คงยังจำกันได้ถึงกรณีเด็กไทยถูกปล่อยเกาะหลังจากไปศึกษาภาษาอังกฤษระยะสั้น
ที่ต่างประเทศช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน มาคราวนี้เป็นกรณีของเด็กสาวมหาวิทยาลัยในโครงการ
Work & Travel
ได้ไปติดคุกติดตารางที่สหรัฐอเมริกา แต่กรณีนี้ไม่สามารถกล่าวโทษใครได้เลย
เพราะเป็นผลมาจากการกระทำของตัวเธอเองล้วนๆ
เด็กสาวรายนี้
เดินทางไปสหรัฐฯ และเข้าทำงานในสวนสนุกชื่อดังแห่งหนึ่ง แต่สาวเจ้ากลับนึกสนุกไปเสี่ยงดวงที่
Atlantic City บ่อนการพนันชื่อดังของสหรัฐฯ
แต่โชคไม่เข้าข้าง เพราะสิ่งที่เธอได้ติดไม้ติดมือกลับไปคือ หนี้พนันที่มีมูลค่าถึง
8,000 ดอลล่าห์สหรัฐ!!
เมื่อหมดหนทาง
เธอจำต้องขโมยบัตรเครดิตของเพื่อนชาวไทยที่เดินทางไปด้วยกัน เพื่อนำไปจ่ายหนี้ดังกล่าว
แต่ภายหลังเธอได้ติดต่อให้มารดาโอนเงินคืนให้เพื่อนทุกคนครบถ้วนตามจำนวน
เรื่องราวคงจะจบลงด้วยดี หากการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเธออยู่ที่ประเทศไทย...
เพราะเมื่อผู้ดูแลที่พักชาวอเมริกันทราบเรื่อง
จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เธอจึงถูกจับกุมพร้อมถูกแจ้งข้อหาว่ามีความผิดถึง 18
ข้อหา ซึ่งข้อหาหลักก็คือ การใช้บัตรเครดิตของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ถึงแม้ทางเจ้าทุกข์จะไม่ติดใจเอาความ
แต่ตำรวจจำเป็นต้องทำตามกระบวนการยุติธรรม เพราะคดีลักษณะนี้เป็นคดีอาญา จึงไม่อาจยอมความกันได้
ทำให้เธอต้องโทษกุมขังอยู่ในเรือนจำ ในสหรัฐฯ
สถานกงสุลใหญ่
ณ นครนิวยอร์ก ได้ติดตามสถานการณิอย่างใกล้ชิด และให้ความช่วยเหลือในขอบเขตที่พึงกระทำอย่างเต็มที่
แต่ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของสหรัฐฯ ได้
จึงขอให้น้องๆ
นักศึกษาที่ยังคงอยู่ในโครงการ Work & Travel ในขณะนี้
หรือใครที่กำลังวางแผนจะเข้าร่วมโครงการในปีหน้า ให้คิดไตร่ตรองให้ดีก่อนจะทำสิ่งใดที่ผิดกฏหมาย
เพราะการดำเนินการทางกฎหมายในต่างประเทศนั้น มีความเข้มงวดอย่างมาก และพึงระลึกไว้เสมอว่าแม้สกญ.จะยินดีและเต็มใจช่วยเหลือคนไทยที่ตกทุกข์ในต่างประเทศ
แต่ก็ไม่สามารถ “ทำคนผิดให้เป็นคนถูกได้”
ที่มา : กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น