ในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ปี
๒๕๕๖ นี้
ท่านกงสุลสุขทีป รันดาเว
ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขตประเทศลาว
ต้องเดินทางไปราชการอย่างเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือราษฎรไทย จำนวน ๘ คน
จาก จ.อุบลราชธานี
ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแขวงจำปาสัก
จับกุมในข้อหาลักลอบเข้าเมืองและพกพาอาวุธเข้าไปล่าสัตว์ในพื้นที่ป่าเขาบริเวณชายแดนฝั่งลาว
คนไทยทั้งแปดรายนั้นถูกจับมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว ต่อมาได้ถูกศาลประเทศลาวตัดสินลงโทษจำคุกเป็นระยะเวลา
๖ เดือน และแถมโทษปรับไหมอีก เป็นเงินคนละ
๕๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ เรียกว่า
กว่าจะพ้นโทษออกมาได้ก็แทบสะบักสะบอมท่านกงสุลต้องช่วยติดต่อประสานงานในการชำระค่าปรับ ก่อนจะรับตัวคนไทยทั้งหมด
แล้วพามาส่งที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี โดยสวัสดิภาพ
เรื่องราวของคนไทยทั้ง
๘ รายข้างต้น
ต้องถือว่าทุกคนยังโชคดีที่ได้เดินทางกลับบ้านเกิดอย่างปลอดภัย
และมีโอกาสกลับมาร่วมสังสรรค์วันสงกรานต์กับครอบครัวได้ตามประเพณี งานนี้ก็ขอฝากไว้เป็นข้อคิดเตือนใจว่า
ประเทศลาวเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับไทย
เราพูดคุยกันรู้เรื่องมีความผูกพันกันมาอย่างแน่นแฟ้นยาวนาน ดังนั้น
พี่น้องประชาชนคนไทยที่มีถิ่นฐานบ้านเรือนอยู่ตามแนวตะเข็บชายแดนจำเป็นต้องเคารพกฏหมายของประเทศเพื่อนบ้านอย่างเคร่งครัด ไม่ควรทำอะไรตามใจโดยพลการ
ต้องไม่ยึดผลประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้ง
ไม่เช่นนั้นก็อาจประสบกับชะตากรรมเลวร้ายดังเช่นกรณีข้างต้นได้
กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น