บรูไนเอาจริง จัดหนักเล่นงานพวกค้ามนุษย์

สถานเอกอัครราชทูต ณ บันดาร์เสรีเบกาวัน ประเทศบรูไน รายงานว่า ศาลประเทศบรูไนตัดสินลงโทษชายไทยในความผิดตามกฎหมายการค้ามนุษย์และลักลอบนำเข้าบุคคล โดยศาลได้ตัดสินจำคุกชายไทยรายนี้เป็นเวลา 4 ปี และปรับเป็นเงิน 20,000 ดอลลาร์บรูไน (ประมาณเกือบ 500,000 บาท ซึ่งหากไม่จ่ายเงินค่าปรับก็จะต้องถูกจำคุกแทนค่าปรับเป็นเวลา 20 เดือน) และยังจะต้องถูกโบยด้วยหวายอีก 2 ครั้ง ซึ่งถือเป็นการลงโทษที่ค่อนข้างรุนแรง

การตัดสินลงโทษตามกฎหมายค้ามนุษย์ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของบรูไนนับแต่มีการใช้กฎหมายนี้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2004    และที่สำคัญคือ ผู้ต้องโทษและเหยื่อเป็นคนไทย (งามหน้าจริงๆ) เรื่องนี้ถูกเผยแพร่อย่างกว้างขวางโดยสื่อมวลชนบรูไน ระบุว่าชายไทยคนดังกล่าวชักชวนหญิงไทยมาค้าประเวณีที่ประเทศบรูไน มีการจัดหาที่พักและชักชวนลูกค้าให้มาใช้บริการ และหักเงินจากค่าบริการเพื่อเป็นค่านายหน้าในอัตราสูง ซึ่งแม้ข้อเท็จจริงจะปรากฏว่าหญิงไทยเองประกอบอาชีพค้าประเวณีด้วยความยินยอมและถูกหักค่านายหน้า (แม้ว่าจะไม่ค่อยเต็มใจนัก) อีกทั้งไม่ปรากฎว่ามีการข่มขู่หรือทำร้ายร่างกายใดๆ ก็ตาม ศาลบรูไนก็ไม่ปราณีโดยให้เหตุผลว่าการหาประโยชน์จากคนอื่นไม่ว่าจะในรูปแบบใดและเหยื่อจะยินยอมหรือไม่เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้

เดิมชั้นต้นศาลบรูไนตัดสินโทษสูงกว่านี้ แต่ปรับลดลงมาพอสมควรด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรมเนื่องจากชายไทยรายนี้ยังมีภาระต้องเลี้ยงดูครอบครัวในประเทศไทย และยังยอมรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
เรื่องนี้เห็นได้ว่า ขณะนี้ทุกประเทศ โดยเฉพาะประเทศในอาเซียนกำลังเอาจริงเอาจังกับปัญหาการค้ามนุษย์ มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มรูปแบบและเข้มงวด ทั้งยังมีความตกลงให้ความร่วมมือมีการสร้างเครือข่ายทั่วไปเพื่อช่วยกันดูแลปัญหานี้

ต่อไปนี้ ใครก็ตามที่ยังคิดจะทำนาบนหลังคน หลอกลวง เอาเปรียบคนอื่น ระวังให้ดี อย่าหวังจะรอดไปได้ง่ายๆ ในประเทศไทยเอง การค้ามนุษย์นอกจากจะถูกลงโทษทั้งจำทั้งปรับแล้ว ยังมีมาตรการ ยึดทรัพย์ผู้กระทำผิดอีกด้วย ข้ออ้างที่ว่า เหยื่อยินยอมเองก็จะใช้ไม่ได้อีกต่อไป

ที่มา : สถานเอกอัครราชทูต ณ บันดาร์เสรีเบกาวัน
          กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
          กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ