วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เอกอัครราชทูต ณ กรุงเบิร์น มอบเงินสนับสนุนให้กับสมาคมศิลปวัฒนธรรมไทย ในโครงการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยในเทศกาลสิ้นสุดฤดูหนาวของนครซูริค


นายรัฐกิจ มานะทัต เอกอัครราชทูต ฯ มอบเงินสนับสนุนกิจกรรมให้กับนาง นางอำพัน โดมัยเซ่น ประธานชมรมศิลปวัฒนธรรมไทย และคณะกรรมการชมรม ฯ ณ วัดศรีนครินทรวราราม


เอกอัครราชทูต ณ กรุงเบิร์น มอบเงินสนับสนุนให้กับสมาคมศิลปวัฒนธรรมไทย ในโครงการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยในเทศกาลสิ้นสุดฤดูหนาวของนครซูริค



เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2554 ณ วัดศรีนครินทรวราราม นายรัฐกิจ มานะทัต เอกอัครราชทูต ณ กรุงเบิร์น ในนามของกระทรวงการต่างประเทศ ได้ทำพิธีมอบเงินจำนวน 6,451.61 สวิสฟรังก์ (ประมาณ 200,000 บาท ) สนับสนุนโครงการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยในเทศกาลสิ้นสุดฤดูหนาว ของนครซูริค ให้กับคณะชมรมศิลปวัฒนธรรมไทย นำโดยนางอำพัน โดมัยเซ่น ประธานชมรม ฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการ ฯ

ในการนี้เอกอัครราชทูต ฯได้กล่าวขอบคุณนางอำพัน โดมัยเซ่น ประธานชมรมศิลปวัฒนธรรมไทย และกรรมการของชมรม ฯทุกคน ที่มีส่วนสำคัญยิ่งในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และยุโรปอย่างต่อเนื่องยาวนาน โดยเฉพาะความสำเร็จในการจัดงานเทศกาลสิ้นสุดฤดูหนาวที่นครซูริค ซึ่งชาวสวิสและชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ต่างชื่นชมความงดงามของขบวนพาเหรดของไทยเป็นอย่างมาก จึงขอให้กำลังใจ และสถานเอกอัครราชทูต ฯ จะให้ความสนับสนุนกิจกรรมของชมรม ฯ อย่างดีต่อไป

ในการนี้ นางอำพัน โดมัยเซ่น ได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทย และ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบิร์น ที่ได้ให้ความสนับสนุน ชมรมฯ มาโดยตลอด และสำหรับเทศกาลสิ้นสุดฤดูหนาว ของนครซูริคครั้งต่อไป ที่จะจัดขึ้น ในวันที่ 10 เมษายน 2554 นั้น ชมรม ฯ ตั้งใจ จะจัดขบวนพาเหรดให้สวยงามขึ้นกว่าทุกปี และชมรมฯ ก็พร้อมที่จะเผยแพร่วัฒนธรรมไทยให้เป็นที่รู้จักในยุโรป โดยเฉพาะในสวิตเซอร์แลนด์ให้ดียิ่งๆ ขึ้นต่อไป

ชมรมศิลปวัฒนธรรมไทย จัดตั้งขึ้น ในปีค.ศ. 1986 (พ.ศ.2529) เป็นเวลา 25 ปีแล้ว ทุกครั้งที่มีการจัดกิจกรรมจะมีคนไทยและชาวสวิสเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก และได้เผยแพร่วัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีไทยทั้งในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และประเทศอื่นๆ ในยุโรป เช่น อิตาลี ออสเตรีย เยอรมัน และฝรั่งเศส เป็นต้น โดยในแต่ละปี ชมรมศิลปวัฒนธรรมไทยจะนำนาฏศิลป์ไทยไปแสดงในงานเผยแพร่วัฒนธรรมไทยที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบิร์น และงานประเพณีไทยต่างๆ ที่ประชาชนชาวไทยที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์จัดขึ้นในเมืองต่างๆ และยังได้รับเชิญจากทางการนครซูริค ให้เข้าร่วมเดินขบวนในเทศกาลสิ้นสุดฤดูหนาวของนครซูริคอีกด้วย


ขบวนพาเหรดของไทย ในงานเทศกาลสิ้นสุดฤดูหนาว ที่นครซูริค เมื่อปี พ.ศ. 2553

เทศกาลสิ้นสุดฤดูหนาวของนครซูริคถือเป็นประเพณีท้องถิ่นและเทศกาลประจำปีที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเทศกาลหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ โดยกิจกรรมสำคัญของเทศกาลนี้คือ ขบวนพาเหรดนานาชาติ และทุกปีจะมีชาวสวิสจากเมืองต่างๆและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาร่วมงานนับแสนคน นครซูริคจะปิดถนนสายหลักกลางเมืองเพื่อให้ขบวนพาเหรดซึ่งมีเด็กจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมกว่า 50 ประเทศ เดินไปตามถนนให้ผู้ร่วมงานได้ชื่นชมการแต่งกาย การประดับประดาขบวนพาเหรดของแต่ละประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่สวยงามและหลากหลาย จึงนับเป็นโอกาสที่ดีที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมในขบวนพาเหรดนี้ เนื่องจากสถานีโทรทัศน์ของสวิสจะทำการถ่ายทอดสดขบวนพาเหรดและหนังสือพิมพ์ของสวิสก็ได้รายงานข่าวอย่างกว้างขวางเป็นประจำทุกปี

สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เริ่มดำเนินการโครงการฯครั้งแรกในปี 2543 โดยร่วมกับชุมชนไทยในสวิตเซอร์แลนด์และชมรมศิลปวัฒนธรรมไทย โดยได้รับความร่วมมือจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและบริษัทการบินไทยจำกัด (มหาชน) ในการจัดขบวนพาเหรดเด็กไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของขบวนพาเหรดของเอเชีย (ประกอบด้วย ไทย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินโดนีเซีย ธิเบต ฯลฯ) ถือว่าสามารถสร้างสีสันให้กับพาเหรดและเป็นที่สนใจของผู้มาเที่ยวชมงานและสื่อมวลชนสวิสมาก

ต่อมาสถานเอกอัครราชทูตฯ ร่วมกับชุมชนชาวไทยได้ปรับรูปแบบการจัดขบวนพาเหรดใหม่ให้มีความงดงามกว่าเดิม โดยการจัดแต่งรถบุปผชาติประดับด้วยดอกกล้วยไม้ไทยให้เป็นจุดเด่นของขบวนพาเหรด เป็นการเพิ่มความน่าสนใจให้กับผู้เข้าชมงานและมีการแจกช่อดอกกล้วยไม้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบริษัทการ บินไทย จำกัด (มหาชน) ให้ผู้ชมขบวนพาเหรดเพื่อเป็นที่ระลึกด้วย

การเข้าร่วมเทศกาลดังกล่าวนี้เป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ด้านวัฒนธรรมของไทย ประเพณีการแต่งกายประจำชาติ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย และส่งเสริมความสามัคคีในหมู่ชุมชนชาวไทยในสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ยังเป็นการปลูกฝังให้เยาวชนที่เกิดและเติบโตในสวิตเซอร์แลนด์มีความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมที่ดีงามของไทยและเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนได้เข้าร่วมกิจกรรมในทางสร้างสรรค์อีกด้วย

เรียบเรียงโดย นางสาวสุธินี แข็งแรง
ผู้ช่วยดำเนินการด้านการเมือง
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบิร์น


ที่มา: เว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบิร์น  http://thaiembassybern.org/news-detail.php?id=24

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น