สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโกช่วยเหลือคนไทยถูกจับกุมที่เมืองโนโวซีบีสค์

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโกช่วยเหลือคนไทยถูกจับกุมที่เมืองโนโวซีบีสค์



สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย รายงานว่า ได้รับแจ้งจากสถานีตำรวจเมืองโนโวซีบีสค์ว่าหญิงไทยสองคนซึ่งทำงานอยู่ที่ร้านสปาโอดิสซี่ถูกจับกุมด้วยข้อหาลักลอบทำงานผิดกฎหมายโดยใช้วีซ่าผิดประเภท ทางการรัสเซียได้กักกันหญิงไทยทั้งสองอยู่ที่เขตรับรองพิเศษ เมืองโนโวซิบีสค์เพื่อรอส่งตัวกลับประเทศไทยภายใน 60 วัน

สถานเอกอัครราชทูตได้ตรวจสอบกับเจ้าของร้านสปาโอดิสซี่ได้รับการชี้แจงว่า ร้านดังกล่าวเชิญหญิงไทยทั้งสองไปเมืองโนโวซีบีสค์เพื่อสาธิตการนวดแผนไทยที่ร้านโดยไม่ได้รับค่าจ้างใดๆ หญิงไทยทั้งสองจึงเดินทางเข้าประเทศด้วยวีซ่าธุรกิจ เจ้าของร้านยืนยันว่าตนและหญิงไทยทั้งสองมิได้ทำผิดกฎหมายและกำลังแต่งตั้งทนายความเพื่อสู้คดี

สถานเอกอัครราชทูตจึงได้ประสานติดต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเมืองโนโวซีบีสค์ขอทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวสกับการจับกุมหญิงไทยทั้งสองคน ได้รับการชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้เข้าไปตรวจสอบที่ร้านนวดสปาดังกล่าวและพบว่าหญิงไทยทั้งสองให้บริการนวดแผนไทยและบริการทางเพศ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนและตรวจสอบเอกสารการทำงาน จึงพบว่าทั้งสองคนถือวีซ่าประเภทธุรกิจ ไม่ใช่วีซ่าประเภททำงาน

ต่อมาสถานเอกอัครราชทูตได้เจรจาต่อรองกับสถานีตำรวจเมืองโนโวซีบีสค์เพื่อขอให้ปล่อยตัวบุคคลทั้งสอง ซึ่งในที่สุดสถานีตำรวจแจ้งว่า หากสถานเอกอัครราชทูตสามารถจัดหาเที่ยวบินที่ออกจากเมืองโนโวซีบีสค์ไปยัง ประเทศไทยโดยตรงได้ สถานีตำรวจจะปล่อยหญิงไทยทั้งสองให้เดินทางกลับประเทศไทย แต่ทั้งนี้ ทั้งสองคนจะไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศรัสเซียได้ในระยะเวลา5 ปี

สถานเอกอัครราชทูตจึงได้ประสานกับสายการบิน IFLY ซึ่งมีเที่ยวบินชาเตอร์ไฟล้ท์ ที่บินตรงจากเมืองโนโวซีบีสค์มายังประเทศไทย แต่กฎการบินประเภทชาเตอร์ไฟล้ท์ไม่อนุญาตให้คนต่างชาติขึ้นเครื่องบิน สถานเอกอัครราชทูตจึงเจรจาขอยกเว้นเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งในที่สุดสายการบินยินยอมตามคำขอของสถานเอกอัครราชทูต โดยขอให้สถานเอกอัครราชทูตขออนุญาตกรมการบินพลเรือนให้คนไทยทั้งสองคนเดินทางโดยเที่ยวบินดังกล่าว สถานเอกอัครราชทูตจึงได้ประสานกับกรมการบินพลเรือนรัสเซียและทำหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการตามที่สายการบินร้องขอจนเป็นที่เรียบร้อย

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2554 เวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่รัสเซียได้นำหญิงไทยทั้งสองคนไปส่งที่ท่าอากาศยานทัลมาเชโว (Tolmachevo) และเดินทางโดยเที่ยวบิน H 59167 กลับถึงประเทศไทยเวลา 15.30 น.

สถานเอกอัครราชทูตจึงเตือนให้แรงงานไทยที่ประสงค์จะเดินทางไปทำงานในรัสเซียต้องระลึกไว้เสมอว่าการเข้าไปทำงานในรัสเซียต้องมีวีซ่าประเภททำงาน (working visa) มิเช่นนั้นจะถูกจับและส่งตัวกลับประเทศดังเช่นกรณีของหญิงไทยทั้งสองคนนี้ อนึ่ง ประเทศรัสเซียไม่มีบทลงโทษทางอาญาเกี่ยวกับการค้าประเวณีแต่ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายปกครองมาตราที่เกี่ยวกับการก่อความไม่สงบ