











ทูตไทยที่โปรตุเกสนำข้าราชการออกโครงการกงสุลสัญจรและเยี่ยมแรงงานไทย
นายกาศิวัฒน์ ปะรักกะมานนท์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกสนำข้าราชการสถานทูตออกโครงการกงสุลสัญจรเพื่อให้บริการงานด้านกงสุลแก่คนไทยในโปรตุเกสที่พนักอยู่ห่างไกลจากกรุงลิสบอนและเยี่ยมแรงงานไทย โดยกิจกรรมมีดังนี้
1. โครงการกงสุลสัญจรที่เมือง Cadaval และเมือง a Dos Cunhados ระยะทาง 70 กิโลเมตร ทางเหนือของกรุงลิสบอน วันที่ 12 สิงหาคม 2553
2. โครงการกงสุลสัญจรที่เมือง S. Teutonio แคว้น Alentejo ระยะทาง 250 กิโลเมตร ทางใต้ของกรุงลิสบอน วันที่ 14 – 15 สิงหาคม 2553
วันที่ 12 สิงหาคม 2553 กงสุลสัญจรทางตอนเหนือของกรุงลิสบอน:
-เอกอัครราชทูตฯ และเจ้าหน้าที่สถานทูตได้ออกพบปะแรงงานไทยกว่า 80 คนที่อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทนายหน้าจัดหาแรงงานไทย (Seacross LDA) ให้กับนายจ้างโปรตุเกส ณ ฟาร์มเกษตรสองแห่งที่ “Frutus” ในเขตเมือง Cadaval ฟาร์มแห่งนี้มีแรงงานไทย ส่วนใหญ่เป็นหญิง จำนวน 17 คน ทำงานเก็บ/ คัดแยกลูกแพร์และพลัม และที่ Lino’s Farm เมือง A Dos Cunhados ในเขต Torres Vedras มีแรงงานไทยซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาย จำนวน 70 คน (แรงงาน 20 คนเป็นแรงงานใหม่เพิ่งเดินทางเข้ามาได้เพียง 3 เดือน) ทำงาน เก็บ/ คัดแยก / บรรจุกล่องพืชผัก เช่น พริกหวาน มะเขือเทศ แตงกวา ผักกาดหอม
นายกาศิวัฒน์ ปะรักกะมานนท์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกสนำข้าราชการสถานทูตออกโครงการกงสุลสัญจรเพื่อให้บริการงานด้านกงสุลแก่คนไทยในโปรตุเกสที่พนักอยู่ห่างไกลจากกรุงลิสบอนและเยี่ยมแรงงานไทย โดยกิจกรรมมีดังนี้
1. โครงการกงสุลสัญจรที่เมือง Cadaval และเมือง a Dos Cunhados ระยะทาง 70 กิโลเมตร ทางเหนือของกรุงลิสบอน วันที่ 12 สิงหาคม 2553
2. โครงการกงสุลสัญจรที่เมือง S. Teutonio แคว้น Alentejo ระยะทาง 250 กิโลเมตร ทางใต้ของกรุงลิสบอน วันที่ 14 – 15 สิงหาคม 2553
วันที่ 12 สิงหาคม 2553 กงสุลสัญจรทางตอนเหนือของกรุงลิสบอน:
-เอกอัครราชทูตฯ และเจ้าหน้าที่สถานทูตได้ออกพบปะแรงงานไทยกว่า 80 คนที่อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทนายหน้าจัดหาแรงงานไทย (Seacross LDA) ให้กับนายจ้างโปรตุเกส ณ ฟาร์มเกษตรสองแห่งที่ “Frutus” ในเขตเมือง Cadaval ฟาร์มแห่งนี้มีแรงงานไทย ส่วนใหญ่เป็นหญิง จำนวน 17 คน ทำงานเก็บ/ คัดแยกลูกแพร์และพลัม และที่ Lino’s Farm เมือง A Dos Cunhados ในเขต Torres Vedras มีแรงงานไทยซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาย จำนวน 70 คน (แรงงาน 20 คนเป็นแรงงานใหม่เพิ่งเดินทางเข้ามาได้เพียง 3 เดือน) ทำงาน เก็บ/ คัดแยก / บรรจุกล่องพืชผัก เช่น พริกหวาน มะเขือเทศ แตงกวา ผักกาดหอม
-ในโอกาสนี้ท่านทูตได้นำคณะเข้าเยี่ยมสถานที่พักของแรงงานไทยและสอบถามแรงงานเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่อย่างเป็นกันเอง พร้อมทั้งรับฟังปัญหาของแรงงานและให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ในการดำรงชีวิตในประเทศโปรตุเกส นอกจากนี้ท่านทูตยังได้ช่วยเจรจาต่อรองกับฝ่ายนายจ้างและบริษัทนายหน้าที่ดูแลด้านสวัสดิการให้แรงงานไทย เพื่อปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่บางอย่างให้ดีขึ้นเท่าที่จำเป็น อาทิ ปัญหาที่พักแออัด การอำนวยความสะดวกให้แรงงานไทยในการส่งเงินกลับบ้าน ตลอดจนการจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานที่จำเป็นให้เพียงพอกับจำนวนแรงงานไทย
อย่างไรก็ดีในมุมมองของนายจ้างซึ่งได้ถ่ายทอดความรู้สึกทั้งด้านบวกและด้านลบเกี่ยวกับแรงงานไทย พบว่ามี แรงงานไทยเพียงส่วนน้อยที่จำเป็นต้องปรับปรุงพฤติกรรมที่อาจเป็นอันตรายต่อส่วนรวมหรือส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน เช่น การดื่มสุราในระหว่างการทำงาน การเล่นการพนัน การไม่รักษาความสะอาดบริเวณที่พัก ตลอดจนการใช้ของส่วนรวมอย่างไม่ระมัดระวัง ซึ่งในเรื่องนี้ท่านทูตได้ย้ำขอให้แรงงานไทยตั้งใจทำงานและประพฤติตนให้อยู่ในกฎระเบียบที่นายจ้างกำหนดไว้ อีกทั้งขอให้มีความสามัคคี ช่วยเหลือกันและขอให้พยายามรักษาชื่อเสียงของแรงงานไทยให้เป็นที่พอใจของนายจ้าง และได้ตักเตือนผู้ประพฤติตนไม่เหมาะสม ซึ่งอาจถูกนายจ้างพิจารณาไม่ต่อสัญญาในปีต่อไปได้ นอกจากนี้ยังได้เตือนให้แรงงานไทยหมั่นดูแลสุขภาพอนามัยของตนให้ดี โดยเฉพาะให้ระมัดระวังสารเคมีที่มากับผลิตผลการเกษตรซึ่งอาจทำให้มีอาการทางผิวหนังและเจ็บป่วยได้ง่าย
วันที่ 14 – 15 สิงหาคม 2553 กงสุลสัญจรทางตอนใต้ของกรุงลิสบอน:
-วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม 2553 เอกอัครราชทูตและเจ้าหน้าที่สถานทูตได้ออกพบปะแรงงานไทยเกือย 100 คนที่อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทนายหน้าจัดหางาน (Seacross LDA) ณ บริเวณฟาร์มเกษตรทางภาคใต้ของโปรตุเกสที่ Maravilha Farm ตั้งอยู่ที่เมือง S. Teutonio ในแคว้น Alentejo มีแรงงานไทย 60 คน ทำงานเก็บผลราสเบอรี่ ในจำนวนนี้เป็นแรงงานใหม่กว่าครึ่งซึ่งเพิ่งเดินทางเข้าไปทำงานได้เพียงสามเดือน นอกจากนี้ท่านทูตและคณะยังได้เดินทางไปเยี่ยมแรงงานไทยซึ่งเป็นคนงานในโรงงานของบริษัทต่างชาติ คือ บริษัท Barryport (อเมริกัน) และบริษัท Frupor (ฮอลแลนด์) ในเมือง S. Teutonio เช่นกัน โรงงานทั้งสองแห่งมีแรงงานไทยรวมกัน 40 คน แต่โดยที่เป็นเวลาหลังเลิกงานแล้ว จึงได้แวะเยี่ยมสถานที่พัก และได้พูดคุย สอบถามความเป็นอยู่ของแรงงานไทยกลุ่มนี้โดยถ้วนหน้า
-วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม 2553 เอกอัครราชทูตและเจ้าหน้าที่สถานทูตได้ออกพบปะแรงงานไทยเกือย 100 คนที่อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทนายหน้าจัดหางาน (Seacross LDA) ณ บริเวณฟาร์มเกษตรทางภาคใต้ของโปรตุเกสที่ Maravilha Farm ตั้งอยู่ที่เมือง S. Teutonio ในแคว้น Alentejo มีแรงงานไทย 60 คน ทำงานเก็บผลราสเบอรี่ ในจำนวนนี้เป็นแรงงานใหม่กว่าครึ่งซึ่งเพิ่งเดินทางเข้าไปทำงานได้เพียงสามเดือน นอกจากนี้ท่านทูตและคณะยังได้เดินทางไปเยี่ยมแรงงานไทยซึ่งเป็นคนงานในโรงงานของบริษัทต่างชาติ คือ บริษัท Barryport (อเมริกัน) และบริษัท Frupor (ฮอลแลนด์) ในเมือง S. Teutonio เช่นกัน โรงงานทั้งสองแห่งมีแรงงานไทยรวมกัน 40 คน แต่โดยที่เป็นเวลาหลังเลิกงานแล้ว จึงได้แวะเยี่ยมสถานที่พัก และได้พูดคุย สอบถามความเป็นอยู่ของแรงงานไทยกลุ่มนี้โดยถ้วนหน้า
-วันอาทิตย์ ที่ 15 สิงหาคม 2553 เอกอัครราชทูตและเจ้าหน้าที่สถานทูตได้ออกพบแรงงานไทยอีกกลุ่มหนึ่งที่อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทนายหน้าจัดหางาน DFRM International Services ซึ่งในวันอาทิตย์เป็นวันหยุดงาน และแรงงานไทยได้มารวมตัวกัน (ประมาณ 60 คน) เพื่อจัดกิจกรรมเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และจัดแข่งขันกีฬาบริเวณบ้านพักแรงงานไทยที่เมือง S. Teutonio ในโอกาสดังกล่าวท่านทูตได้รับเชิญให้เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและกล่าวนำถวายพระพรชัยมงคลต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งแรงงานไทยในพื้นที่ได้ร่วมกันจัดขึ้นและสถานทูตได้เปิดให้แรงงานไทยที่มาร่วมงานลงนามถวายพระพรด้วย นอกจากนี้ท่านทูตยังได้พูดคุยตอบปัญหาข้อข้องใจของแรงงานไทยในด้านต่างๆ รวมทั้งเป็นสื่อกลางระหว่างบริษัทนายจ้างกับบริษัทนายหน้าที่ดูแลแรงงานไทยเกี่ยวกับเรื่องสวัสดิการและการดูแลความเป็นอยู่ของแรงงานไทยโดยทั่วไป
อนึ่ง ในการจัดกิจกรรมกงสุลสัญจรทั้งสองครั้งดังกล่าวข้างต้น สถานทูตได้ใช้โอกาสดังกล่าวแจกจ่ายเอกสารคู่มือคนไทยในโปรตุเกสซึ่งสถานทูตจัดทำขึ้นใหม่ และทำการเผยแพร่แผนอพยพคนไทยในโปรตุเกสด้วย ทั้งนี้โดยชี้แจงต่อแรงงานไทยว่า ถึงแม้โปรตุเกสจะมิได้เป็นประเทศที่อยู่ในเขตภัยพิบัติทางธรรมชาติหรือมีภัยสงคราม แต่โดยที่คนไทยกลุ่มใหญ่ที่สุดที่เข้าไปอยู่ในโปรตุเกสเป็นแรงงานไทยดังนั้นสถานทูตจึงจัดทำแผนอพยพกรณีฉุกเฉินขึ้นโดยกำหนดให้ผู้ประสานงานคนไทยที่ทำงานกับบริษัทนายหน้าโปรตุเกสทำหน้าที่เป็นแกนนำในการประสานติดต่อกับแรงงานไทย เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นจากสถานทูตไปยังแรงงานไทยได้ตลอดเวลา
ปัจจุบันมีแรงงานไทยเข้าไปทำงานในภาคเกษตรกรรมของโปรตุเกสจำนวนเกือบ 600 คนแล้ว ซึ่งนับเป็นการขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงเวลา 3 ปี ที่ผ่านมา โดยเริ่มแรกมีแรงงานไทยอยู่เพียง 50 คนเท่านั้น
อนึ่ง ในการจัดกิจกรรมกงสุลสัญจรทั้งสองครั้งดังกล่าวข้างต้น สถานทูตได้ใช้โอกาสดังกล่าวแจกจ่ายเอกสารคู่มือคนไทยในโปรตุเกสซึ่งสถานทูตจัดทำขึ้นใหม่ และทำการเผยแพร่แผนอพยพคนไทยในโปรตุเกสด้วย ทั้งนี้โดยชี้แจงต่อแรงงานไทยว่า ถึงแม้โปรตุเกสจะมิได้เป็นประเทศที่อยู่ในเขตภัยพิบัติทางธรรมชาติหรือมีภัยสงคราม แต่โดยที่คนไทยกลุ่มใหญ่ที่สุดที่เข้าไปอยู่ในโปรตุเกสเป็นแรงงานไทยดังนั้นสถานทูตจึงจัดทำแผนอพยพกรณีฉุกเฉินขึ้นโดยกำหนดให้ผู้ประสานงานคนไทยที่ทำงานกับบริษัทนายหน้าโปรตุเกสทำหน้าที่เป็นแกนนำในการประสานติดต่อกับแรงงานไทย เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นจากสถานทูตไปยังแรงงานไทยได้ตลอดเวลา
ปัจจุบันมีแรงงานไทยเข้าไปทำงานในภาคเกษตรกรรมของโปรตุเกสจำนวนเกือบ 600 คนแล้ว ซึ่งนับเป็นการขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงเวลา 3 ปี ที่ผ่านมา โดยเริ่มแรกมีแรงงานไทยอยู่เพียง 50 คนเท่านั้น
อยากทราบเงินเดือนขั้นต่ำ
ตอบลบ