เมื่อเร็วๆ นี้ นายสมพงษ์ กางทอง
อัครราชทูตที่ปรึกษา ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์
ได้รายงานเหตุการณ์กวาดล้างจับกุมโสเภณีครั้งใหญ่กลางเมืองหลวงของประเทศมาเลเซีย
ระหว่างวันที่ 11-12 กุมภาพันธ์ 2555
เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามได้บุกตรวจค้นสถานบันเทิงและร้านอาหารหลายแห่งในย่าน Bukit Bintang, Pudu และ Seda รวบตัวหญิงชาติต่างๆ ได้เกือบ 150 คน
ในคราวเดียวกัน ในจำนวนนี้มีหญิงไทย 39 คน ถูกจับตัวไปด้วย
หญิงสาวที่ถูกจับกุมส่วนใหญ่ถูกตั้งข้อหาค้าประเวณี
ลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การทำงานโดยอาศัยวีซ่านักเรียน หรือทำงานอยู่ในสถานที่ที่ไม่ตรงกับที่ระบุไว้ในใบอนุญาต
โดยเฉพาะข้อหาค้าประเวณี...พฤติกรรมการค้าประเวณีตามสถานบันเทิง
ผับ บาร์ ในย่านบางแห่งที่สังเกตได้ง่ายว่า
จะมีผู้หญิงนั่งดื่มเป็นกลุ่มเพื่อรอจับลูกค้า แต่เมื่อถูกตำรวจจับ
ก็ปฏิเสธว่าตนแค่เข้ามาเที่ยวดื่มกิน ไม่ได้มาขายตัว... แต่ข้ออ้างอย่างนี้
ที่ประเทศมาเลเซียมีกฎหมายดักคอไว้แล้ว นั่นคือ
ผู้หญิงทุกคนที่เข้าสถานบังเทิงจะต้อง “ไปพร้อมกับสามี
(ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย) เท่านั้น”
หรือหากสามีไม่ได้ไปด้วย ก็ต้อง “พกทะเบียนสมรสติดตัว” มิฉะนั้นอาจถูกมองว่ามีเจตนารอค้าประเวณีได้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ต้องเข้าใจด้วยว่ากฏหมายของมาเลเซียย่อมเคร่งครัดตามหลักศาสนาของประเทศ
เรียกว่าบังคับใช้อย่างเข้มงวดในทุกรัฐในมาเลเซียและใช้กับทุกคน ไม่มีข้อยกเว้นไม่ว่าจะเป็นคนมาเลย์หรือต่างชาติก็ตาม
สาว “โสด” ทั้งหลายที่นิยมเที่ยวสถานบันเทิง
“ต้องระวัง” และอย่าหลงเข้าไปปะปนใกล้ชิดกับหญิงสาวที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงเช่นนี้ เพราะมีสิทธิถูกตำรวจจับในมาเลเซียได้ทุกเมื่อ!!
ที่มา : กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น