วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
การติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่น (13 มิถุนายน 2554)
การติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่น (13 มิถุนายน 2554)
สถานะ ณ เวลา 12.00 น. วันพุธที่ 13 มิถุนายน 2554
1. สถานการณ์ในญี่ปุ่น
1.1 สถิติ ณ วันที่ 12 ก.ค. 2554 สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่นได้รายงานดังนี้
- ผู้เสียชีวิต 15,555 ราย เปรียบเทียบกับเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2554 เพิ่มขึ้น 44 ราย
- ผู้สูญหาย 5,344 ราย เปรียบเทียบกับเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2554 ลดลง 1,845 ราย
1.2 การเกิดอาฟเตอร์ช็อค (Aftershock)
- เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2554 เวลา 9.57 น. (เวลาท้องถิ่น) ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.3 ริกเตอร์ ที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ในพื้นที่ จ.อิวาเตะ จ.มิยากิ และ จ.ฟุคุชิมะ และทำให้เกิดความสั่นไหวไปยังพื้นที่ในเกาะฮอกไกโด กรุงโตเกียว และพื้นที่ในแถบคันไซด้วย ภายหลังจากแผ่นดินไหวกรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นได้ออกคำเตือนการเกิดสึนามิแต่ได้ยกเลิกคำเตือนดังกล่าวภายในวันเดียวกัน แผ่นดินไหวครั้งนี้นับเป็นอาฟเตอร์ช็อคที่มีขนาดใหญ่กว่า 7 ริกเตอร์ ครั้งที่ 6 นับตั้งแต่การเกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2554 เป็นต้นมา
- ระหว่างวันที่ 7 – 13 ก.ค. 2554 กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นได้รายงานการเกิด Aftershock ระดับ 3 - 6ริกเตอร์ ในบริเวณต่าง ๆ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกของญี่ปุ่น ได้แก่ จ.ฟุคุชิมะ จ.มิยากิ จ.อิวาเตะ จ.อิบารากิ โดยยังไม่มีรายงานสึนามิและความเสียหายจากการเกิดอาฟเตอร์ช็อคดังกล่าว โดยมีรายละเอียดการเกิดอาฟเตอร์ช็อคระดับ 3 ริกเตอร์ขึ้นไป (เวลาท้องถิ่น) ดังนี้
วันที่ 7 ก.ค. 2554 เวลา 00.15 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางที่ จ.อิบารากิ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.8 ริกเตอร์
วันที่ 8 ก.ค. 2554 เวลา 03.35 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางที่ จ.ฟุคุชิมะ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.6 ริกเตอร์
วันที่ 8 ก.ค. 2554 เวลา 11.43 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางที่ จ.มิยากิ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.0 ริกเตอร์
วันที่ 8 ก.ค. 2554 เวลา 22.10 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางที่ จ.อิวาเตะ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.8 ริกเตอร์
วันที่ 9 ก.ค. 2554 เวลา 22.41 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางที่ จ.มิยากิ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.1 ริกเตอร์
วันที่ 11 ก.ค. 2554 เวลา 09.09 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางที่ จ.ฟุคุชิมะ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.4 ริกเตอร์
วันที่ 11 ก.ค. 2554 เวลา 10.36 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางที่ จ.มิยากิ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.5 ริกเตอร์
วันที่ 11 ก.ค. 2554 เวลา 13.29 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางที่ จ.อิวาเตะ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.0 ริกเตอร์
วันที่ 12 ก.ค. 2554 เวลา 09.38 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางที่ จ.ฟุคุชิมะ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 3.7 ริกเตอร์
วันที่ 12 ก.ค. 2554 เวลา 18.00 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางที่ จ.มิยากิ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.9 ริกเตอร์
วันที่ 13 ก.ค. 2554 เวลา 00.37 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางที่ จ.มิยากิ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.1 ริกเตอร์
วันที่ 13 ก.ค. 2554 เวลา 05.47 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางที่ จ.ฟุคุชิมะ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.3 ริกเตอร์
1.3 รายงานสถานการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุคุชิมะที่ 1 (ฟุคุชิมะ ไดอิฉิ)
1.3.1 ณ วันที่ 12 ก.ค. 2554 บริษัทการไฟฟ้าโตเกียว (TEPCO) ยังคงดำเนินการบำบัดน้ำปนเปื้อนในโรงไฟฟ้าฯ อย่างต่อเนื่อง และได้มีการนำน้ำปนเปื้อนที่บำบัดแล้วไปใช้หมุนเวียนในการฉีดน้ำเพื่อลดความร้อนแก่เตาปฏิกรณ์ด้วย
1.3.2 TEPCO ได้ดำเนินการฉีดไนโตรเจนเพื่อควบคุมอุณหภูมิและป้องกันการระเบิดไฮโดรเจนที่เตาปฏิกรณ์หมายเลข 1 – 3 อย่างต่อเนื่อง
1.3.3 ผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (MEXT) แจ้งว่าจากผลการตรวจวัดระดับรังสีในตัวอย่างน้ำทะเลล่าสุด ไม่พบความเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญ โดยตรวจไม่พบทั้งไอโอดีนและซีเซียมที่ผิวน้ำทะเลและใต้น้ำ รวมทั้งจากตัวอย่างฝุ่นเหนือน้ำทะเลนอกฝั่ง จ.มิยากิ จ.ฟคุชิมะ จ.อิบารากิ
1.3.4 ผู้เชี่ยวชาญจาก คกก. ความปลอดภัยนิวเคลียร์ญี่ปุ่น (NSC) แจ้งว่าจากผลการตรวจวัดระดับรังสีในสิ่งแวดล้อมล่าสุด ไม่พบความเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญ โดยไม่พบรังสีในน้ำทะเลจากชายฝั่งและนอกฝั่ง จ.มิยากิ จ.ฟุคุชิมะ จ.อิบารากิ แต่พบรังสีในน้ำทะเลใกล้โรงไฟฟ้า แต่ยังต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ และพบว่ามีซีเซียมในน้ำประปาที่ จ.ไซตามะ และกรุงโตเกียวแต่อยู่ในระดับต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้เช่นกัน
2. การดำเนินการของไทย
2.1 การติดตามเรื่องความปลอดภัยของอาหาร
- สอท. ณ กรุงโตเกียว แจ้งรายงานผลการตรวจการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในอาหารของกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ (Ministry of Health, Labour and Welfare) ของญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 30 มิ.ย. – 4 ก.ค. 2554 รวม 225 รายการ ว่า พบผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณรังสีเกินกำหนดมาตรฐาน ได้แก่ ยอดใบชาอ่อน (เก็บครั้งแรก) ที่บ่มแล้ว 1 ตัวอย่าง จากเขตอิตาบาชิ ในกรุงโตเกียว ยอดใบชาอ่อน (เก็บครั้งที่ 2) ที่ยังไม่ได้บ่ม 2 ตัวอย่าง จากเมืองยามาคิตะ จ.คานางาวะ และยอดใบชาอ่อน (เก็บครั้งแรก) ที่ยังไม่ได้บ่ม 1 ตัวอย่าง จากเมืองคัทสึอุระ จ.ชิบะ
- กระทรวงสาธารณสุขฯ ญี่ปุ่นได้มีคำสั่งห้ามจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม ได้แก่ ใบชาจากเมืองชิบุคาวะ และเมืองคิริว จ.กุมมะ ตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย. 2554 เป็นต้นไป ใบชาจากเมืองโนดะ เมืองนาริตะ เมืองยาจิมาตะ เมืองโทมิซาโตะ เมืองซัมมุ เมืองโอมิชิราซาโตะ จ.ชิบะ ตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. 2554 เป็นต้นไป และใบชาจากเมืองคัทสึอุระ จ.ชิบะ ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. 2554 เป็นต้นไป
2.2 การดูแลคนไทยในญี่ปุ่น
2.1.1 ตามที่ได้เกิดแผ่นดินไหวและ Aftershock ในบริเวณต่าง ๆ ในญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. 2554 สอท. ณ กรุงโตเกียว ได้ประสานสอบถามความเป็นอยู่ของคนไทยในพื้นที่และทราบว่าคนไทยยังปลอดภัยดี แม้บางรายจะรู้สึกตกใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และรู้สึกกังวลใจเรื่องความเป็นอยู่และความปลอดภัย แต่ในชั้นนี้ยังไม่ได้รับรายงานคนไทยเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากวิบัติภัยดังกล่าว
2.1.2 ข่าวสารนิเทศกระทรวงการต่างประเทศ เรื่อง “คำแนะนำในการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นฉบับล่าสุด” ซึ่งได้ประกาศเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2554 มีเนื้อหาดังนี้ “ตามที่กระทรวงการต่างประเทศได้เคยประกาศเตือนให้คนไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น และขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารในการเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดนั้น ในปัจจุบัน แม้สถานการณ์โดยรวมจะดีขึ้นมากแล้ว แต่เนื่องจากยังเกิดแผ่นดินไหวตามมา (Aftershock) เป็นระยะ ๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ได้ผลกระทบอย่างรุนแรงจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ได้แก่ จังหวัดอิวาเตะ จังหวัดมิยางิ และจังหวัดฟุคุชิมะ กระทรวงฯ จึงขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว ส่วนผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางเข้าไปในพื้นที่ข้างต้น ขอให้ใช้ความระมัดระวังอย่างเต็มที่และติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ โดยที่สถานการณ์เกี่ยวกับโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุคุชิมะ หมายเลข 1 ยังไม่เรียบร้อย กระทรวงฯ จึงขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินทาง เข้าไปในพื้นที่รัศมี 60 กิโลเมตรจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฯ และตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับระดับกัมมันตภาพรังสีในพื้นที่ใกล้เคียงก่อนการเดินทาง ตลอดจนปฏิบัติตามคำแนะนำของรัฐบาลญี่ปุ่นอย่างเคร่งครัด จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน”
2.1.3 สอท. ได้ลงคำแนะนำในการเดินทาง ทาง twitter@rtetokyo ดังนี้
(1) โดยที่ขณะนี้ทางด้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นยังมีแผ่นดินไหวจาก Aftershock อยู่เป็นระยะ ประกอบกับปัญหาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ จึงขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าพื้นที่ดังกล่าว ส่วนผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางเข้าพื้นที่ดังกล่าว ขอให้ใช้ความระมัดระวังอย่างเต็มที่และติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด
(2) ขอให้ผู้ที่เดินทางไปญี่ปุ่นแจ้งข้อมูลการเดินทาง ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ในญี่ปุ่นให้ สอท. ทราบ ทางหมายเลขโทรศัพท์ +813-3222-4101 ต่อ 200 และ 275 (เวลาราชการ) หรือ +8190-8849-7785, +8190-3408-7786, +8190-1215-9369, -8190-1216-3168, +8190-1216-1871 และทางโทรสาร +813-3222-4122 หรือ E-mail: rtetokyo@hotmail.com (24 ชม.)
(3) สำหรับนักเรียน / นักศึกษา ที่ศึกษาในญี่ปุ่น หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเปิดเรียนและเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง สามารถสอบถามได้ที่ สนง.ผู้ดูแลนักเรียนในญี่ปุ่น หมายเลขโทรศัพท์ +813-5424-0652 หรือ โทรสาร + 813-5424-0658 หรือ E-mail: csctokyo@sepia.ocn.ne.jp
2.3 การให้ความช่วยเหลือของไทยต่อญี่ปุ่น
ยอดเงินบริจาคสะสมผ่านบัญชี “เงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยญี่ปุ่น” ของกระทรวงการต่างประเทศ ณ วันที่ 13 ก.ค. 2554 ณ จำนวนเงินทั้งสิ้นประมาณ 177 ล้านบาท (ทั้งนี้ กระทรวงฯ ได้โอนเงินงวดแรกจำนวน 125 ล้านบาท ให้ สอท. ณ กรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2554 เพื่อให้ สอท. ณ กรุงโตเกียวนำไปมอบให้แก่สภากาชาดญี่ปุ่นต่อไปแล้ว)
2.4 สถิติคนไทย
2.4.1 จำนวนคนไทยในญี่ปุ่น 41,279 คน (ข้อมูล สนง. ตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่น) โดยเป็นคนไทยที่พำนักในพื้นที่เสี่ยงต่อกัมมันตรังสี 11 จังหวัด (ฮอกไกโด อะโอโมริ อิวาเตะ มิยาหงิ ฟุคุชิมะ อิบารากิ โทชิหงิ ชิบะ โตเกียว กุมมะ คาโงชิมา) 19,547 คน และคนไทยในพื้นที่เสี่ยงสูงต่อกัมมันตรังสี 3 จังหวัด (อิวาเตะ มิยาหงิ ฟุคุชิมะ) จำนวน 488 คน
2.4.2 จำนวนนักเรียนไทยในญี่ปุ่นมีประมาณ 2,429 คน (ข้อมูล สนง. ผู้ดูแลนักเรียนไทย) และจำนวนแรงงานไทยในญี่ปุ่นมีประมาณ 19,541 คน (เป็นแรงงานถูกกฎหมาย 13,541 คน แรงงานผิดกฎหมายประมาณ 6,000 คน)
2.4.3 ยังไม่มีรายงานคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2554
3. ความช่วยเหลือจากต่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นสรุปยอดประเทศที่เสนอให้ความช่วยเหลือ มีจำนวน 161 ประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ 43 แห่ง ซึ่งมีทั้งในรูปแบบเงินบริจาค สิ่งของบริจาค และผู้เชี่ยวชาญ (สถานะ ณ วันที่ 6 ก.ค. 2554)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น