หนังสือพิมพ์อียิปต์รายงานข่าวว่ามีหญิงชาวอียิปต์ถูกยิงเสียชีวิตขณะขับรถอยู่ในย่านธุรกิจของกรุงไคโร ตำรวจแจ้งว่าหญิงเคราะห์ร้ายคนดังกล่าวเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับกองทุนเพื่อสตรีของหน่วยงาน สหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ในกรุงไคโร ถูกกระสุนปืนเข้าที่ศีรษะขณะขับรถอยู่ในย่านโมฮันดีซีนซึ่งเป็นย่านธุรกิจ ธนาคาร และเป็นที่ตั้งของสถานทูตหลายแห่ง (สถานทูตไทยก็ตั้งอยู่ในย่านนี้ด้วย) สาเหตุน่าจะมาจากถูกลูกหลงมากกว่าถูกฆาตกรรม เนื่องจากปัจจุบันอียิปต์กำลังประสบกับวิกฤตการบังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุมความสงบเรียบร้อยในสังคม โดยหลังจากการประท้วงใหญ่ในประเทศอียิปต์เมื่อเดือนมกราคม 2554 เพื่อขับไล่ประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัก กลไกการบังคับใช้กฎหมายของประเทศนี้ก็เรียกได้ว่าล้มเหลว เนื่องจากตำรวจไม่ได้รับความเชื่อถือและถูกเกลียดชังจากประชาชนทั่วไปเนื่องจากถูกมองว่าเป็นเครื่องมือของเผด็จการ และเป็นหน่วยงานที่มีการฉ้อราษฏ์บังหลวงมากที่สุด ในยุคการปกครองของมูบารักประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากตำรวจเป็นอย่างมาก ในช่วงการปฏิวัติ 18 วัน เห็นได้ชัดว่าตำรวจใช้ความรุนแรงกับประชาชนทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เมื่อปฏิวัติโค่นล้มประธานาธิบดีได้สำเร็จแล้ว ประชาชนจึงแสดงออกถึงความเกลียดชังตำรวจอย่างโจ่งแจ้งและไม่เชื่อฟังตำรวจอีกต่อไป ทำให้กลไกการบังคับใช้กฎหมายไม่สามารถดำเนินไปได้อย่างปกติ
ทุกวันนี้ ตามท้องถนนในกรุงไคโร ผู้ขับขี่ยวดยานต่างก็ไม่เคารพกฎจราจร และเมื่อถูกตำรวจเรียกตักเตือนหรือจะเข้าจับกุม ออกใบสั่งปรับ หรือดำเนินคดี ก็จะไม่ยอมรับ บางครั้งถึงกับยกพวกเข้าห้อมล้อมและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มี
ปัญหาอาชญากรรมก็เพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่ลักวิ่งชิงปล้น กรรโชกทรัพย์ ไปจนถึงไล่ฆ่ากันเพื่อล้างแค้น บางกรณีถึงขั้นนำตัวฆาตกรที่ฆ่าญาติของตนมาผูกกับเสาไฟฟ้ากลางเมืองแล้วเผาก็มี บางครั้งตำรวจไปจับกุมผู้กระทำผิดมาได้ บรรดาญาติพี่น้องเพื่อนบ้านก็ยกพวกมาปิดล้อมโรงพักกดดันให้ตำรวจปล่อยตัว ก็เรียกว่ากฎหมายไม่มีความหมายเพราะไม่มีใครเชื่อฟังหรือปฏิบัติตาม ทำให้สังคมอียิปต์ทุกวันนี้ต้องอยู่กันอย่างระแวดระวังตัวเองกันมากขึ้น
ในส่วนของการท่องเที่ยวซึ่งเป็นแหล่งที่มาของรายได้ที่สำคัญของอียิปต์ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน โดยนอกจากนักท่องเที่ยวจะลดจำนวนลงอย่างมากแล้ว ยังมีข่าวการลักพาตัวนักท่องเที่ยวโดยพวกเบดูอินในแถบแหลมไซนายเพื่อใช้เป็นเครื่องมือกดดันให้ปล่อยตัวญาติที่ถูกตำรวจควบคุมตัวอยู่
คนไทยที่จะไปอียิปต์ก็ขอให้ระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยให้ดี แต่ถ้าสุดวิสัยเกิดปัญหาขึ้นมาก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยได้ตลอดเวลา และขอให้คำนึงอยู่เสมอว่าในอียิปต์นักท่องเที่ยวต่างชาติคือเป้าหมายหรือเหยื่ออันโอชะของเหล่ามิจฉาชีพ นักท่องเที่ยวทุกคนที่ไปอียิปต์จะต้องได้รับประสบการณ์ถูกต้มตุ๋น หลอกลวง ฉ้อโกง บ้างไม่มากก็น้อย แต่หลายคนก็บอกว่าถึงจะถูกหลอกถูกโกงไปบ้างแต่ก็ถือว่าคุ้มเพราะอียิปต์เป็นประเทศที่น่าท่องเที่ยว ทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวของอียิปต์จัดว่าควรค่าแก่การไปเยี่ยมชมสักครั้งในชีวิต
ที่มา : thedailynewsegypt.com
: กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น