วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

พิธีเบิกเนตรพระพุทธรูป ณ วัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง


พิธีเบิกเนตรพระพุทธรูป ณ วัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง


เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2554 วัดหลิงกวงในกรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในวัดพุทธที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในจีน ได้จัดพิธีเบิกเนตรพระพุทธรูปทั้งวัด เนื่องในโอกาสที่เจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้วได้รับการบูรณะเป็นที่แล้วเสร็จ

การจัดงานในวันนั้นเริ่มต้นด้วยการพบหารือระหว่างพระอาจารย์ฉวน อิ้น เจ้าอาวาสวัดหลิงกวงและนายกพุทธสมาคมแห่งชาติจีนและนายเจี่ยง เจียนหย่ง รองผู้ว่าการศาสนาแห่งชาติจีนกับพระพุทธาจารย์นายกสมาคมพุทธศาสนาแห่งเกาหลีใต้ พระอาจารย์จากวัดพุทธในญี่ปุ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการศาสนาแห่งพม่า เอกอัครราชทูตไทย เอกอัครราชทูตพม่า เอกอัครราชทูตเนปาล เอกอัครราชทูตเวียดนาม และผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตศรีลังกาและอินเดียประจำจีน โดยผู้แทนฝ่ายจีนได้กล่าวชื่นชมความสัมพันธ์อันดีระหว่างจีนกับประเทศต่างๆ ซึ่งมีความร่วมมือด้านพุทธศาสนาเป็นแกนสำคัญของการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างประชาชน

พระเจดีย์ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้วที่วัดหลิงกวงแห่งนี้ เคยได้รับการจัดพิธีทางศาสนาเพื่อเปิดใช้เจดีย์ครั้งแรกในช่วงทศวรรษที่ 1960 และการจัดพิธีในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 2 ได้รับความสนใจจากพุทธศาสนิกชนชาวจีน และชาวพุทธต่างชาติที่อยู่ในจีนอย่างมาก อาทิ ชาวพม่า ชาวเวียดนาม และชาวไทย โดยในส่วนของประเทศไทยนั้น เอกอัครราชทูตเปี่ยมศักดิ์ มิลินจินดา ได้เข้าร่วมในพิธีด้วย

ภายหลังการพบหารืออย่างเป็นทางการแล้ว พระสงฆ์จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และพม่า และแขกผู้มีเกียรติก็ได้ไปยังบริเวณปะรำพิธีบริเวณหน้าเจดีย์ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้ว เพื่อเข้าสู่พิธีเบิกเนตร

ผู้แทนฝ่ายจีนและผู้แทนจากประเทศต่างๆ ได้กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับความเป็นมาและความสำคัญของพิธี รวมถึงอวยพรให้พิธีประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี หลังจากนั้น จึงได้เริ่มพิธีทางสงฆ์ในการเบิกเนตรพระพุทธรูปในพระอุโบสถ รวม 11 แห่งภายในบริเวณวัดหลิงกวง และการเปิดพระเจดีย์

ในโอกาสนี้ พระอาจารย์ฉวน อิ้น เจ้าอาวาส วัดหลิงกวงได้มอบเจดีย์ทองจำลองให้กับเอกอัครราชทูต เปี่ยมศักดิ์ มิลินทจินดา เป็นที่ระลึกด้วย เจดีย์ดังกล่าวได้จำลองเจดีย์ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้วในขนาดย่อส่วน ภายนอกปิดทองคำแท้ 99.9% ถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของวัด และเป็นเครื่องหมายของความร่วมมืออันดีระหว่างไทยและจีนในทางพุทธศาสนาด้วย เนื่องจากประเทศไทยได้เคยอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้วจากวัดหลิงกวงไปประดิษฐานที่ประเทศไทย เพื่อให้ชาวไทยได้สักการบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้ ที่วัดหลิงกวงแห่งนี้ ยังเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชของไทยได้ประทานไว้ให้ และพระพุทธรูปพุทธลักษณะพระศาสดาที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีได้เสด็จฯ มาพระราชทานเมื่อวันที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมาด้วย

ที่มา: เว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง http://www.thaiembbeij.org/thaiembbeij/th/news-activity/activity/index.php?ELEMENT_ID=7570

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น