ที่มา : สถานเอกอัครราชทูต ร กรุงมอสโก
วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2554
คนไทยลักลอบเข้าไปทำงานในรัสเซียมากขึ้น
ที่มา : สถานเอกอัครราชทูต ร กรุงมอสโก
คนไทยถูกรีดไถในแอฟริกา
สถานเอกอัครราชทูตไทยในประเทศแถบแอฟริกากลางรายงานว่า ได้เกิดกรณีบ่อยครั้งที่คนไทยที่เดินทางผ่านหรือทำงานในประเทศในภูมิภาคแอฟริกาถูกเรียกร้องเงินโดยเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ โดยมิชอบ หรือจะเรียกอีกอย่างคือถูกรีดไถนั่นเอง ทั้งที่มีเอกสารแสดงตนหรือเอกสารเกี่ยวกับการทำงานถูกต้องทุกอย่าง โดยเจ้าหน้าที่จะทำเป็นขอตรวจเอกสารและจะยึดไว้จนกว่าจะได้ีรับเงิน ดังเช่นเมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา ก็มีคนไทยที่ทำงานในประเทศในแถบแอฟริกากลางถูกตำรวจรีดไถ ต้องเสียเงินไปหลายสตางค์ และไม่ใช่ครั้งแรกที่คนไทยรายนี้ต้องประสบเคราะห์กรรมเช่นนี้ เพราะครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้ว
สถานที่ที่มีการรีดไถกันมากที่สุดเห็นจะเป็นที่สนามบิน โดยมีทั้ง ตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร บางครั้งก็มีเจ้าหน้าที่สายการบินและพ่อค้ารู้เห็นเป็นใจด้วย แม้แต่อาหารที่คนไทยมักชอบนำติดตัวไปเช่น น้ำปลา กะปิ เครื่องปรุงอาหาร ก็จะกลายเป็นปัญหาเพราะเจ้าหน้าที่จะตรวจตราเข้มงวดและมักจะต้องจบลงโดยถูกรีดไถเงินเพื่อความสะดวกให้ผ่านของได้
สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ฝากเตือนมายังคนไทยที่จะเดินทางไปหรือผ่านประเทศในภูมิภาคแอฟริกาให้ระวังการถูกรีดไถจากคนพวกนี้ให้ดี และถ้ามีใครมาเสนอขายอวัยวะหรือชิ้นส่วนหรือซากของสัตว์ป่าก็ขอให้งดซื้อสินค้าเหล่านั้นเนื่องจากผิดกฎหมายห้ามมีไว้ในครอบครอง นอกจากนี้ การนำสินแร่ต่างๆ หรือหินมีค่าออกจากประเทศแถบนี้จะต้องมีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง มิฉะนั้นอาจได้รับโทษทั้งจำทั้งปรับ
หากท่านพบปัญหาถูกรีดไถโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือของสายการบิน ขอให้จดชื่อและตำแหน่ง วันเวลาที่ถูกรีดไถ และแจ้งสถานเอกอัครราชทูตของไทยในประเทศนั้นๆ หรือประเทศใกล้เคียง หรือกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อดำเนินการต่อไป
ที่มา : กระทรวงการต่างประเทศ
วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2554
หญิงไทยกับยาเสพติด…อีกหนึ่งราย
วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2554
แพทย์ญี่ปุ่นแนะนำคนไทยจะไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น
ที่มา : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว
วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2554
ญี่ปุ่นรับคนงานไทยที่ประสบภัยน้ำท่วมเข้าทำงานเป็นการชั่วคราว
วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554
เตือนหญิงตั้งครรภ์..ไปต่างแดน
วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2554
ขบวนการหลอกลวงหมอนวดหญิงไทยไปจดทะเบียนสมรสอำพรางกับชาวมาเลเซียเพื่อใช้ขอใบอนุญาตทำงาน
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ รายงานข้อมูลใหม่เกี่ยวกับขบวนการหลอกลวงหมอนวดหญิงไทยไปทำงานในมาเลเซีย ว่า ปัจจุบัน มีหมอนวดหญิงไทยพยายามหาทางเข้าไปทำงานในประเทศมาเลเซียโดยใช้วิธีแต่งงานกับชายชาวมาเลเซียซึ่งจะมีบุคคลที่เรียกกันว่าเป็น Boss เป็นผู้ดำเนินการและจะยื่นขอใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) เป็นพนักงานนวดให้โดยหญิงชายจะไม่ได้อยู่ด้วยกันฉันท์สามีภรรยา กลุ่มคนที่มาชักชวนหมอนวดหญิงไทยอ้างว่าการดำเนินการดังกล่าวไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ และเมื่อทำงานมีรายได้แล้วจึงจะหักค่าดำเนินการในภายหลัง ซึ่งการทำงานเป็นหมอนวดจะมีรายได้ดี เดือนละประมาณ 20,000.- บาทขึ้นไป
ทางสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งข้อมูลเพื่อเตือนภัยหญิงไทยที่คิดจะเดินทางไปทำงานเป็นหมอนวดในมาเลเซียด้วยว่า ปกติกฎหมายมาเลเซียไม่อนุญาตให้หญิงต่างด้าวที่สมรสกับคนมาเลเซียทำงานทุกประเภท แม้ภายหลังจะมีการผ่อนผันให้สามารถทำงานได้โดยใช้วีซ่าคู่สมรส แต่ก็ต้องยื่นคำร้องขออนุญาตกับกรมการจัดหางานและกรมตรวจคนเข้าเมืองของมาเลเซียก่อน ซึ่งทางการจะต้องพิจารณาความเหมาะสมเป็นกรณีๆ ไป และในส่วนของอาชีพพนักงานนวดจะไม่มีการจัดสรรตำแหน่งงานให้อย่างแน่นอนเพราะมาเลเซียมีนโยบายปิดร้านนวดที่ไม่ได้มาตรฐานทั้งหมด จะอนุญาตเฉพาะกิจการสปาในโรงแรมห้าดาวเท่านั้น
จากนโยบายของประเทศมาเลเซียที่จะปิดกิจการร้านนวดดังกล่าว บรรดาร้านนวดขนาดเล็กจึงดิ้นรนทุกวิถีทางที่จะดำรงกิจการของตนไว้จนกว่าจะถูกปิดตัวลง อีกทั้งชื่อเสียงหมอนวดหญิงไทยเป็นที่รู้จักและยอมรับในมาเลเซียมานาน นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียมักนิยมใช้บริการโดยส่วนใหญ่จะข้ามชายแดนเข้ามาที่อำเภอหาดใหญ่ จ. สงขลา
การหลอกลวงหมอนวดชาวไทยไปจดทะเบียนสมรสอำพรางกับชาวมาเลเซียนี้ นับเป็นมหันตภัยที่น่ากลัวสำหรับหญิงไทยที่รู้เท่าไม่ถึงการและยังดื้อดันไม่รับฟังคำเตือนของสถานเอกอัครราชทูตฯ เนื่องจากภายหลังจดทะเบียนสมรสแล้วจะประสบปัญหาสาหัสมากมาย เช่น จะถูกนายจ้างหักค่าใช้จ่ายเดือนละไม่ต่ำกว่า 700-1,000 ริงกิต (ประมาณ 7,000-10,000 บาท) เป็นหนี้ที่ไม่มีวันชดใช้หมดนายจ้างจะยึดพาสปอร์ตโดยอ้างว่านำไปขอใบอนุญาตทำงาน หากบิดพริ้วหรือแข็งข้อก็จะถูกสามีในนามหรืออ้างเป็นสามีจริงทำร้ายร่างกายหรือกดขี่ทุกวิถีทาง และตามกฎหมายมาเลเซียฝ่ายชายสามารถอ้างยึดหรือแบ่งรายได้ทรัพย์สินที่ภรรยาหาได้ทุกกรณีซึ่งตรงนี้จะเป็นเสมือนห่วงเหล็กผูกคอแน่นหนาพันธนาการชีวิตหญิงไทยที่หลงผิดอย่างน่าเวทนา เนื่องจากเป็นสิ่งที่กระทำโดยมีกฎหมายรองรับ ยากที่จะได้รับความช่วยเหลือ และหากประสงค์จะหย่า ก็ต้องให้ฝ่ายชายยินยอมและต้องว่าจ้างทนายให้ดำเนินการให้ซึ่งต้องใช้เวลานานมาก และหากฝ่ายชายไม่ยินยอมหย่าให้สถานภาพสมรสก็จะค้างคาติดตัวผู้หญิงตลอดไป ต้องตกทุกข์ตลอดชีวิต สถานเอกอัคราชทูตฯ ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากหญิงไทยจำนวนมากที่สมรสกับชาวมาเลเซียและประสบปัญหาดังกล่าว ซึ่งบางรายมีบุตรกับสามีด้วย ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะช่วยเนื่องจากตามกฎหมายต้องถือว่าเป็นเรื่องปัญหาภายในครอบครัว ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำใจยอมรับในชะตากรรมที่เกิดจากการที่ไปหลงเชื่อพวกเดนมนุษย์ และการที่ตัวเองไม่ยอมรับฟังคำเตือนที่หลายฝ่ายพยายามเตือนเพื่อไม่ให้หญิงไทยต้องตกอยู่ในสภาพที่ทนทุกข์เวทนา
และนี่ก็นับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ อยากจะขอวิงวอนคนไทยทุกคนที่คิดจะไปทำงานในต่างประเทศให้ระมัดระวังและพิจารณาให้ถี่ถ้วนรอบคอบ อย่าไปฟังข้อมูลแต่เพียงด้านเดียวจากผู้ที่หวังผลประโยชน์จากตัวท่าน บุคคลเหล่านี้ไม่มีเลยที่จะปราถนาดีหรือจริงใจกับท่าน ต่างหวังผลประโยชน์จากท่านทั้งสิ้น ปัจจุบันพี่น้องชาวไทยในต่างประเทศจำนวนมากต้องประสบปัญหาทุกยากแสนสาหัส เผชิญกับความเดือดร้อนทุกรูปแบบ แม้จะมีสถานทูต สถานกงสุล ของไทยที่จะคอยช่วยเหลือดูแล แต่ก็มักมีข้อจำกัดมากมายและการช่วยเหลือในลักษณะที่เข้าไปแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว จะเป็นเรื่องยากกว่าการป้องกันปัญหามิให้เกิดขึ้น ดังนั้น จึงขอให้ผู้ที่คิดจะไปทำงานในต่างประเทศตรวจสอบข้อมูล และที่สำคัญ คิดให้ดีก่อนตัดสินใจ
วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2554
บัวแก้วเตรียมพร้อมอพยพคนไทยในซีเรีย
วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมานามา ออกประกาศเตือนชุมชนชาวไทยในบาห์เรน
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมานามา ประเทศบาห์เรน ได้ออกประกาศ ด่วน เตือนคนไทยในประเทศบาห์เรนโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ฝ่ายค้านบาห์เรนกำลังวางแผนที่จะชุมนุมประท้วงอย่างกว้างขวางทั่วทั้งประเทศบาห์เรนรวมทั้งกรุงมานามา ในวันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม 2554 ผู้ชุมนุมมีแผนจะนั่งประท้วงตามทางแยกบริเวณห้างสรรพสินค้า Seef Mall โดยผู้ประท้วงจะเดินมารวมตัวกันจากพื้นที่ใกล้เคียง อาทิ Sanabis; al-Daih และ Karbabad นอกจากนี้ ผู้ประท้วงจะปิดกั้นถนนและทางแยกหลักๆ ในเมืองหลวง บริเวณที่ทำการรัฐบาลและพระราชวัง รวมทั้งเขตคณะทูตตลอดทั้งวัน โดยคาดว่าจะมีการปิดกั้นถนนสายหลักและทางหลวงทั่วประเทศตลอดสายด้วย ผู้ประท้วงจะใช้วิธีการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วหันกลับมาปิดกั้นถนนซ้ำอีกเป็นเช่นนี้เรื่อยไป คาดว่าผู้ประท้วงจะไม่ปิดกั้นถนนในเขตที่ตั้งของโรงพยาบาลและคลินิก
วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2554
หญิงไทยถูกจับกุมข้อหาลักลอบขนยาเสพติดที่อาร์เจนตินา
ปัจจุบันมีนักโทษหญิงไทยถูกจับกุมข้อหาลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศอาร์เจนตินาจำนวน 12 คน และยังมีในประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคลาตินอเมริกา ที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของปัญหาที่คนไทยตกเป็นเหยื่อในขบวนการค้ายาเสพติด
คนไทยถูกจำคุกในบาห์เรน
เมื่อวันที่ 3 และ 6 ตุลาคม 2554 เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมานามา ประเทศบาห์เรน ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ต้องขังไทยในประเทศบาห์เรน ที่เรือนจำ Isa ซึ่งมีผู้ต้องขังหญิงสัญชาติไทยจำนวน 19 คน และที่เรือนจำ Jau มีผู้ต้องขังชายสัญชาติไทย จำนวน 2 คน
สตรีไทยในบาห์เรนมักถูกจับและดำเนินคดีในข้อหาค้าประเวณี หรือสมรู้ร่วมคิดในการจัดหาและอำนวยความสะดวกการค้าประเวณี เสพยาเสพติด และอยู่เกินวีซ่ากำหนด (over-stay) สำหรับข้อหาของชายไทยที่ถูกจำคุกในบาห์เรน คือ ข้อหาค้ายาเสพติด และฆาตกรรม
ปัจจุบันมีคนไทยเดินทางเข้าออกประเทศบาห์เรนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากบาห์เรนเป็นประเทศเดียวในกลุ่มประเทศคาบสมุทรอาหรับที่อนุญาตให้ผู้ถือหนังสือเดินทางไทยสามารถพำนักในบาห์เรนได้ เป็นเวลา 30 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า อีกทั้งนโยบายหลักของบาห์เรนที่ต้องการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว ธุรกิจและการลงทุนจากต่างประเทศของภูมิภาค จึงทำให้บาห์เรนกลายเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวในภูมิภาคอาหรับได้เป็นอย่างดี และในปัจจุบันมีแรงงานไทยทำงานในประเทศบาห์เรนประมาณ 3,000 คน
ที่มา : ข้อมูลจากสถานเอกอัคคราชทูต ณ กรุงมานามา
กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2554
คำแนะนำการเดินทางไปประเทศกรีซ
ด้วยในขณะนี้ มีการประกาศนัดหยุดงานประท้วงรัฐบาลกรีซของสหภาพแรงงานข้าราชการและรัฐวิสาหกิจอยู่เนืองๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งทางบก ทางน้ำและทางอากาศ สถานเอกอัครราชทูต(สอท.) ขอแนะนำให้ผู้ที่ประสงค์จะเดินทางมายังกรีซโปรดตรวจสอบข้อมูลก่อนการเดินทางได้ที่http://www.apergia.gr/index.php (ภาษากรีก) หรือสอบถามได้ที่ สอท.ฯ ส่วนการนัดหยุดงานของศูนย์ควบคุมการบินกรีซดูได้ที่ http://www.eeeke.gr/index_files/ENGLISH_HOME.htm
Website : http://www.thaiembassy.org/athens
วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2554
คนไทยถูกตำรวจอียิปต์จับกุมข้อหาวีซ่าปลอม
คนไทยถูกตำรวจอียิปต์จับกุมข้อหาวีซ่าปลอม
การประชุมชี้แจงการต่อต้านการค้ามนุษย์ของมาเลเซีย
การประชุมชี้แจงการต่อต้านการค้ามนุษย์ของมาเลเซีย
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2554 กระทรวงมหาดไทยของประเทศมาเลเซีย ได้จัดการบรรยายสรุปเพื่อร่วมมือหารือมาตรการการต่อต้านการค้ามนุษย์กับประเทศออสเตรเลีย อังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา กัมพูชา และไทย เพื่อเพิ่มเติมบทบัญญัติกฎหมายต่อต้านการค้ามนุษย์ให้คลอบคลุมและมีโทษหนักขึ้น เช่น การลักลอบนำคนต่างด้าวเข้าเมือง ซึ่งคนต่างด้าวที่ตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์นั้น มีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างมากในปัจจุบัน
โดยมาเลเซียได้เน้นมาตรการสำคัญ 3 ประการ คือ 1. Prosecution การนำผู้กระทำผิดเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์มาลงโทษตามกฎหมาย 2. Protection ให้ความคุ้มครองเหยื่อการค้ามนุษย์และปัญหาลักลอบนำคนต่างด้าวเข้าเมือง 3. Prevention and Awareness ร่วมมือกับหน่วยงานรัฐของบาลและเอกชนในการหาแนวทางเพื่อแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ในเชิงป้องกัน โดยใช้สื่อต่างๆในการเผยแพร่ความรู้
สำหรับการจัดกลุ่มประเทศเกี่ยวกับการจัดการปัญหาการค้ามนุษย์ของสหรัฐอเมริกานั้นมาเลเซียอยู่อยู่ในกลุ่มเดียวกับไทย (Tier 2) แต่อยู่ในอันดับที่ต่ำกว่า เพราะมาเลเซียเป็นประเทศทางผ่าน และปลายทางของขบวนการค้ามนุษย์
ปัจจุบันในประเทศมาเลเซียมีแรงงานต่างด้าวทั้งชายและหญิงได้ตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์จาก 20 ประเทศ เป็นจำนวน 2,151 คน โดยผู้ชายจะถูกเอาเปรียบในเรื่องของแรงงาน และผู้หญิงถูกเอาเปรียบเรื่องของแรงงานและเพศ
แรงงานไทยที่สนใจจะเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ ควรต้องมีการศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศปลายทางและข้อมูลของนายจ้าง เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของตนเอง
ที่มา : กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล
นักออกแบบไทยสร้างชื่อเสียงให้ประเทศในงานแสดงออกแบบหัตถกรรมนานาชาติที่ไต้หวัน