วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2554

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะรานไปเยี่ยมพนักงานสปาไทยที่เกาะคิช

โรงแรม Marina Park Hotel บนเกาะคิช


สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะรานไปเยี่ยมพนักงานสปาไทยที่เกาะคิช

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2554 นายชาครีน์นรทิพย์ เสวิกุล กงสุลพร้อมด้วยนายสุวิจักขณ์ พิริยะธนานุกุล เลขานุการโทเดินทางไปเยี่ยมแรงงานไทยที่ทำงานเป็นพนักงานนวดแผนไทย จำนวน 17 คน ซึ่งทำงานอยู่ที่บริษัท Apadana Tourism Caravan ซึ่งเป็นบริษัทที่มีศูนย์สปาและนวดแผนไทยอยู่บนเกาะคิช รวม 3 แห่ง

บริษัท Apadana ได้จัดห้องประชุมที่โรงแรม Marina Park ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์สปาและนวดแผนไทยหนึ่งในสามแห่งของบริษัทเพื่อให้เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตได้พบปะกับพนักงานเป็นเวลาสองชั่วโมง ซึ่งจากการสอบถามของกงสุลชาครีนรทิพย์ฯ พบว่า พนักงานมีความยินดีที่สถานเอกอัครราชทูตส่งเจ้าหน้าที่มาติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับการทำงานและสภาพความเป็นอยู่ของพนักงานข้อกังวลและต้องการสื่อสารกับบริษัทนายจ้างดังนี้
  1. เรื่องที่พัก: โดยรวมที่พักอยู่ในสภาพดีแม้ว่าจะคับแคบเนื่องจากสร้างไว้รองรับผู้อยู่อาศัยจำนวนน้อยกว่านี้ แต่ปัญหาหลักที่เป็นข้องวิตกของพนักงานคือการซ่อมแซมอุปกรณ์ที่เสียหาย อาทิ เครื่องปรับอากาศที่ใช้เวลาซิอมล่าช้า
  2. ค่าครองชีพ: ปัจจุบันค่าครองชีพในเกาะคิชสูงขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้เงินเดือนที่พนักงานได้รับไม่พอใช้จ่าย
  3. สัญญาจ้างงาน: ในสัญญามีความคลุมเคลือเรื่องชั่วโมงทำงาน และการทำงานล่วงเวลา
  4. การเดินทางกลับประเทศไทย: ต้องการให้บริษัทแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเกี่ยวกับการครบสัญญาจ้างงาน และวันที่จะเดินทางกลับประเทศไทย เพราะปัจจุบันบริษัทแจ้งให้พนักงานทราบกระชั้นชิดมาก
  5. การสื่อสาร: การสื่อสารระหว่างพนักงานกับนายจ้างยังมีช่องว่าง
  6. อุปสรรคการทำงาน: พนักงานต้อนรับของบริษัทฯ ไม่มีความเข้าใจการนวดแผนไทยดีพอ จึงมีการแนะนำหรือสนับสนุนผู้ใช้บริการผิดๆ และเมื่อมีการต่อว่าจากลูกค้าก็จะรับฟังแต่ลูกค้า โดยไม่เข้าใจถึงหลักหรือที่มาของปัญหาต่างๆ
 กงสุลชาครีนรทิพย์ฯ ได้ใช้โอกาสที่พบปะกับพนักงานนวดแผนไทยตอบข้อซักถามเกี่ยวกับข่าวสารและความคืบหน้าในเรื่องสถานการณ์การเมืองของไทย รวมทั้งประชาสัมพันธ์แผนอพยพคนไทยในกรณีฉุกเฉินให้พนักงานทราบด้วย และเน้นย้ำให้พนักงานช่วยบอกต่อกับเพื่อนๆหรือญาติที่จะมาทำงานในอิหร่านให้ดูสัญญาให้ละเอียดและต้องยืนยันให้สัญญาดังกล่าวผ่านกรมจัดหางานหรือสถานเอกอัครราชทูตเพื่อที่จะรักษาสิทธิของแรงงาน พร้อมกันนี้ได้เน้นย้ำขอให้พนักงานทุกคนเคารพกฎหมาย ธรรมเนียมปฏิบัติท้องถิ่น และทางศาสนาของอิหร่านอย่างเคร่งครัด อาทิ เรื่องชู้สาว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาใดๆตามมา  เพราะอิหร่านมีกฎหมายและการลงโทษเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวที่เคร่งครัดและรุนแรง ซึ่งหากพนักงานไทยกระทำผิดกฎหมายในเรื่องดังกล่าวเสียแล้ว อาจจะเป็นเรื่องยากที่สถานเอกอัครราชทูตจะยื่นมือเข้าไปช่วยได้เมื่อเรื่องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายของอิหร่าน

ภายหลังการพบปะกับพนักงานนวดไทย เจ้าหน้าที่ได้หารือกับนายอาลี อาซิสปูร์ เจ้าของบริษัท Apadana เพื่อขอบคุณที่ได้ให้การดูแลพนักงานไทยด้วยดี รวมถึงการให้ความร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตอย่างดีในการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ซึ่งทำให้แรงงานไทยที่เกาะคิชทุกคนสามารถใช้สิทธิลงคะแนนเสียงได้ โดยนายอาซิสปูร์แจ้งว่าบริษัทกำลังจะขยายสาขาในกรุงเตหะรานเพิ่มอีกสองแห่ง และมีโครงการเปิดศูนย์สปาที่ต่างจังหวัดเพิ่มอีก 1 แห่ง ซึ่งเมื่อเปิดได้ครบตามโครงการจำทำให้บริษัท Apadana ว่าจ้างพนักงานนวดไทยถึงประมาณ 50 คน ทั้งนี้กงสุลชาครีนรทิพย์ฯ ได้แจ้งข้อห่วงกังวลของแรงงานไทยให้นายอาซิสปูร์ทราบมและเสนอให้บริษัทดังกล่าวปรับปรุงสภาพการจ้างงานเพื่อช่วยให้การใช้ชีวิตและการทำงานของพนักงานสะดวกสบายยิ่งขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น