วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556

กงสุลไทยพาญาติเยี่ยมนักโทษประหารที่รัฐกลันตัน

ด่านตรวจคนเข้าเมืองสุไหงโกลก    ๒๐  สิงหาคม  ๒๕๕๖  เวลา  ๐๗.๐๐ น.
                               ในช่วงเช้าตรู่ของวันนั้นมีคนไทยกลุ่มหนึ่ง  ส่วนใหญ่เป็นสตรีเด็กหญิง เด็กชาย และมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องที่ของอำเภอตากใบและอำเภอเจาะไอร้อง  จังหวัดนราธิวาส รวมทั้งหมด  ๑๔  คน พากันเดินเท้าผ่านด่านชายแดนไปขึ้นรถมินิบัส ๒ คัน ของสถานกงสุลใหญ่  ณ  เมืองโกตาบารู ที่จอดรออยู่ตรงหน้าด่านฝั่งมาเลเซีย   ภายในเวลาไม่นานนักรถยนต์ทั้งสองคันก็เคลื่อนออกจากด่าน...แล่นมุ่งหน้าไปยังเรือนจำมาจาง  รัฐกลันตัน  ประเทศมาเลเซีย
                               คณะคนไทยข้างต้นเป็นพี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส  เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้พวกเขาได้รับการติดต่อจากทางศาลากลางจังหวัด ให้เตรียมตัวเดินทางไปประเทศมาเลเซียเพื่อเยี่ยมญาติ  ๖  คนซึ่งปัจจุบัน ต้องโทษรอการประหารชีวิตอยู่ที่เรือนจำของรัฐกลันตัน
                              ญาติของพวกเขามีสถานภาพเป็นนักโทษในคดียาเสพติด  แต่ในขณะเดียวกันก็มีฐานะเป็นทั้งสามีพ่อของลูก และหัวหน้าครอบครัวของคนไทยกลุ่มนี้ด้วย
                               การเดินทางข้ามแดนข้างต้นได้รับความอนุเคราะห์จากนายจักรกฤษณ์ กาญจนศูนย์ กงสุลใหญ่  ณ  เมืองโกตาบารู ผู้ทำหน้าที่เป็นแม่งานช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าการติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่เรือนจำ   จัดหารถราพาหนะ  ดูแลอาหารการกิน  ตลอดจนจัดเตรียมสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นเพื่อนำไปมอบให้แก่นักโทษตามระเบียบที่เรือนจำอนุญาต ในอีกแง่หนึ่งนักโทษชายทั้ง  ๖  รายในเรือนจำของรัฐกลันตันมีฐานะเป็นคนไทยผู้ตกทุกข์ได้ยากในเขตอาณาภายใต้การดูแลช่วยเหลือของท่านกงสุลใหญ่ด้วย
                        คณะญาติของนักโทษเดินทางถึงเรือนจำมาจางในช่วงสายของเช้าวันนั้น  การขออนุญาตเข้าเยี่ยมตามระเบียบดำเนินไปอย่างราบรื่นด้วยบรรยากาศที่เป็นมิตรจากเจ้าหน้าที่มาเลเซียซึ่งรอต้อนรับและจัดเตรียมสถานที่ให้นักโทษไทยได้พบปะกับภรรยา บุตร และญาติพี่น้องอย่างอบอุ่น  นักโทษหลายคนขาดหายจากครอบครัวที่เมืองไทยเป็นเวลานานหลายปี  
                       สิ่งที่ได้เห็นเป็นภาพชีวิตที่ทำให้ตื้นตันจนยากจะบรรยายเป็นคำพูดออกมาได้   สีหน้าของนักโทษแจ่มใสและมีรอยยิ้ม  พวกเขากล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ราชการของไทยด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ  แม้ว่าชะตากรรมในวันข้างหน้ายังคงเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน  แต่ความอบอุ่นและอารมณ์ที่ผ่อนคลายในโอกาสอย่างนี้สามารถช่วยให้พวกเขามีกำลังใจที่จะต่อสู้เพื่อดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไม่ท้อแท้สิ้นหวัง
           ท่านกงสุลใหญ่เล่าให้ฟังด้วยว่า  ท่านติดตามสถานการณ์ของปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามแนวตะเข็บชายแดนไทย-มาเลเซีย อย่างใกล้ชิด เนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีคนไทยจำนวนไม่น้อยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียจับกุมในข้อหาหนักและเบา  เช่น  การลักลอบเดินทางไปทำงาน  ปัญหาหญิงไทยถูกหลอกลวงไปค้าประเวณี  และที่หนักหนาที่สุดคือการลักลอบขนยาเสพติดประเภทต่างๆ ไม่ว่า กัญชา  ใบกระท่อม ยาบ้า เฮโรอีน โคเคน ฯลฯ เพราะโทษทัณฑ์ฐานข้องแวะกับยาเสพติดนั้นรัฐบาลมาเลเซียมีบทลงโทษที่รุนแรงมาก  ขนยาเพียงไม่กี่กรัมก็อาจต้องโทษถึงขั้นประหารชีวิต  ปัญหานี้คนไทยทุกคนจึงต้องระวังตัวให้จงหนัก
โครงการพาญาติไปเยี่ยมนักโทษไทยของสถานกงสุลใหญ่  ณ  เมืองโกตาบารู เป็นภารกิจสำคัญตามนโยบายการทูตเพื่อประชาชนของกระทรวงการต่างประเทศ  ที่มุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือและคุ้มครองผลประโยชน์ของคนไทยในต่างประเทศ  แม้ว่าคนไทยจะมีสถานภาพเป็นนักโทษคดีอุกฉกรรจ์  แต่การดูแลด้านมนุษยธรรมตามสิทธิอันพึงได้ตามกฏหมายถือเป็นหน้าที่ต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ...  เพราะอย่างไรพวกเขาเหล่านั้นก็เป็นพี่น้องคนไทยเหมือนกับพวกเรา
                                                                ………………………..
  
ภาพ ๑  คณะเจ้าหน้าที่ของเรือนจำให้การต้อนรับญาติของนักโทษไทย


ภาพ  ๒   ห้องเยี่ยมนักโทษ


ภาพ  ๓   กงสุลใหญ่ จักรกฤษณ์  กาญจนศูนย์   ขอบคุณผู้บริหารเรือนจำรัฐกลันตัน

สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู
http://www.thaiembassy.org/kotabharu/
กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
กรมการกงสุล
กระทรวงการต่างประเทศ
123 ถ.แจ้งวัฒนะ ทุ่งสองห้อง หลักสี่ กทม 10210
โทร. 0 2575 1047-51
โทรสาร  0 2575 1052
www.consular.go.th
หนังสือคู่สร้างคู่สม ปีที่ 34 ฉบับที่ 814 ศุกร์ที่ 13 กันยายน 2556 หน้าที่ 42 - 43




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น