หลังจากโอ้โลม ปฏิโลมอยู่ประมาณ 10 นาทีเพื่อให้กลุ่มติดอาวุธยอมมอบตัว แต่ก็ไม่เป็นผล จึงเปิดฉากปะทะกันโดยการยิงใส่กันอย่างดุเดือดด้วยอาวุธสงครามล้วนๆ ทั้งปืนกล ปืนต่อสู้อากาศยาน และระเบิด อาร์พีจี เสียงปืนดังกึกก้องสนั่นหวั่นไหว เจ้าหน้าที่สถานทูตรวมทั้งชาวลิเบียที่มาติดต่องานต้องวิ่งหาที่หลบกระสุนกันจ้าละหวั่น
ยิงใส่กันแบบไม่ยั้งมือและไม่เสียดายกระสุนอยู่ประมาณ 10 นาที เหตุการณ์ก็ค่อยๆ คลี่คลายลง จนเวลาประมาณ 14.00 น. ทุกอย่างสงบลง หน่วยรบของรัฐบาลสามารถเข้ายึดบ้านพักดังกล่าวได้สำเร็จ พบว่าฝ่ายกองกำลังติดอาวุธเสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 3 คน และถูกจับกุม 6 คน ซึ่งเป็นวัยรุ่น
หลังจากทุกอย่างสงบลง ข้าราชการและเจ้าหน้าที่รวมทั้งชาวลิเบียที่มาติดต่อสถานทูตก็ออกจากที่หลบซ่อน ปรากฏว่าทุกคนปลอดภัยดี รอดจากวิถีกระสุนมาได้ทุกคน แต่ก็ต้องขวัญหนีดีฝ่อกันถ้วนหน้า

อาคารสถานทูตโดนกระสุนลูกหลงไปขนาดนี้แต่ยังนับว่าโชคดี เพราะบ้านพักของชาวลิเบียที่อยู่ตรงข้ามกับสถานทูตได้รับความเสียหายอย่างหนักจากลูกระเบิดอาร์พีจีที่ตกใส่บ้านทำให้ตัวอาคารและรถยนต์ได้รับความเสียหาย อาร์พีจี เป็นระเบิดที่มีอำนาจทำลายล้างสูงถ้าเกิดหลงมาตกที่สถานทูตมีหวังต้องมีคนบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแน่นอน
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวสงบลงแล้ว ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษได้เข้ามาพบกับท่านทูตเพื่อขอโทษขอโพยต่อการปราบปรามที่รุนแรงซึ่งถือเป็นเหตุสุดวิสัยเนื่องจากกองกำลังดังกล่าวมาซุ่มซ่อนตัวอยู่ใกล้สถานทูตไทยจึงต้องถูกลูกหลงไปบ้าง หลังจากเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงทางการเมืองในลิเบียเพื่อขับไล่พันเอกโมอัมมา กัดดาฟี แล้ว ลิเบียก็มีกลุ่มติดอาวุธที่ไม่ยอมวางอาวุธและเข้าร่วมกับฝ่ายรัฐบาลกระจายตัวอยู่ทั่วไปซึ่งรัฐบาลกำลังเอาจริงเอาจังกับการปราบปรามกลุ่มติดอาวุธเหล่านี้
การปราบปรามกลุ่มติดอาวุธในลิเบียนี้ เรียกได้ว่าเกิดขึ้นแทบทุกวัน จึงไม่มีอะไรจะรับประกันความปลอดภัยของผู้คนในประเทศนี้ได้ ยุทธวิธีที่ใช้ในการปราบปรามนั้นรุนแรง ไม่เป็นไปตามหลักสากล ไม่มีการบอกเตือนล่วงหน้า ไม่เน้นการเจรจา แต่จะใช้วิธียิงถล่มกันโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน คราวนี้นับว่าเจ้าหน้าที่สถานทูตยังโชคดี แต่ไม่มีใครบอกได้ว่าจะต้องประสบกับเหตุการณ์เขย่าขวัญแบบนี้อีกเมื่อใด และจะเคราะห์ร้ายบาดเจ็บล้มตายหรือไม่ แต่จะอย่างไร เจ้าหน้าที่ก็ยังต้องปฏิบัติงานในประเทศลิเบียต่อไปเพื่อผลประโยชน์ของประเทศไทยเองเนื่องจากแม้ว่าลิเบียจะยังไม่สงบแต่ก็เป็นประเทศที่มีทรัพยากรโดยเฉพาะน้ำมันปริมาณมหาศาลและยังมีความต้องการทั้งสินค้าและการลงทุนด้านการบูรณะและพัฒนาประเทศอีกมาก จึงเป็นโอกาสที่ดีของไทยที่จะเข้าไปร่วมมือในการพัฒนาลิเบียในทุกด้าน
ที่ผ่านมา ไทยได้ประโยชน์จากการส่งแรงงานเข้าไปทำงานในลิเบียอย่างมาก บางช่วงเวลามีคนงานไทยทำงานอยู่นับหมื่นๆ คน และโดยที่ลิเบียเป็นประเทศที่มีแต่น้ำมันแต่แทบจะไม่ผลิตอะไรเองเลย จึงเป็นโอกาสที่ดียิ่งของภาคธุรกิจไทยในการที่จะนำเสนอสินค้าส่งออกไปยังลิเบีย ในส่วนของการพัฒนาและบูรณะประเทศนั้น ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็นอย่างมากสำหรับลิเบีย ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ถนนหนทาง อาคารบ้านเรือน ล้วนแต่เป็นโอกาสของไทยที่สามารถจะเข้าไปลงทุนหรือร่วมพัฒนาได้อีกมาก แต่หนทางก็คงไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ปัญหาเรื่องความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังอย่างมากถ้าคิดจะไปลิเบีย เพราะแม้ว่าคนไทยจะไม่ใช่เป้าหมาย แต่โอกาสที่จะเคราะห์ร้ายถูกลูกหลงก็มีอยู่สูงมากด้วยเช่นกัน
![]() |
หน่วยรบติดอาวุธของรัฐบาลลิเบีย ยกกำลังปิดล้อมบ้านที่มีกลุ่มติดอาวุธซ่องสุมกันอยู่ |
![]() |
หน่วยรบฯ กำลังบุกเข้าไปภายในบ้าน ฝ่ายกลุ่มติดอาวุธจึงยิงสวนออกมา จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็เปิดฉากดวลกันสนั่นซอย |
![]() |
หลังจากเสียงปืนสงบลง เจ้าหน้าที่ได้สำรวจความเสียหายของตัวอาคารสถานทูต พบว่า ตัวอาคารโดนกระสุนปืนเสียหายหลายจุด |
![]() |
มีกระสุนนัดหนึ่งเจาะทะลุเข้ามาทางหน้าต่างห้องทำงานเจ้าหน้าที่ |
![]() |
กระสุนมีอำนาจทะลุทะลวงสูง แฉลบไปถูกส่วนที่กั้นเป็นห้องน้ำ |
![]() |
จุดที่นั่งรอสำหรับผู้มาติดต่อ โดนไป 3 นัด |
![]() |
ปลอกกระสุนทีเก็บได้ |
ที่มา : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงตริโปลี
: กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น