สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟชี้แจงเรื่องการขอคืนภาษีของแรงงานไทย
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ได้ออกคำชี้แจงว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อมวลชนเกี่ยวกับการขอคืนภาษีของแรงงานไทยที่ไปทำงานในอิสราเอล และเพื่อเป็นการป้องกันความสับสนและรับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง สถานเอกอัครราชทูตจึงขอชี้แจงดังนี้
- แรงงานไทยที่มีสิทธิยื่นขอคืนภาษีจากทางการอิสราเอลได้ต้องเป็นแรงงานที่ทำงานในประเทศอิสราเอลตั้งแต่พ.ศ. 2546-2548 (เว้นแต่ทำงานในปี 2549 แต่นายจ้างไม่ทราบยังคงหักภาษีเพื่อนำส่งทางการอิสราเอลไว้ในอัตราเดิม) โดยต้องยื่นคำขอภายใน 6 ปี นับแต่ปีที่มีสิทธิขอคืนภาษีจากทางการอิสราเอล เช่น คนงานที่ทำงานในปี 2546 ต้องขอคืนภายในปี พ.ศ. 2552 คนงานที่ทำงานในปี 2547 ต้องขอคืนภายในปี 2552 คนงานที่ทำงานอยู่ในปี 2547 ต้องขอคืนภายในปี พ.ศ. 2543 คนที่ทำงานในปี 2548 ต้องขอคืนภายในปีพ.ศ. 2554
- การยื่นขอคืนภาษีจะดำเนินการด้วยตนเองหรือมอบอำนาจให้บุคคลหรือนิติบุคคลอื่นๆเนินการก็ได้ แต่ต้องมีหลักฐานแสดงการเสียภาษีของนายจ้าง (ฟอร์ม 106 ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญใช้ประกอบในการยื่นคำร้อง หากไม่มีแบบฟอร์ม 106 จะไม่สามารถคืนภาษีได้ เนื่องจากเอกสารจะไม่ได้รับการพิจารณาจากทางการอิสราเอล
- การคืนเงินภาษี ทางการอิสราเอลจะคืนเงินภาษีให้กับคนไทยที่จ่ายภาษีไว้เกินและต้องมีหลักฐานแบบฟอร์ม 106 ประกอบการยื่น
หากมีข้อสงสัยติดต่อสอบถามได้ที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีก หมายเลขโทรศัพท์ 9729-9548412 หรือ 9729-9548431-2
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น