การจ้างแรงงานไทยในรัฐอาบูดาบี
สถานการณ์ทั่วไปในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี (United Arab Emirates: UAE) มีความมั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจสูง ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีและพอใจกับสวัสดิการที่รัฐบาลจัดสรรให้แบบครบวงจร ตั้งแต่เกิดจนเสียชีวิต จึงมีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะเกิดเหตุความไม่สงบทางการเมืองดังเช่นในกรณีของประเทศอื่นๆในภูมิภาค แรงงานไทยจึงยังสามารถเดินทางไปทำงานในยูเออีได้อย่างปลอดภัย
โครงการเมกาโปรเจคของรัฐอาบูดาบี 2554
ผู้จัดงาน Cityscape และ CityBuild ซึ่งเป็นหนึ่งในนิทรรศการด้านการก่อสร้างประจำปีที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลางให้สัมภาษษณ์สื่อมวลชนว่าโครงการก่อสร้างในรัฐอาบูดาบีจะยังมีอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการที่จะมีการประมูลในปี 2554 มีมูลค่ารวม 39,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากปี 2553 แบ่งเป็นโครงการก่อสร้างอาคาร เช่น โรงแรม อาคารที่พักอาศัย ฯลฯ โครงการก่อสร้างโรงงานด้านพลังงาน เช่น โรงงานนิวเคลียร์ และโครงการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น ถนน อุโมงค์ ทางรถไฟ ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดย่อมหมายถึงอัตราการจ้างงานที่สูงขึ้นด้วย
โครงการเมกาโปรเจคปัจจุบันที่จ้างแรงงานไทย
(1) โครงการก่อสร้างโรงอัดก๊าซ แยกก๊าซ และอื่นๆที่เดี่ยวข้องระยะเวลา 3 ปี (2553-56) มูลค่ารวมกว่า 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เมืองฮัพชาน ห่างจากกรุงอาบูดาบี 1.30 ชั่วโมง ปัจจุบันมีแรงงานไทยกว่า 3,000 คนทำงานภายใต้การว่าจ้างของบริษัทเกาหลี อาทิ SKEC Hyundai และบริษัทเกาหลีอื่นๆที่เป็นผู้รับเหมาช่วง
(2) โครงการก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันและอื่นๆที่เกี่ยวข้อง มูลค่ารวม 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เมืองรูเวส ห่างจากกรุงอาบูดาบี 2.30 ชั่วโมง ปัจจุบันมีแรงงานไทยทำงานอยู่ประมาณ 600 คน และมีกำหนดเดินทางเข้ามาเพิ่มอีก โดยอยู่ภายใต้การว่าจ้างของบริษัทเกาหลี อาทิ Samsung Engineer, SKEC, GS, Daewoo และบริษัทเกาหลีที่เป็นบริษัทรับเหมาช่วงอื่นๆ
(3) บริษัท Emirate Steel Industry Company ซึ่งเป็นโรงรีดเหล็กขนาดใหญ่ของรัฐบาลอาบูดาบีพึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จอยู่ระหว่างการจัดจ้างแรงงานระดับวิชาชีพและแรงงานฝีมือจากประเทศไทยจำนวน 28 ตำแหน่งงาน รวมทั้งสิ้น 127 คน ผ่านบริษัทจัดหางาน แฟรี่เทรด จำกัด
ข้อสังเกต / ข้อเสนอแนะ
1. การจ้างแรงงานต่างชาติในรัฐอาบูดาบีจะยังคงมีอย่างต่อเนื่อง และจากการประเมินสถานการณ์ปัจจุบัน แรงงานไทยจะสามารถพำนักอยู่ได้อย่างปลอดภัยและไม่ประสบปัญหาดังเช่นในหลายประเทศในภูมิภาค และตลาดนี้น่าจะสามารถรองรับแรงงานฝีมือไทยได้อีกมาก
2. จำนวนแรงงานไทยในยูเออี โดยเฉพาะในรัฐอาบูดาบีได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะ 1 ปี ที่ผ่านมา และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นอีกมากในอนาคตอันใกล้ ดังนั้นในอนาคตทางราชการควรพิจารณาจัดตั้งสำนักงานแรงงานไทยที่ยูเออีเพื่อดูและแรงงานไทยให้ทั่วถึง
ที่มา: สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น