วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555

อียิปต์เข้มงวดการเข้าเมือง






อียิปต์เข้ม ประกาศจะไม่ออกใบอนุญาตทำงานให้แก่ผู้ที่เดินทางเข้าอียิปต์ด้วยวีซ่าท่องเที่ยวอีกต่อไป หวังลดปัญหาการค้ามนุษย์และการลักลอบเข้ามาทำงานในอียิปต์โดยผิดกฎหมายของชาวต่างชาติ

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ รายงานด้วยว่า อัตราการว่างงานในอียิปต์สูงร้อยละ 12.4 ซึ่งถือว่าสูงสุดในรอบ 10 ปี  และเป็นผู้ที่จบปริญญาตรีถึงร้อยละ 36 ขณะที่หลายฝ่ายคาดว่าอัตราการว่างงานที่แท้จริง รวมทั้งว่างงานแฝงน่าจะสูงกว่าสถิติของทางการเป็นอันมาก โดยประมาณว่าเฉพาะในเยาวชนอายุระหว่าง 15-29 ปี (ซึ่งมีประมาณ 24 ล้านคน) มีการว่างงานประมาณร้อยละ 20-25ทางการอียิปต์ได้แจ้งเวียนไปยังสถานทูตต่างๆ ในไคโร ขอให้แจ้งต่อคนชาติของตนที่อยู่ในประเทศอียิปต์ว่าให่ปฏิบัติตามกฎหมายอียิปต์อย่างเคร่งครัด และย้ำว่าผู้ที่จะเข้ามาทำงานในอียิปต์จะต้องได้รับวีซ่าทำงาน ไม่ใช่วีซ่าประเภทอื่นโดยเฉพาะวีซ่าท่องเที่ยว

ก่อนหน้านี้ ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าไปในอียิปต์ด้วยวีซ่าท่องเที่ยวสามารถไปขออนุญาตทำงานได้หากนายจ้างเป็นผู้ดำเนินเรื่องให้ ซึ่งเป็นเหตุให้มีคนไทยหลายรายเดินทางเข้ามาในอียิปต์โดยได้รับคำมั่นจากนายจ้างว่าเมื่อเดินทางมาถึงก็จะดำเนินเรื่องเพื่อขอใบอนุญาตให้ แต่เมื่อไปถึงนายจ้างบางรายก็ไม่ได้ดำเนินเรื่องให้ ทำให้แรงงานไทยต้องหลบทำงานในอียิปต์อย่างผิดกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาหากถูกจับได้ก็จะถูกเนรเทศกลับไทยโดยไม่ต้องถูกจำคุก ส่วนคนไทยที่อยู่เกินกำหนดวีซ่า ก็จะถูกปรับเพียง 200-300 ปอนด์อียิปต์ (ประมาณ 1,000.- บาท) ก็สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ และแม้บางคนจะถูกขึ้นบัญชีดำห้ามเดินทางเข้าอียิปต์ไว้ แต่หากกลับไปเปลี่ยนชื่อก็สามารถเดินทางเข้าอียิปต์ได้อีก

การออกมาตรการห้ามคนต่างชาติที่มีวีซ่าท่องเที่ยวทำงานในอียิปต์นี้ จะส่งผลกระทบต่อคนไทยในอียิปต์อย่างแน่นอน เพราะในอียิปต์มีคนไทยที่ยังคงอาศัยและทำงานอย่างผิดกฎหมายอยู่จำนวนหนึ่ง ทางสถานทูตก็มิได้นิ่งนอนใจ ได้ประชาสัมพันธ์บอกกล่าวให้คนไทยเหล่านี้ได้รับทราบและรีบไปดำเนินการให้เรียบร้อยก่อนที่จะถูกจับและปรับและอาจต้องถูกจำคุกด้วย สถานทูตยังขอฝากข่าวนี้ให้คนไทยที่คิดจะเดินทางเข้าไปทำงานในประเทศอียิปต์ให้ระวังให้ดี

เรื่องนี้ กระทรวงการต่างประเทศขอย้ำอีกครั้ง ย้ำอย่างแรงว่า คนไทยที่จะเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งกฎหมายของไทยที่กำหนดให้คนที่ี่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศจะต้องดำเนินการผ่านกระทรวงแรงงาน/กระทรวงการต่างประเทศ เท่านั้น และย้ำ ยืนยัน นั่งยัน นอนยัน ว่า อย่าไปเชื่อใครก็ตามที่บอกว่าให้เดินทางไปถึงก่อนแล้วจะดำิเนินการให้ เพราะร้อยทั้งร้อยไม่มีใครทำให้ตามสัญญา เหตุผลก็เพราะว่า การที่นายจ้่างจะขออนุญาตให้คนต่างชาติเข้าไปทำงานได้นั้น แทบทุกประเทศจะมีนโยบายกีดกันต่างชาติโดยจะกำหนดขั้นตอนและเงื่อนไขมากมายจนนายจ้่างไม่สามารถปฏิบัติได้ เช่นกรณีของอียิปต์ กฎหมายกำหนดให้ผู้ประกอบการที่ประสงค์จะจ้างชาวต่างชาติทำงาน จะต้องจ้างชาวอียิปต์ในอัตราส่วน ชาวต่างชาติ 1 คน ต่อชาวอียิปต์ 9 คน ลองคิดดูก็แล้วกันว่า นายจ้่างที่ไหนจะปฏิบัติได้ สมมติว่าร้านอาหารแห่งหนึ่งประสงค์จะจ้างคนไทยไปเป็นพ่อครัวในร้านอาหารเล็กๆ เพียง 1 ตำแหน่ง ซึ่งถ้าปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เจ้าของร้านจะต้องจ้างคนอียิปต์อีก 9 คน เข้ามาทำงานในร้านเล็กๆ นี้ ด้วย เมื่อทำไม่ได้ เจ้าของกิจการ (ซึ่งในอียิปต์ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหาร และร้านนวดสปา) ก็จะใช้วิธีเดิมๆ คือ ให้คนงานเข้าอียิปต์โดยวีซ่าท่องเที่ยวแล้วพอเข้าอียิปต์แล้วก็ไม่ได้ดำเนินการอะไรให้ พอวันดีคืนดีถูกตำรวจจับก็จ่ายใต้โต๊ะให้ตำรวจ ตัวเองก็รอดไป ส่วนแรงงานก็ต้องรับเคราะห์ถูกจับกุมและเนรเทศกลับไทย

ที่มา : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร
         กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล
         กระทรวงการต่างประเทศ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น