มาเลเซียห้ามสตรีเข้าไปเที่ยวสถานบันเทิงตามลำพังหรือเป็นกลุ่มสตรี
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์รายงานว่า ปัจจุบันมีหญิงไทยจำนวนมากที่เดินทางเข้าไปทำงานในสถานบันเทิงตามรัฐต่างๆ และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียจับกุมในข้อหาค้าบริการ และทำงานไม่มีใบอนุญาตถูก โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียจับกุมหญิวงไทย26 คนในข้อหาดังกล่าวเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2553 ณ รัฐยะโฮร์
เกี่ยวกับเรื่องนี้ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศขอเรียนว่า ประเทศมาเลเซียมีกฎหมายห้ามสตรีเข้าไปเที่ยวสถานบันเทิงตามลำพังหรือเป็นกลุ่มสตรี ยกเว้นเข้าไปเที่ยวกับชายที่เป็นสามีโดยถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้นมิเช่นนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสถานบันเทิงตรวจพบจะถูกจับกุมในข้อหาค้าบริการ และหากสอบสวนพบว่าหญิงผู้นั้นเข้าไปทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตก็จะถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งคดีทันที
ตามกฎหมายมาเลเซียกรณีทำงานไม่มีใบอนุญาตลูกจ้างจะถูกปรับ จำนวน 2,000 บาท ส่วนนายจ้างจะถูกปรับรายละ 50,000 บาท ซึ่งหากนายจ้างไม่ชำระค่าปรับลูกจ้างจะถูกตัดสินจำคุกไม่เกิน 1 ปี ส่วนคดีค้าบริการมีความผิดจำคุก 2- 6 เดือน และเมื่อพ้นโทษจะถูกนำไปกักขังรอการเนรเทศกลับประเทศต้นทางต่อไป
กรมการกงสุลจึงขอให้ประชาชนไทยที่จะเดินทางไปมาเลเซียและประเทศอื่นๆ ให้ระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการทำผิดกฎหมายของประเทศนั้นๆ รวมถึงปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามประเภทของการตรวจลงตรา (วีซ่า) เช่น หากได้รับวีซ่าประเภทท่องเที่ยวหรือศึกษาก็ไม่ควรลักลอบทำงานอย่างผิดกฎหมาย
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์รายงานว่า ปัจจุบันมีหญิงไทยจำนวนมากที่เดินทางเข้าไปทำงานในสถานบันเทิงตามรัฐต่างๆ และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียจับกุมในข้อหาค้าบริการ และทำงานไม่มีใบอนุญาตถูก โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียจับกุมหญิวงไทย26 คนในข้อหาดังกล่าวเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2553 ณ รัฐยะโฮร์
เกี่ยวกับเรื่องนี้ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศขอเรียนว่า ประเทศมาเลเซียมีกฎหมายห้ามสตรีเข้าไปเที่ยวสถานบันเทิงตามลำพังหรือเป็นกลุ่มสตรี ยกเว้นเข้าไปเที่ยวกับชายที่เป็นสามีโดยถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้นมิเช่นนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสถานบันเทิงตรวจพบจะถูกจับกุมในข้อหาค้าบริการ และหากสอบสวนพบว่าหญิงผู้นั้นเข้าไปทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตก็จะถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งคดีทันที
ตามกฎหมายมาเลเซียกรณีทำงานไม่มีใบอนุญาตลูกจ้างจะถูกปรับ จำนวน 2,000 บาท ส่วนนายจ้างจะถูกปรับรายละ 50,000 บาท ซึ่งหากนายจ้างไม่ชำระค่าปรับลูกจ้างจะถูกตัดสินจำคุกไม่เกิน 1 ปี ส่วนคดีค้าบริการมีความผิดจำคุก 2- 6 เดือน และเมื่อพ้นโทษจะถูกนำไปกักขังรอการเนรเทศกลับประเทศต้นทางต่อไป
กรมการกงสุลจึงขอให้ประชาชนไทยที่จะเดินทางไปมาเลเซียและประเทศอื่นๆ ให้ระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการทำผิดกฎหมายของประเทศนั้นๆ รวมถึงปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามประเภทของการตรวจลงตรา (วีซ่า) เช่น หากได้รับวีซ่าประเภทท่องเที่ยวหรือศึกษาก็ไม่ควรลักลอบทำงานอย่างผิดกฎหมาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น