วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สวรรค์ล่มในอเมริกา.. ทำผิดเพราะคิดง่ายไป




การได้ไปทำงานในต่างประเทศ อาจเป็นความฝันของใครหลายๆ คน เพื่อเชื่อว่ารายได้และสวัสดิการดีกว่าทำงานอยู่ที่เมืองไทย
ปัจจุบันมีงานประเภทหนึ่งกำลังฮิตและเป็นที่ใฝ่ฝันของบรรดาผู้ใช้แรงงานไทยทั้งหญิงและชาย  เนื่องจากรายได้ดี  ถูกกฏหมาย แถมยังได้ประสบการณ์ท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ ทั้งในสหรัฐอเมริกาและประเทศใกลเคียงด้วยก็คือ การทำงานบนเรือสำราญที่มีโปรแกรมทัวร์ไปทั่วโลก 
ความที่เป็นกิจการเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่  หรูหราบรรยากาศบนเรือทั้งลำเต็มไปด้วยธุรกิจบันเทิงเริงรมย์แบบครบวงจร ไม่ว่าห้องออกกำลังกาย  นวดสปา  ร้านอาหาร บาร์เครื่องดื่ม  ไนท์คลับ  คาสิโน ฯลฯ  ตำแหน่งงานสารพัดชนิดจึงมีให้ทำจำนวนมาก  ส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นงานบริการที่คนไทยถนัดและชำนาญทั้งสิ้นยิ่งขึ้นชื่อว่าจะได้ไปทำงานไกลถึงอเมริกาด้วยแล้ว  ใครๆ ก็อยากจะลองเสี่ยงโชคดูสักครั้งในชีวิต
มีหญิงสาวรายหนึ่งอายุเพิ่งจะผ่านวัยเบญจเพศไปไม่นาน เธอมีรูปร่างหน้าตาดึงดูดความสนใจของผู้คนพอสมควร  แม้ว่าการศึกษาจะไม่สูงนักแต่อาศัยความที่เป็นคนกล้าได้กล้าเสีย และมานะทำงานไม่เกี่ยงงอนจึงทำให้เธอผ่านการคัดเลือกเป็นพนักงานประจำเรือสำราญของบริษัทมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา  
นายจ้างพาเธอไปสถานทูตเพื่อยื่นขอวีซ่าทำงานซึ่งก็ผ่านได้อย่างไม่ยุ่งยาก เธอได้วีซ่าประเภท  ซี.ดี.- วัน (CD – 1) ซึ่งเป็นวีซ่าที่สถานทูตออกให้สำหรับพนักงานประจำเรือ สามารถเดินทางเข้าสหรัฐได้ในห้วงเวลาสั้นๆ เป็นครั้งคราวในยามที่เรือสำราญจอดแวะตามเมืองท่าต่างๆ  แต่เมื่อใดที่เรือถึงกำหนดออกเดินทางก็ต้องไปพร้อมกับเรือทันที
หญิงสาวอดทนทำงานบนเรือสำราญได้ระยะหนึ่ง  ทีแรกอะไรๆ ก็ดูสนุกตื่นเต้นดี แต่เมื่อผ่านไปสักพักก็เกิดความเบื่อหน่ายกับความจำเจซ้ำซากบนเรือ   
ต่อมาเธอมีโอกาสรู้จักกับหนุ่มอเมริกันคนหนึ่ง  ใกล้ชิดสนิทสนมจนความสัมพันธ์พัฒนากลายเป็นความรักอย่างรวดเร็วเธอตัดสินใจหลบหนีนายจ้างขึ้นฝั่งเพื่อติดตามชายคนรักเดินทางข้ามประเทศจากชายฝั่งตะวันตกมายังฝั่งตะวันออกอย่างไม่ลังเลใจ   วาดความฝันไว้สวยงามว่า จะได้แต่งงานและตั้งรกรากอยู่กับสามีที่สหรัฐอเมริกาอย่างถาวร
เรื่องราวรักข้ามโลกดูจะราบรื่นดีแต่เวรกรรมที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นจนได้  
เพราะหลังจากหนีตามสามีมาแล้ว เขากลับไม่ได้พาเธอไปพักที่บ้าน แต่กลับจองโรงแรมให้เธออยู่แบบชั่วคราว โดยให้เหตุผลว่าต้องทำงานนอกสถานที่เป็นประจำแต่ปัญหาเกิดขึ้น เมื่อสามีดันลืมจ่ายเงินค่าที่พัก ทางโรงแรมจึงไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ  เธอและสามีถูกจับด้วยกันทั้งคู่ฐานฉ้อโกง  และเคราะห์ของเธอยังไม่หมดเพียงแค่นั้น เพราะหลังจากการสอบสวนเธอถูกแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งกระทง ในข้อหาพำนักในสหรัฐอเมริกาเกินกำหนดอนุญาต ตำรวจส่งตัวเธอไปฝากขังที่เรือนจำทันที
ฟังเรื่องนี้แล้วรู้สึกหดหู่ใจไม่น้อย  เข้าทำนองได้งานทำดีอยู่แล้วแต่กลับทำพังเสียเอง  เป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์อย่างแท้จริง เพราะวีซ่าลูกเรือที่เธอได้มานั้นไม่อนุญาตให้พำนักอยู่บนบกอย่างถาวร ต้องทำงานบนเรือสำราญจนครบตามสัญญาจ้างเท่านั้น  หากหลบหนีจากเรือเมื่อใดก็ผิดกฏหมายทันที 
กรณีนี้แม้ว่าเจ้าหน้าที่กงสุลของสถานทูตไทยได้เข้าไปช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้วก็ตาม  แต่กฏหมายคือกฏหมาย คนทำผิดอย่างไรก็ต้องรับโทษ
จึงอยากฝากเป็นข้อคิดเตือนใจว่า  การทำผิดบางเรื่องหากอยู่ในเมืองไทยอาจดูเป็นปัญหาเล็กน้อย แต่ถ้าไปทำผิดในสหรัฐอเมริกาเข้าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตทันที   โดยเฉพาะความผิดเกี่ยวกับจริยธรรมซึ่งกระทบต่อความสงบเรียบร้อยในสังคมอาจกลายเป็นคดีอาญาซึ่งมีบทลงโทษรุนแรงกว่าในเมืองไทยมาก  กฏหมายแบบนี้ตราขึ้นเพื่อป้องปรามไม่ให้ผู้อื่นเอาเยี่ยงอย่าง .. 
สาวไทยรายนี้อาจถูกเนรเทศ และหมดสิ้นโอกาสที่จะกลับไปอเมริกาอีกตลอดชั่วชีวิตก็เป็นได้



                                                                                .........................................


อ้างอิง หนังสือคู่สร้างคู่สม ปีที่ 34 ฉบับที่ 810 
วันศุกร์์ที่ 16 ส.ค. 2556 หน้า 70-71
กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
กรมการกงสุล
กระทรวงการต่างประเทศ
123 ถ.แจ้งวัฒนะ ทุ่งสองห้อง หลักสี่ กทม 10210
โทร. 0 2575 1047-51
โทรสาร  0 2575 1052

2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ20 สิงหาคม 2556 เวลา 21:38

    น่าสงสารเธอจัง....ถ้าสิ้นสุดคดีแล้วกลับเมืองไทยเรา....หมั่นสร้างบุญเยอะ ๆ นะ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ26 กันยายน 2556 เวลา 07:46

    น่าสงสารอยู่หรอก ก่อนทำทำไมไม่คิด ฝรั่งบางคนร้ายยิ่งกว่าผู้ชายไทยเสียอีก เวลาเราไปเมกา(ติดตามสามี)ฝรั่งมันพูดว่าผู้หญิงไทยน่าดูทีเดียว

    ตอบลบ