยวเยอรมนีเป็นประเทศแรก ก็ต้องขอวีซ่าจากสถานทูตเยอรมนีก่อน  หลังจากนั้นจึงค่อยเดินทางต่อไปประเทศเชงเกนอื่น ๆ ได้  ปัญหาอย่างนี้มักเกิดขึ้นบ่อยกับนักท่องเที่ยวไทย  เรียกว่านอกจากจะถูกห้ามเข้าประเทศแล้ว  บางรายอาจถูกส่งฟ้องศาลเพราะเขาสงสัยว่าจะลักลอบเข้าไปทำผิดกฎหมายในยุโรปนั่นเอง
หมายเหตุ สำหรับประเทศที่เข้าร่วมความตกลงวีซ่าเชงเกน (Schengen Agreement) มีทั้งหมด 26 ประเทศ  ได้แก่  ออสเตรีย  เบลเยียม  สาธารณรัฐเช็ก  เดนมาร์ก  เอสโตเนีย  ฟินแลนด์  ฝรั่งเศส  เยอรมนี  กรีซ  ฮังการี  ไอซ์แลนด์  อิตาลี  ลัตเวีย ลิกเตนสไตน์  ลิทัวเนีย  ลักเซมเบิร์ก  มอลตา  เนเธอแลนด์  นอร์เวย์  โปแลนด์  โปรตุเกส  สาธารณรัฐสโลวัก  สโลวีเนีย  สเปน  สวีเดน และสวิสเซอร์แลนด์   (ไม่รวมสหราชอาณาจักร) โดย เมื่อผู้ถือวีซ่าเชงเกนได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศเชงเกนแล้ว  ก็จะสามารถเดินทางต่อไปยังประเทศสมาชิกอื่นอีก 25 ประเทศได้




กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
กรมการกงสุล
กระทรวงการต่างประเทศ
123 ถ.แจ้งวัฒนะ ทุ่งสองห้อง หลักสี่ กทม 10210
โทร. 0 2575 1047-51
โทรสาร  0 2575 1052

30 เมษายน 2556