สมศรี (นามสมมติ) มีอายุอานามเข้าสู่วัยกลางคนแล้ว
ผ่านการทำงานมาไม่น้อย แม้ชีวิตลุ่มๆ ดอนๆ
แต่เธอก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะถูกหลอกให้ไปขนยาเสพติดได้ไกลถึงประเทศบราซิล
วิบากกรรมครั้งนั้นเธอเล่าให้ฟังว่า เมื่อหลายปีก่อนขณะที่กำลังตกงาน
เดินเรื่อยเปื่อยอยู่ในกรุงเทพฯ
บังเอิญได้พบกับสตรีบุคลิกภูมิฐานสมฐานะเป็นนักธุรกิจ
หลังจากนั่งคุยกันสักพักเธอถูกชักชวนให้เป็นเพื่อนร่วมเดินทางไปบราซิล
เพื่อรับสินค้านำกลับมาขายในเมืองไทย ผู้หญิงคนนั้นบอกเธอว่า
อย่าคิดอะไรมากเลย แค่ไปเป็นเพื่อนเพราะเธอเองก็กลัวที่จะเดินทางตามลำพัง
ขากลับแค่ช่วยเธอถือข้าวของมาด้วยเท่านั้น เป็นเรื่องง่ายๆ
แล้วแต่จะสมัครใจ พูดจบก็ให้เบอร์โทรศัพท์ไว้
สมศรีใช้เวลาคิด
อยู่สองสามวัน ในที่สุดก็ตอบตกลง
แม้ว่าเธอจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้และไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศมาก่อน
ผู้หญิงคนนั้นบอกให้เธอรีบไปทำหนังสือเดินทาง
แล้วบินไปเจอกันที่ประเทศมาเลเซีย
จากนั้นค่อยนั่งเครื่องต่อไปบราซิลด้วยกัน
ทุกอย่างราบรื่นตามคำบอกไว้ทั้งหมด
เธอมีตั๋วเครื่องบินจากมาเลเซียไปแวะที่ประเทศอาร์เจนตินาก่อน
และจากนั้นก็มีตั๋วเดินทางต่อไปบราซิล
แม้จะแปลกใจอยู่บ้างว่าทำไมเดินทางแต่ละครั้งจึงมักซื้อตั๋วเพียงขาเดียว
และไม่เคยเห็นตั๋วบินกลับประเทศไทยเลย
จนกระทั่งเมื่อไปจนถึงบราซิล
แล้วนั่นแหละที่เธอเริ่มรู้สึกไม่ชอบมาพากล
หญิงคนนั้นให้เธอพักรออยู่แต่ที่โรงแรมเป็นเวลานานถึง ๓ สัปดาห์
เปลี่ยนที่พัก ๒-๓ ครั้ง จนเธอเริ่มคิดถึงบ้าน
สินค้าที่จะรับก็ไม่เห็นมาส่งสักที จะกลับเมืองไทยวันไหนไม่รู้
เมื่อถามก็บอกแต่ให้รอก่อน
จนวันหนึ่งมีชายผิวดำมาพบที่โรงแรมนำของสามสี่อย่างมาให้
เป็นสมุดบันทึกอย่างดี เครื่องคิดเลข เครื่องประดับ กิ๊ฟติดผม ต่างหู
กระดุม ฯลฯ
ชายคนนั้นย้ำให้เธอเก็บไว้ในกระเป๋าเดินทางอย่างดีแล้วจะซื้อตั๋วเครื่องบิน
ให้นำของไปส่งให้เพื่อนซึ่งรอรับอยู่ที่มาเลเซีย
สมศรีเริ่มรู้สึก
กลัวอย่างบอกไม่ถูกเพราะพวกเขาพยายามกล่อมให้เธอเดินทางกลับเพียงคนเดียว
แต่เธอไม่ยอม ยังไงก็ต้องไปพร้อมกับเพื่อนคนไทยที่มาด้วยกัน
เธอรู้ดีว่าต้องมีบางอย่างผิดปกติแต่เธอไม่มีทางเลือกอื่นเลย
เช้าวันรุ่งขึ้นเธอและผู้หญิงไทยคนนั้นออกเดินทางไปสนามบินพร้อมกัน
หลังจากเช็คกระเป๋าได้ไม่นานเธอก็ถูกตำรวจจับกุมทันทีด้วยข้อหาลักลอบขน
โคเคนหลายกิโลกรัม
สมศรีต้องใช้ชีวิตอยู่ในคุกหลายปีกว่าจะพ้นโทษออกมาได้
เธอเข็ดจนตายจากการหลงเชื่อและคบหากับคนแปลกหน้า
เรื่องราวนี้
เป็นเหตุการณ์จริง และเกิดขึ้นอย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า ...คนแปลกหน้า..
คนผิวดำ...พาเที่ยว ...อามิสสินจ้าง.. ฝากของ....
สถานการณ์น่ากลัวกว่าที่คิดไว้มาก
เหยื่อเกือบทุกรายตกอยู่ในภาวะต้องตกกระไดพลอยโจน
แม้จะรู้ว่าถูกหลอกแต่ทุกอย่างก็สายเกินแก้ไข
...............................................
กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
กรมการกงสุล
กระทรวงการต่างประเทศ
123 ถ.แจ้งวัฒนะ ทุ่งสองห้อง หลักสี่ กทม 10210
โทร. 0 2575 1047-51
โทรสาร 0 2575 1052
ประสบการณ์ของคนอื่น มีไว้สอนและเตือน คน เพราะ คนทำผิดพลาดไปได้รับบทเรียนราคาแพง ก็ นำมาแชร์ไว้ สอนและเตือน คนได้อีก จำนวนมาก จ้าๆ อย่าพลาด พลั้ง เพียง อย่า ตกเป็น เหยื่อ โจร
ตอบลบThx
ตอบลบ