ข้อห้ามและธรรมเนียมประเพณีที่พึงปฏิบัติในคูเวต
คูเวตเป็นประเทศมุสลิมที่เคร่งครัด ประชากรส่วนใหญ่ร้อยละ 95 นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งมีข้อห้ามสำคัญ ๆ ดังนี้
1. ห้ามเสพยาเสพติด ดื่มสุรา และของมึนเมาทุกชนิด ซึ่งรวมไปถึงการห้ามผลิต จำหน่าย หรือจัดหามาให้ผู้อื่นเสพหรือดื่ม การครอบครองเป็นความผิดและมีโทษสถานหนัก
2. ห้ามล่วงเกินประเวณีกับหญิงที่ไม่ใช่ภรรยาตน (มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 คูเวตดินาร์) การค้าบริการทางเพศ และการจัดหาเพื่อการบริการทางเพศมีโทษสถานหนัก
3. ห้ามมีไว้ในครอบครองวีดีโอเทปยั่วยุกามรมณ์ ภาพหรือสิ่งพิมพ์ลามกอนาจาร
4. ที่นั่งแถวแรกๆหลังคนคนขับรถโดยสารประจำทางจัดไว้สำหรับสุภาพสตรี สุภาพบุรุษควรนั่งแถวหลังๆถัดไป
5. มัสยิดเป็นสถานที่สำคัญ ห้ามผู้ไม่ใช่ชาวมุสลิมเข้า
6. ในเดือนถือบวชของชาวมุสลิม ผู้ที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมต้องให้เกียรติแก่การถือปฏิบัติของชาวมุสลิมกล่าวคือจะไม่กินหรือดื่ม สูบบุหรี่ หรือขบเคี้ยวอาหารในที่สาธารณะ
7. การออกนอกสถานที่ต้องพกบัตรประจำตัวหรือหนังสือเดินทางเสมอ
8. พึงให้เกียรติแก่เจ้าของบ้านโดยรับเลี้ยงน้ำชา กาแฟหรือสิ่งอื่นใดที่เจ้าของบ้านบริการ การปฏิเสธถือเป็นการดูถูก
9. การเดินทางในที่ชุมชนพึงให้เกียรติสตรีชาวคูเวตหรือชาวอาหรับอื่น โดยไม่เบียดเสียดหรือถูกเนื้อต้องตัว ไม่จับมือถือแขนหรือโอบกอดสุภาพสตรีในที่สาธารณะ โดยเฉพาะสตรีนั้นมิใช่ภรรยา การกระทำล่วงเกินใดๆมีความผิดและจะถูกลงโทษ
10. ห้ามเล่นการพนันทุกประเภทรวมทั้งการเล่นหวย การพนันฟุตบอล
11. ไม่ควรไปเยี่ยมเยียนหรือพบชาวอาหรับในที่พักระหว่างเวลา 14.30 – 14.30 น. เพราะเป็นเวลาพักผ่อน
12. ศัตรูของชาวอาหรับคืออิสราเอลหรือยิว จึงไม่ควรนำสิ่งของ รูปภาพหรือสิ่งต่างๆเกี่ยวกับอิสราเอลเข้าไปในประเทศคูเวตและห้ามพูดหรือกระทำการใดๆ ในทางเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนอิสราเอลหรือชาวยิว สำหรับผู้ที่เคยเดินทางเข้าไปหรือเคยไปทำงานในอิสราเอลขอให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ รวมทั้งหนังสือเดินทางจะต้องไม่เคยใช้เข้าเดินทางอิสราเอลมาก่อน
13. ห้ามถ่ายรูปที่ตั้งทางทหารหรือจุดยุทธศาสตร์เพราะอาจถูกกล่าวหาว่าเป็นสายลับซึ่งมีโทษสถานหนัก
14. ในคูเวตเป็นสังคมค่อนข้างสงบ จึงขอให้พยายามรักษาระเบียบวินัย อย่ากระทำตนให้เกิดปัญหาหรือรบกวนความสงบสุขก่อความรำคาญแก่บุคคลอื่นในที่สาธารณะ
15. การแต่งกายผิดเพศของตนเองถือว่าผิดจารีตประเพณีและมีความผิดตามกฎหมายคูเวต
ที่มา: เอกสารสาระน่ารู้ประเทศคูเวต
คูเวตเป็นประเทศมุสลิมที่เคร่งครัด ประชากรส่วนใหญ่ร้อยละ 95 นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งมีข้อห้ามสำคัญ ๆ ดังนี้
1. ห้ามเสพยาเสพติด ดื่มสุรา และของมึนเมาทุกชนิด ซึ่งรวมไปถึงการห้ามผลิต จำหน่าย หรือจัดหามาให้ผู้อื่นเสพหรือดื่ม การครอบครองเป็นความผิดและมีโทษสถานหนัก
2. ห้ามล่วงเกินประเวณีกับหญิงที่ไม่ใช่ภรรยาตน (มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 คูเวตดินาร์) การค้าบริการทางเพศ และการจัดหาเพื่อการบริการทางเพศมีโทษสถานหนัก
3. ห้ามมีไว้ในครอบครองวีดีโอเทปยั่วยุกามรมณ์ ภาพหรือสิ่งพิมพ์ลามกอนาจาร
4. ที่นั่งแถวแรกๆหลังคนคนขับรถโดยสารประจำทางจัดไว้สำหรับสุภาพสตรี สุภาพบุรุษควรนั่งแถวหลังๆถัดไป
5. มัสยิดเป็นสถานที่สำคัญ ห้ามผู้ไม่ใช่ชาวมุสลิมเข้า
6. ในเดือนถือบวชของชาวมุสลิม ผู้ที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมต้องให้เกียรติแก่การถือปฏิบัติของชาวมุสลิมกล่าวคือจะไม่กินหรือดื่ม สูบบุหรี่ หรือขบเคี้ยวอาหารในที่สาธารณะ
7. การออกนอกสถานที่ต้องพกบัตรประจำตัวหรือหนังสือเดินทางเสมอ
8. พึงให้เกียรติแก่เจ้าของบ้านโดยรับเลี้ยงน้ำชา กาแฟหรือสิ่งอื่นใดที่เจ้าของบ้านบริการ การปฏิเสธถือเป็นการดูถูก
9. การเดินทางในที่ชุมชนพึงให้เกียรติสตรีชาวคูเวตหรือชาวอาหรับอื่น โดยไม่เบียดเสียดหรือถูกเนื้อต้องตัว ไม่จับมือถือแขนหรือโอบกอดสุภาพสตรีในที่สาธารณะ โดยเฉพาะสตรีนั้นมิใช่ภรรยา การกระทำล่วงเกินใดๆมีความผิดและจะถูกลงโทษ
10. ห้ามเล่นการพนันทุกประเภทรวมทั้งการเล่นหวย การพนันฟุตบอล
11. ไม่ควรไปเยี่ยมเยียนหรือพบชาวอาหรับในที่พักระหว่างเวลา 14.30 – 14.30 น. เพราะเป็นเวลาพักผ่อน
12. ศัตรูของชาวอาหรับคืออิสราเอลหรือยิว จึงไม่ควรนำสิ่งของ รูปภาพหรือสิ่งต่างๆเกี่ยวกับอิสราเอลเข้าไปในประเทศคูเวตและห้ามพูดหรือกระทำการใดๆ ในทางเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนอิสราเอลหรือชาวยิว สำหรับผู้ที่เคยเดินทางเข้าไปหรือเคยไปทำงานในอิสราเอลขอให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ รวมทั้งหนังสือเดินทางจะต้องไม่เคยใช้เข้าเดินทางอิสราเอลมาก่อน
13. ห้ามถ่ายรูปที่ตั้งทางทหารหรือจุดยุทธศาสตร์เพราะอาจถูกกล่าวหาว่าเป็นสายลับซึ่งมีโทษสถานหนัก
14. ในคูเวตเป็นสังคมค่อนข้างสงบ จึงขอให้พยายามรักษาระเบียบวินัย อย่ากระทำตนให้เกิดปัญหาหรือรบกวนความสงบสุขก่อความรำคาญแก่บุคคลอื่นในที่สาธารณะ
15. การแต่งกายผิดเพศของตนเองถือว่าผิดจารีตประเพณีและมีความผิดตามกฎหมายคูเวต
ที่มา: เอกสารสาระน่ารู้ประเทศคูเวต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น