เตือนแรงงานไทยไปคูเวตระวังถูกหลอก เพราะผู้ขอวีซ่าทำงานต้องมีวุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี
สถานเอกอัครราชทูต ณ คูเวตรายงานว่า ปัจจุบันรัฐบาลคูเวตได้ออกกฎหมายใหม่มาตั้งแต่ต้นปี 2553 กำหนดให้ผู้ขออนุญาตทำงานต้องมีวุฒิการศึกษาปริญญาตรีขึ้นไป และต้องมีใบรับรองประวัติจากทางการตำรวจซึ่งผ่านการกระทำนิติกรณ์ จากสถานเอกอัครราชทูตคูเว็ตประจำประเทศไทย (รับรองเอกสารที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศก่อน แล้วไปยื่นขอรับการรับรองเอกสารจากสถานเอกอัครราชทูตคูเวต) ทั้งนี้คำร้องขอวีซ่าทำงานจะใช้เวลาในการพิจารณานานพอสมควร
มีแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในประเทศคูเวตโดยวีซ่าประเภทธุรกิจ (Business Visit Visa) ซึ่งได้รับอนุญาตให้พำนักในประเทศได้นาน 30 วัน โดยเชื่อว่านายจ้างจะสามารถเปลี่ยนวีซ่าเป็นวีซ่าทำงานให้ได้ แต่ในความเป็นจริงนายจ้างจะไม่สามารถทำวีซ่าทำงานให้ได้เนื่องจากเงื่อนไขตามกฎหมายใหม่ดังกล่าว และแรงงานที่พำนักอยู่ในประเทศโดยผิดกฎหมายเมื่อจะเดินทางออกนอกประเทศจะต้องเสียเงินค่าปรับอีกด้วย
มีแรงงานบางรายหลงเชื่อคำชักชวนของนายหน้าว่าเมื่อเดินทางไปถึงคูเวตแล้วจะสามารถทำเอกสารปลอมเพื่อยื่นขอวีซ่าทำงานในคูเวตได้ ซึ่งวิธีการดังกล่าวกลับจะยิ่งทำให้แรงงานประสบปัญหามากขึ้น เพราะหากทางการคูเวตตรวจสอบได้ว่าเอกสารที่นำไปยื่นเป็นเอกสารปลอมอาจต้องถูกจับกุมคุมขังเป็นเวลานานกว่าคดีจะสิ้นสุด
สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงขอเตือนให้แรงงานไทยที่ประสงค์จะเดินทางไปทำงานในคูเวตตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้รับวีซ่าทำงานถูกต้องก่อนเดินทางไปทำงานในประเทศดังกล่าว
สถานเอกอัครราชทูต ณ คูเวตรายงานว่า ปัจจุบันรัฐบาลคูเวตได้ออกกฎหมายใหม่มาตั้งแต่ต้นปี 2553 กำหนดให้ผู้ขออนุญาตทำงานต้องมีวุฒิการศึกษาปริญญาตรีขึ้นไป และต้องมีใบรับรองประวัติจากทางการตำรวจซึ่งผ่านการกระทำนิติกรณ์ จากสถานเอกอัครราชทูตคูเว็ตประจำประเทศไทย (รับรองเอกสารที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศก่อน แล้วไปยื่นขอรับการรับรองเอกสารจากสถานเอกอัครราชทูตคูเวต) ทั้งนี้คำร้องขอวีซ่าทำงานจะใช้เวลาในการพิจารณานานพอสมควร
มีแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในประเทศคูเวตโดยวีซ่าประเภทธุรกิจ (Business Visit Visa) ซึ่งได้รับอนุญาตให้พำนักในประเทศได้นาน 30 วัน โดยเชื่อว่านายจ้างจะสามารถเปลี่ยนวีซ่าเป็นวีซ่าทำงานให้ได้ แต่ในความเป็นจริงนายจ้างจะไม่สามารถทำวีซ่าทำงานให้ได้เนื่องจากเงื่อนไขตามกฎหมายใหม่ดังกล่าว และแรงงานที่พำนักอยู่ในประเทศโดยผิดกฎหมายเมื่อจะเดินทางออกนอกประเทศจะต้องเสียเงินค่าปรับอีกด้วย
มีแรงงานบางรายหลงเชื่อคำชักชวนของนายหน้าว่าเมื่อเดินทางไปถึงคูเวตแล้วจะสามารถทำเอกสารปลอมเพื่อยื่นขอวีซ่าทำงานในคูเวตได้ ซึ่งวิธีการดังกล่าวกลับจะยิ่งทำให้แรงงานประสบปัญหามากขึ้น เพราะหากทางการคูเวตตรวจสอบได้ว่าเอกสารที่นำไปยื่นเป็นเอกสารปลอมอาจต้องถูกจับกุมคุมขังเป็นเวลานานกว่าคดีจะสิ้นสุด
สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงขอเตือนให้แรงงานไทยที่ประสงค์จะเดินทางไปทำงานในคูเวตตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้รับวีซ่าทำงานถูกต้องก่อนเดินทางไปทำงานในประเทศดังกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น