เมื่อเดือนมิถุนายน ๒๕๕๖ กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
ได้รับเชิญให้ไปบรรยายเกี่ยวกับ “ข้อพึงระวังของการไปทำงานในต่างแดน” ให้ผู้เข้ารับการอบรมครูนวดแผนโบราณของสมาคมแพทย์แผนไทย
ซึ่งจัดหลักสูตรนี้มาแล้วถึง ๒๐ รุ่น มีผู้สนใจมาเข้าคอร์สหลายร้อยคน ส่วนใหญ่เป็นสตรีหลากหลายวัย ทั้งที่เป็นสาวและสตรีวัยกลางคน
หลังจากอบรมเสร็จสิ้นก็ค่อนข้างแน่ว่า
บุคคลากรเหล่านี้จะก้าวเข้าสู่วงการนวดเพื่อสุขภาพ บางคนอาจมีความฝันที่จะเดินทางไปทำงานในต่างประเทศหรือหากมีทุนรอนอยู่บ้างก็จะผันชีวิตเป็นนักธุรกิจในสาขาอาชีพนี้
เนื่องจากการเติบโตของธุรกิจนวดกำลังพุ่งขึ้นแบบรั้งไม่อยู่ สร้างงานและโอกาสให้แก่สตรีไทยทั่วโลกมาจนนับไม่ถ้วน
แม้ว่าตัวเลขของทางราชการเมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๕ ระบุว่ามีแรงงานสตรีไทยเพียง ๔,๐๐๐ รายเท่านั้นที่ยื่นเรื่องขออนุญาตเดินทางไปทำงานนวดสปาในต่างประเทศอย่างถูกขั้นตอนตามกฏหมาย แต่ในความเป็นจริงกลับพบว่ามีสตรีไทยเดินทางไปทำงานนวดทั่วโลกในจำนวนที่มากกว่าตัวเลขที่ระบุไว้อย่างเป็นทางการหลายสิบเท่า จึงไม่ต้องแปลกใจว่า ที่ผ่านมามักปรากฏข่าวคราวของหญิงไทยไปตกทุกข์ระกำลำบากอยู่ในประเทศต่างๆ เช่น
มาเลเซีย จีน ญี่ปุ่น
เกาหลีใต้ อินเดีย มัลดิฟส์ แอฟริกาใต้ บาห์เรน ออสเตรเลีย
รัสเซีย ฯลฯ คือไม่ว่าจะใกล้หรือไกล
หญิงไทยของเราก็มีศักยภาพไปบุกเบิกงานนวดให้เขาได้ทั้งนั้น
ข้อกังวลที่กำลังเป็นปัญหาในขณะนี้ก็คือว่า การไปทำงานของหญิงไทยเกือบทั้งหมดเข้าข่ายทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตและพำนักอยู่ในต่างแดนอย่างผิดกฏหมาย
ที่สำคัญมีหญิงไทยจำนวนไม่น้อยประกอบอาชีพนี้เพียงเพื่อหาเงินให้ได้มากที่สุด
มีการลักลอบให้บริการทางเพศโดยไม่คำนึงว่าพฤติกรรมเช่นนั้นเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของไทยและทรยศต่อจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ
สิ่งหนึ่งที่กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยฯ ได้ย้ำระหว่างการฝึกอบรม คือ การประชาสัมพันธ์เตือนภัยเกี่ยวกับงานประเภทนี้
โดยยกกรณีปัญหาที่เคยเกิดขึ้นเป็นรายประเทศ
ดังนี้
มาเลเซีย เป็นประเทศที่หญิงไทยไปประสบปัญหามากที่สุด
เพราะความที่มาเลเซียเป็นประเทศเพื่อนบ้าน การลักลอบเดินทางไปทำงานจึงทำได้ง่าย ทั้งๆ ที่รัฐบาลมาเลเซียไม่มีนโยบายสนับสนุนให้คนต่างชาติทำงานประเภทนี้เลย
นอกจากนี้ ยังมีขบวนการมิจฉาชีพนำพาหญิงไทยข้ามชายแดนไปทำงานนวดมือ
นวดเท้า และนวดสปา โดยหลอกลวงว่ามีรายได้ดี
นายจ้างที่มาเลเซียจะช่วยขอใบอนุญาตทำงานให้ได้ในภายหลัง ซึ่งในที่สุดแล้วผู้หญิงจะถูกบังคับให้ยอมขายตัว
ถูกกักขัง และบางคนถูกทำร้ายร่างกายด้วย
บาห์เรน มักปรากฏข่าวไม่ดีเกิดขึ้นกับหญิงไทยบ่อยครั้ง ที่บาห์เรนจะมีคนไทยทำหน้าที่เป็น
แม่เล้า หรือ แม่แท็ก คอยจัดหาผู้หญิงส่งให้สถานบริการเถื่อน
ซึ่งมีทั้งกรณีเต็มใจและถูกหลอกลวง หลายคนติดหนี้สินพะรุงพะรังหลายแสนบาท
ถูกตำรวจจับกุม ต้องหลบหนีอย่างทุลักทุเลมาพึ่งสถานทูตไทยเป็นประจำ
อินเดีย ในระยะหลังมีหญิงไทยจำนวนมากเดินทางไปทำงานตามร้านนวดซึ่งมีอยู่อย่างดาษดื่นตามเมืองใหญ่ต่างๆ แต่โดยข้อเท็จจริงแล้วงานประเภทนี้แทบไม่มีช่องทางที่จะทำได้อย่างถูกกฏหมายเลย เพราะอินเดียมีกฏเหล็กกำหนดเงื่อนไขในการออกใบอนุญาตทำงานสำหรับคนต่างด้าวว่า ต้องมีสัญญาจ้างที่ระบุรายได้สูงถึง ๒๕,๐๐๐
ดอลลาร์สหรัฐ ต่อปี (ราว ๗๕๐,๐๐๐ บาท) โอกาสทำงานในประเทศนี้จึงริบหรี่อย่างมาก
รัสเซีย เป็นประเทศที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล
แต่หญิงไทยก็อุตส่าห์ดั้นด้นเดินทางไปจนถึงเพื่อทำงานนวด แม้ว่าส่วนใหญ่จะมีนายจ้างถูกต้อง แต่ปัญหาของหญิงไทยคือแทบจะพูดจาสื่อสารกับนายจ้างไม่รู้เรื่อง อ่านสัญญาภาษารัสเซียไม่ได้ และปรับตัวกับสภาพแวดล้อมไม่ได้
จึงยากลำบากไปหมดทุกเรื่อง
ยังมีกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศอื่นๆ
อีกหลายแห่งจนยากจะสาธยายได้หมด ข้อมูลเหล่านี้หญิงไทยต้องนำไปไตร่ตรองอย่างรอบคอบก่อนจะตัดสินใจเดินทางไปเสี่ยงโชคในต่างแดน
การเตือนภัยข้างต้นอาจทำลายความฝันที่สวยงามของหญิงไทยบ้าง
แต่เราก็ต้องเตือนกันไว้ด้วยความเป็นห่วงในสวัสดิภาพของพวกเขา
... ขอให้ทุกคนที่คิดจะไปทำงานยังต่างแดนจงมีสติและตั้งอยู่ในความไม่ประมาทก็แล้วกัน
ติดตามข่าวสารคุ้มครองดูแลคนไทยในต่างประเทศได้ที่ www.consular.go.th http://protectthaicitizen.blogspot.com/
หรือ
.................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น