กฎหมายบรูไนที่ควรรู้
1. คนไทยถูกศาลตัดสินจำคุก คดีพำนักอยู่ในประเทศบรูไนอย่างผิดกฎหมาย
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2554 เจ้าหน้าที่กองปราบจากหน่วยงานราชการหลายหน่วยงาน อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติบรูไน ศุลกากร สำนักงานปราบปรามยาเสพติด และ กองตรวจคนเข้าเมือง ได้ร่วมมือกันปฏิบัติการตรวจค้นย่านต่าง ๆ ที่คาดว่าจะมีผู้กระทำผิดกฎหมาย ซึ่ง เจ้าหน้าที่ได้บุกค้นบ้านพักแห่งหนึ่งซึ่งมีลักษณะเป็นกระท่อมไม้ ย่าน Kilanas และพบชายไทย อายุ 53 ปี พำนักอาศัยอยู่ในกระท่อมหลังดังกล่าว จากการตรวจสอบบุคคล พบว่า หนังสือเดินทางของชายไทยผู้นี้ ได้หมดอายุลงแล้ว และพำนักอยู่ในบรูไนโดยไม่มีใบอนุญาตการทำงาน (work permit) หลังการสอบสวน เจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อหาแก่บุคคลผู้นี้ว่า เป็นผู้อาศัยอยู่ในประเทศบรูไนอย่างผิดกฎหมาย (over-stay) เป็นระยะเวลา 2,731 วัน นับจากวันที่ใบอนุญาตทำงานหมดอายุลงจนถึงวันที่ถูกจับกุม อันถือเป็นการกระทำความผิดกฎหมายคนเข้าเมือง มาตรา 17 หมวดที่ 15 (1) [Immigration Act Chapter 17 section 15(1)] มีบทลงโทษตามกฎหมายมาตราเดียวกัน หมวดที่ 15(2)(b)] [section 15(2)(b)] และถือตาม หมวดที่ 55(3A) [section 55(3A)] คือ จำคุกเป็นเวลาอย่างต่ำ ๓ เดือน และสูงสุดเป็นเวลา 2 ปี และโบยเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 3 ครั้งติดต่อกัน
เนื่องจากจำเลยมีอายุ 53 ปีแล้ว จึงถือเป็นบุคคลที่ได้รับการยกเว้นจากการโบย แต่จะต้องถูกปรับเป็นเงินสูงสุดไม่เกินจำนวน 6,000 ดอลลาร์บรูไน จำเลยได้ยอมรับผิดตลอดข้อกล่าวหา ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเลยยอมรับผิด และเป็นการกระทำความผิดเป็นครั้งแรก จึงพิจารณาลดหย่อนโทษให้โดยลงโทษจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน และปรับเป็นเงินจำนวน 2,000 ดอลลาร์บรูไนแทนการโบย ทั้งนี้ หากจำเลยไม่สามารถนำเงินมาชำระค่าปรับได้ จะต้องถูกจำคุกเพิ่มขึ้นอีกเป็นเวลา 4 เดือน
2. คนไทยถูกศาลปรับข้อหาขับรถประมาททำให้เกิดอุบัติเหตุ
คนไทยอีกหนึ่งราย ถูกศาลชั้นต้น เขตตูตง ตัดสินปรับเป็นเงินจำนวน 350 ดอลลาร์บรูไน ในข้อหา ขับรถด้วยความประมาทและไม่ระมัดระวังจนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ ถือเป็นการ กระทำความผิดกฎหมายจราจร มาตราที่ 68 หมวดที่ 29 (1) มีบทลงโทษตามกฎหมายมาตราเดียวกัน หมวดที่ 29(1) คือ จำคุกเป็นเวลาสูงสุด 12 เดือน และปรับเป็นเงินจำนวน 5,000 ดอลลาร์บรูไน หากกระทำความผิดเป็นครั้งที่สอง จะต้องถูกลงบันทึกไว้ในใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ทุกประเภท พร้อมถูกยึดใบขับขี่เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 18 เดือน
ที่มา : เว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูต ณ บันดาเสรีเบกาวัน http://www.thaiembassybrunei.org/index.php?lay=show&ac=article&Id=539309474&Ntype=1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น