มัลดีฟส์ ดินแดน “สวรรค์” แห่งท้องทะเลนี้ นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝันของเหล่าขาผจญภัยแล้ว
ยังเป็น “วิมานในอากาศ” ของเหล่าแรงงานหลายคน
โดยเฉพาะแรงงานสาวชาวไทยที่หวังจะไป “ขุดทองกันกลางทะเล” โดยการสร้างรายได้จากการบริการนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามา
ธุรกิจยอดฮิตคงหนีไม่พ้นบริการสปาริมหาดที่ดูจะเป็น งานเบา แต่เงินหนาและทิปหนัก จึงยั่วใจเหล่าแรงงานให้ไม่รีรอที่จะตกปากรับคำและพร้อมบินตามฝันไปทันที
ดังนรกชังหรือสวรรค์แกล้ง...
เมื่อไปถึง แรงงานสาวเหล่านั้นกลับถูกนายจ้างกลั่นแกล้งต่างๆนานา
ทั้งกักขังห้ามมิให้ออกไปนอกที่ทำงาน ยึดหนังสือเดินทาง และเมื่อขอเดินทางกลับประเทศไทยยังถูกสั่งให้จ่ายเงินเป็นค่าชดใช้ที่นายจ้างพาตัวมาทำงานเสียอีก
ซ้ำร้ายพอแรงงานสาวยอมจ่ายเงิน นายจ้างหน้าเลือดกลับเรียกร้องเงินเพิ่มขึ้น บางรายซวยซ้อน
ถูกนายจ้างบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ด้วยหากต้องการเงินค่าจ้าง เมื่อสบโอกาสหญิงสาวเหล่านั้นจึงหลบหนีออกมาเพื่อขอความช่วยเหลือ
สถานกงสุลกิติมศักดิ์
ณ กรุงมาเล ประเทศมัลดีฟส์ จึงได้เข้าไปไกล่เกลี่ย แต่นายจ้างขาโหดกลับอ้างว่าหญิงไทยหลบหนีการทำงาน
พร้อมทั้งดำเนินการฟ้องศาลเรียกร้องค่าเสียหายนับพันเหรียญสหรัฐฯ แต่ฝ่ายไทยก็มิได้หมดความพยายาม
ได้เข้าไปเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างอีกครั้งหนึ่ง
จนในที่สุดก็ประสบผลสำเร็จ
ลูกจ้างไทยตกลงจ่ายเงินให้นายจ้างจำนวนหนึ่งเพื่อแลกกับการถอนฟ้อง
และสามารถกลับประเทศไทยได้
แม้วิมานกลางอากาศของหญิงไทยเหล่านี้จะพังครืนลงมาอย่างไม่สวยนัก
แต่ก็ถือว่ายังเคราะห์ดีกว่าอีกหลายรายที่ถึงขั้นถูกจับกุมในข้อหาค้าประเวณี
ไม่ว่าจะสมัครใจหรือถูกล่อลวงไปก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ไม่รู้จะโทษว่าเป็นความผิดของใครระหว่างคนที่จัดหางานให้
หรือคนที่เสนอตัวรับงานนั้น?
สิ่งที่กรมการกงสุล สถานทูตฯ และสถานกงสุลฯ ไทยจะสามารถจะทำได้คือการให้ข้อมูล
คำปรึกษาอย่างรอบด้านให้กับแรงงานที่คิดจะไปประกอบอาชีพที่มัลดีฟส์ ให้พิจารณาไตร่ตรอง
เนื่องจากปัจจุบันเกิดปัญหาหญิงไทยถูกหลอกลวงไปทำงานและถูกจับกุมในข้อหาค้าประเวณีเป็นจำนวนมาก
ทำให้ทางการมัลดีฟส์เริ่มเข้มงวดกับแรงงานโดยเฉพาะหญิงไทยมากยิ่งขึ้น
เพราะหากถลำลึกไปแล้วมันยากที่จะกลับลำ ทำได้อย่างเดียวคือต้องหวานอมขมกลืน หรือต้องซมซานกลับมาอย่างกรณีข้างต้น
น่าเสียดายที่คนส่วนใหญ่ไม่สนใจคำเตือนเหล่านี้
ทำให้แทบจะทุกๆนาที เส้นทางสู่ “นรก” กลับถูกเลือกเดินมากกว่าเส้นทางสู่ “สวรรค์”...
ที่มา: กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น