วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับการเตือนภัยภัยธรรมชาติ

ฝนตกหนักจากไต้ฝุ่นนูริที่ฟิลิปปินส์

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับการเตือนภัยภัยธรรมชาติในฟิลิปปินส์

(สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมะนิลาได้จัดทำบทความเผยแพร่เพื่อสื่อสารประชาสัมพันธ์กับคนไทยในฟิลิปปินส์ ซึ่งมีบทความที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนทั่วไป จึงขออนุญาตท่านผู้เขียนบทความนำลงเผยแพร่ในเว็บบล็อกนี้ด้วย)
บทความในตอนนี้ จะขอนำเกร็ดของกาชาดฟิลิปปินส์ในเรื่องการเตรียมตัวในเชิงป้องกันตัวล่วงหน้าก่อนพายุเข้า การรับมือในระหว่างที่ประสบภัย และการช่วยเหลือตัวเองหลังจากที่พายุไต้ฝุ่นพัดผ่านไปแล้ว


๑. ก่อนพายุมา : เขียน/จำ/หาหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินของหน่วยงานต่างๆ ติดตัวไว้ เตรียมสำรองสิ่งของที่จำเป็นตั้งแต่ไฟฉาย ถ่านไฟฉาย น้ำดื่ม อาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน ที่เปิดกระป๋อง ผ้าอนามัย วิทยุ เสื้อผ้า/เสื้อกันฝน/รองเท้าบู๊ทยาง ตลอดจนเครื่องมือปฐมพยาบาล (อุปกรณ์ดำรงชีพอย่างน้อย ๗๒ ชม.) สำรวจและซ่อมแซมบ้านเรือนในส่วนที่ผุพังและเปราะบางที่อาจเป็นอันตราย เช่น หลังคาบ้าน เสา กระจกหน้าต่างประตูรวมทั้งต้นไม้ใหญ่ รีบเก็บผลผลิตทางการเกษตรล่วงหน้า ย้ายสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์เชิงเศรษฐกิจ ไปที่ปลอดภัย เก็บเรือให้ปลอดภัย ตรวจสอบการพยากรณ์อากาศและรับฟังการเตือนภัยอย่างใกล้ชิด ตรวจตราระบบไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม น้ำประปาให้เรียบร้อยปลอดภัยและพร้อมปิดการทำงานระบบของน้ำไฟก๊าซได้ทันที เก็บรักษา/ย้ายทรัพย์สินที่มีค่าออกจากบ้านเรือน/เคหะสถาน หนีขึ้นที่สูงและย้ายยานพาหนะขึ้นที่สูงเพื่อเลี่ยงภัยจากน้ำท่วม เตรียมพร้อมเชื้อเพลิงสำหรับยานพาหนะ เตรียมชาร์จแบตเตอรี่ของโทรศัพท์มือถือ เตรียมอุปกรณ์จำเป็นสำหรับผู้สูงอายุ คนพิการและเด็กเล็ก รู้จักและทำความคุ้นเคยกับเส้นทางหนีภัยและศูนย์พักพิงชั่วคราว


๒. ระหว่างพายุเข้า : ตื่นตัวตลอดอย่าหลับเพราะอาจประสบภัยเสียชีวิตได้จากภัยดินโคลนถล่ม อย่างไม่คาดคิด เปิดวิทยุเพื่อรับฟังข่าวสาร การเตือนภัยและการอพยพ ปิดระบบไฟฟ้า น้ำประปาและ ก๊าซหุงต้มรวมทั้งถอดปลั๊กไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ห้ามว่ายน้ำหรือเดินในบริเวณที่มีน้ำไหลเชี่ยวและ ให้รีบหาพื้นที่สูงเพื่อความปลอดภัย ห้ามเสี่ยงเดินข้ามบริเวณน้ำท่วม พยายามหาจุด/แหล่ง/ผู้คนที่ติดต่อสื่อสาร ได้ยามฉุกเฉิน หูไวตาไวต่อสิ่งปรักหักพัง หินหรือดินโคลนที่อาจตกหรือถล่มใส่ตัว หากท่านติดอยู่ในที่ขับคัน เช่น ต้นไม้ หลังคาของบ้านอาคารที่อยู่เหนือระดับน้ำท่วมและปลอดภัยจากลมพายุ ขอให้อยู่กับที่โดยรอการให้ ความช่วยเหลือและการกู้ภัยหรือรีบติดต่อแจ้งหน่วยกู้ภัยเพื่อขอรับความช่วยเหลือหากวิกฤติฉุกเฉิน หากท่านขับรถยนต์และเกิดเหตุรถถูกน้ำพัดพาและรถจมน้ำ อย่าตื่นตระหนกโดยขอให้ตั้ง/รวบรวมสติ สูดอากาศ กลั้นหายใจและให้รีบหาทางออกจากรถและว่ายน้ำขึ้นสู่ผิวน้ำ


๓. หลังพายุพัดผ่านไปแล้ว : เปิดวิทยุเพื่อรับฟังข่าวสารและสถานการณ์ของภัย เดินทางกลับบ้านได้ ก็ต่อเมื่อทางการสั่งการให้กลับบ้านได้ ให้ระมัดระวังวัตถุ/สิ่งของอันตราย เช่น ของมีคม ที่อาจตกหล่นอยู่ได้ ในบริเวณน้ำท่วมขัง หากบ้านเรือนถูกน้ำท่วม ขอให้ตรวจตราและมั่นใจก่อนเข้าบ้านว่าสภาพบ้านเรือน ปลอดภัยและโครงสร้างบ้านแข็งแรง ระมัดระวังสัตว์มีพิษ เช่น งู ที่อาจเข้ามาหลบในบ้าน รีบรายงานทางการ เรื่องระบบไฟฟ้าของบ้านที่ชำรุดเสียหาย ห้ามเปิดไฟหรือเสียบปลั๊กไฟฟ้าในขณะที่อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเปียก ให้ใส่ถุงมือยาง (rubber gloves) และรองเท้ายาง (rubber sole shoes) ขณะทำความสะอาดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปรอะเปื้อนสกปรกจากดินโคลน ระมัดระวังโรคที่มาจากน้ำ ระมัดระวังตัวจากการถูกยุงกัด ตรวจตราดูให้ถี่ถ้วนอย่าให้มีน้ำขังในอุปกรณ์ภาชนะต่างๆ เช่น ยางรถยนต์ หม้อถังเพราะจะเป็นจุดเพาะยุงได้ ให้อยู่ห่างไกลจากพื้นที่ที่ถูกดินโคลนถล่ม

เป็นที่สังเกตได้ว่า กาชาดฟิลิปปินส์ให้ข้อแนะนำและข้อห้ามอะไรที่ไม่ควรทำเพื่อเป็นความรู้สาธารณประโยชน์ ในการเตรียมความพร้อมของตนเองเพื่อให้สามารถช่วยเหลือตนเองเบื้องต้นได้ การรู้จักกับสภาพธรรมชาติ ของภัยธรรมชาตินั้นๆ เช่น ลมพายุ น้ำท่วมขัง น้ำท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่ม การหาช่องทางติดต่อสื่อสารกับทางการและเพื่อนฝูงเพื่อขอรับความช่วยเหลือ การหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่เสี่ยงภัยต่อชีวิต ปลอดภัยไว้ก่อนการรับฟังและเชื่อฟังมาตรการของทางการในการเตือนภัย อาทิ การสั่งการให้มีการอพยพหนีภัยและการสั่งการ ให้กลับบ้านได้ การรู้จักป้องกันตัวจากโรคภัย รวมทั้ง การตั้งสติสมาธิให้ได้ในยามที่เผชิญกับวิกฤติเพื่อแก้ไข ปัญหาเฉพาะหน้า

สถานทูตไทยหวังว่า เกร็ดข้อมูลจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านในการมีความรู้ทั่วไปติดตัว การเผยแพร่ข้อมูล ให้คนอื่น/เพื่อนฝูงทราบต่อๆ ไป การศึกษาเปรียบเทียบเพื่อใช้ประโยชน์กับบ้านเราเพื่อป้องกันตัวล่วงหน้า บรรเทาทุกข์ และลดความเสียหายจากภัยธรรมชาติที่ส่งผลกระทบต่อตัวเองและชุมชนให้รุนแรงน้อยลง เพราะปัจจุบันนี้ ภัยธรรมชาติได้เกิดขึ้นกับหลายๆ ประเทศบ่อยครั้งมากขึ้น หลากหลายรูปแบบมากขึ้น และบางครั้งก็มีระดับความรุนแรงมากกว่าจากอดีตที่ผ่านมา
****************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น