ปัจจุบันมีนักศึกษาจำนวนไม่น้อยที่เรียนจบปริญญาตรีและปริญญาโทในประเทศไทยนิยมเดินทางไปฝึกงานในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อขอวีซ่าจากสถานทูตอเมริกันผ่านแล้วส่วนใหญ่ก็จะได้งานทำตามบริษัทห้างร้านต่างๆ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ คาสิโน
สถานบันเทิง ฯลฯ บางคนไปฝึกงานเป็นปีจนพบรักกับคนอเมริกัน ถึงขั้นตกลงปลงใจแต่งงานเพื่อจะตั้งรกรากอยู่ที่อเมริกาอย่างถาวรก็มีเยอะ
แต่บางครั้งเรื่องราวอาจไม่ราบรื่นอย่างที่คิด...กรณีที่อยากจะขอยกเป็นอุทธาหรณ์ก็คือมีนักศึกษาหญิงรายหนึ่งเดินทางไปฝึกงานแบบนี้ที่สหรัฐอเมริกา ต่อมาได้สมรสกับคนอเมริกันหลังจากนั้นจึงเดินทางมายื่นเรื่องต่อสถานทูตไทยที่กรุงวอชิงตัน
ดี.ซี. เพื่อขอหนังสือรับรองเป็นหลักฐานในการเปลี่ยนสถานภาพของการพำนักอาศัย
จากนักศึกษาฝึกงานเป็นผู้ถือบัตรกรีนการ์ด(Green Card holder)
ตามสิทธิอันพึงได้หลังสมรส
ปัญหามาเกิดขึ้นตรงที่ก่อนสถานทูตจะออกหนังสือรับรองให้มีขั้นตอนต้องตรวจสอบว่า
บุคคลผู้นั้นเคยมีประวัติเป็นผู้รับทุนการศึกษาของรัฐหรือมีหนี้สินค้างชำระกับหน่วยงานของรัฐหรือไม่ผลตรวจปรากฏว่า เธอเคยขอกู้เงินจากกองทุนเพื่อการศึกษา เช่น
กยศ. หรือ กรอ. และยังมิได้ชำระหนี้คืนเมื่อข้อเท็จจริงเป็นเช่นนี้สถานทูตก็ไม่สามารถออกหนังสือรับรองให้ได้ ความฝันที่จะปักหลักอยู่ในอเมริกาจึงต้องชะงักไปโดยปริยาย
เรื่องอย่างนี้ขอเตือนว่า การเป็นหนี้สินกับทางราชการจะเพิกเฉยไม่ได้เด็ดขาดยิ่งเป็นปัญญาชนผู้มีอนาคตยาวไกลถึงในต่างประเทศก็ยิ่งต้องระมัดระวัง ควรประพฤติตนให้ดีเป็นแบบอย่างในสังคม
โครงการให้นักศึกษากู้เงินไปเรียนถือเป็นนโยบายที่มุ่งช่วยเหลือคนเรียนดีแต่ขัดสนทุนทรัพย์ พอได้เงินแล้วเมื่อเรียนจบมาทำงานทำการก็ควรชดใช้คืนแก่รัฐทุกบาททุกสตางค์
... จะได้ไม่เกิดปัญหาในวันข้างหน้า
หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ฉบับวันอังคารที่ 9 กรกฎาคม 2556
กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
กรมการกงสุล
กระทรวงการต่างประเทศ
123 ถ.แจ้งวัฒนะ ทุ่งสองห้อง หลักสี่ กทม 10210
โทร. 0 2575 1047-51
โทรสาร 0 2575 1052
.............................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น