ข่าวด่วนจากกรุงโซล...
วันพฤหัสบดีที่ ๒๓ พฤษภาคม
๒๕๕๖
สำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้แถลงข่าวการจับกุมนายปาร์ก มู บอง อายุ ๕๒ ปี
เจ้าของกิจการร้านนวดแผนไทย (Thai Massage )
หลายแห่งในจังหวัดคยองกี ในข้อหามีพฤติกรรมล่อลวงสตรีไปค้าประเวณี กักขังหน่วงเหนี่ยว ล่วงละเมิดทางเพศและยึดทรัพย์สินของผู้อื่น
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติการบุกเข้าตรวจค้นสถานให้บริการหลายแห่งในเขตเมืองซีฮึง เมือง
อันซาน
เมืองซูวอน และเมืองอึยวัง
ผลการปฏิบัติสามารถช่วยเหลือสตรีต่างชาติได้จำนวน ๑๔ ราย
ทั้งหมดเป็นสตรีไทย
ผู้อ่านหลายคนคงคาดไม่ถึงว่าประเทศ
“เกาหลีใต้”ที่คนไทยเรารู้จักกันอย่างดี ประเทศที่เรารู้จักกันอย่างดี
ประเทศที่เรามักได้เห็นแง่มุมอันสวยงามจากการถ่ายทอดของภาพยนตร์หรือซีรีย์เรื่องต่างๆ
เป็นตัวเลือกอันดับแรกๆ ในการเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางและหมดเงินไปกับค่าใช้จ่ายมากนัก
จะมีการหลอกลวงเช่นนี้เกิดขึ้น
สำหรับกรณีนี้
ต้องขอบอกว่าคนบางกลุ่มพวกเขารู้อยู่แก่ใจดีว่า
สถานบริการนวดแผนไทยที่ประเทศเกาหลีใต้นั้นกำลังเป็นที่นิยมแพร่หลายเพียงใด
กิจการนี้ทั้งสร้างงานและสร้างโอกาสขุดทองให้แก่หญิงไทยจำนวนหนึ่งที่พร้อมจะเดินทางไปเสี่ยงโชค
พวกเธอรู้ดีว่า
แค่ไปทำหนังสือเดินทางไทยหนึ่งเล่ม
ซื้อตั๋วเครื่องบินไป-กลับกรุงโซล
แค่นี้ก็สามารถเดินทางเข้าไปอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ได้นานถึง ๙๐
วัน
นี่คือโอกาสทองของหญิงไทยที่ถนัดงานประเภทนี้ ถึงแม้ว่าจะเข้าข่ายเป็นการลักลอบทำงานอย่างผิดกฏหมาย
และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีใต้จะปราบปรามอย่างจริงจังก็ตาม
หลายคนเคยได้ยินข่าวเตือนภัยจากหลายหน่วยงานราชการจากในสื่อต่างๆ
รวมทั้งใน “คู่สร้างคู่สม” ที่ขอให้ระวังการถูกหลอกลวงจากนายหน้าที่ชักชวนให้เดินทางไปทำงานนวดแผนไทย นวดสปา
นวดมือนวดเท้า หรืองานบริการตามสถานบันเทิงในต่างประเทศ เพราะธุรกิจประเภทนี้มีความสุ่มเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ อาจถูกกักขังจนสิ้นอิสรภาพ กระทั่งเลยเถิดไปจนถูกกระทำทารุณกรรมสารพัดรูปแบบก็เป็นได้ แต่กระนั้นพวกเธอก็พร้อมที่จะเสี่ยง.. ด้วยเหตุผลเพราะว่า
รายได้สูง... งานสบาย ...และไม่มีใครรู้
นายหน้าที่เมืองไทยชอบโฆษณาชวนเชื่ออย่างหรูหราให้พวกเธอฟังว่า ทำงานนวดที่เกาหลีใต้มีรายได้เป็นเงินเดือนถึง
1,000,000 วอน (แลกที่เมืองไทยได้เกือบ ๒๕,๐๐๐
บาท) และจะได้ค่าทิปอีกครั้งละ ๔,๐๐๐ – ๖,๐๐๐
วอน ยิ่งหากเต็มใจให้บริการทางเพศด้วยแล้ว ก็จะได้เงินเพิ่มพิเศษอีกครั้งละ ๑๐,๐๐๐ – ๓๐,๐๐๐ วอน
คำนวณเบ็ดเสร็จเมื่อทำงานครบ ๓ เดือนจะมีรายได้ตกกว่าแสนบาททีเดียว
แต่สิ่งที่พวกเธอไม่เคยรู้ก็คือว่า นายหน้าที่พาผู้หญิงไปส่งให้นายจ้างที่เกาหลีใต้นั้น พวกนี้จะได้เงิน
แบบสบายๆ ถึง
๗๕,๐๐๐ บาท ต่อการจัดหาผู้หญิงแค่
๑ คน...
ซึ่งนี่แหละที่ไม่ต่างจากการค้ามนุษย์ที่สังคมของผู้เจริญเขารังเกียจเดียจฉันท์กันนัก ไม่ว่าหญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อรายนั้นจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม
เมื่อไม่นานมานี้ มีกรณีที่สถานทูตไทย ณ
กรุงโซล
ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีใต้ เพื่อบุกเข้าช่วยเด็กสาวอายุ ๑๗ ปี
ซึ่งถูกญาติคนไทยพาไปทำงานนวดประเภทที่มีบริการแอบแฝง การช่วยเหลือครั้งนั้นกระทำอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งสามารถส่งตัวเด็กคนนี้เดินทางกลับประเทศไทยได้อย่าง
ปลอดภัย
แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ทุกฝ่ายรู้สึกเศร้าใจ
เพราะคาดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นกับเยาวชนที่ยังอยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียน
สังคมไทยจึงต้องตระหนักถึงปัญหานี้ ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา
อย่าปล่อยให้มันลุกลามบานปลายไปมากกว่านี้เลย...
ไม่เช่นนั้น เราอาจจะช่วยพวกเขาไม่ทัน
...........................................
นิตยสารคู่สร้างคู่สม
ปีที่ 34 ฉบับวันที่ 801 วันศุกร์ที่ 14 มิ.ย. 2556
คอลัมน์คนไทย
กับภัยรอบโลก หน้า 94 – 95
*****************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น