วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2555

มาเลเซียเข้ม จับแหลกต่างด้าวทำงานผิดกฎหมาย

ฝากข่าวกันมาอีกแล้ว สำหรับท่านสมพงษ์ กางทอง อัครราชทูตที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย แจ้งมาว่าท่านเพิ่งจะไปช่วยเหลือคนไทยที่ถูกกักตัวที่สนามบินกรุงกัวลาลัมเปอร์เนื่องจากใช้ตราประทับเข้าเมืองปลอม
จากการสอบถามทราบเพิ่มเติมทราบว่า คนไทยทั้ง 8 คนที่ถูกจับกุมในคราวนี้เดินทางเข้ามาเลเซียโดยมีนายหน้าติดต่อให้ไปเล่นดนตรีในสถานบันเทิง ทั้งหมดเข้าเมืองโดยไม่มีวีซ่าหรือใบอนุญาติทำงาน พอทำงานได้ประมาณ 28 วัน นายหน้าได้นำหนังสือเดินทางไป บอกว่าจะไปต่อวีซ่าให้ทำงานได้อีก 1 เดือน นักดนตรีไทยก็ไม่ทราบเลยว่าวีซ่าที่พวกตนได้รับเป็นของปลอม พอจะเดินทางออกจากประเทศมาเลเซียจึงถูก ตม. ที่สนามบินกักตัวไว้เพื่อส่งดำเนินคดีข้อหาใช้ตราประทับเข้าเมืองปลอม
ตม. มาเลเซียบอกว่า แม้ว่าคนไทยทั้งหมดจะไม่ได้เป็นผู้ปลอมวีซ่า แต่ก็จะโดนตั้งข้อหา "ใช้วีซ่าปลอม" ซึ่งมีโทษสูงสุดคือจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 50,000 ริงกิต (ประมาณ 500,000 บาท) หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งถือได้ว่าเป็นบทลงโทษที่ค่อนข้างรุนแรง

ท่านสมพงษ์ฯ เล่าให้ฟังด้วยว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม 2555 เป็นต้นมา มีคนไทยมากกว่า 20 คน ที่เข้าไปรับจ้างเล่นดนตรีในมาเลเซียโดยมีนายหน้าชักชวน อ้างว่าสามารถทำใบอนุญาตทำงานระยะสั้นให้ได้ และหากมีปัญาก็สามารถจะ "เคลียร์" กับตำรวจได้ บางรายถูกจำคุกคนละ 1-3 เดือน บางรายพ้นโทษเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว ยังกลับเข้ามาเลเซียและก็ถูกจับอีก ต้องเสียเงินทั้งบนโต๊ะใต้โต๊ะจำนวนมาก กว่าจะ "เคลียร์" กันได้ ซึ่งตามกฎหมายมาเเลเซีย แรงงานต่างด้าวที่เคยทำผิดกฎหมายและถูกส่งตัวกลับประเทศไปแล้ว หากยังกลับเข้ามาเลเซียและทำงานโดยผิดกฎหมายอีกจะถูกจับกุมดำเนินคดีและลงโทษสถานหนัก แม้กระนั้นก็ตาม ยังมีคนไทยดาหน้าเข้ามาเลเซียอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย บ้างก็ถูกนายหน้าหลอกว่าจะไม่มีปัญหา ทางการมาเลเซียจะมีโครงการอภัยโทษอยู่เรื่อยๆ หรือหลอกว่าจะขอใบอนุญาตทำงานให้ ซึ่งสถานะ ณ สิ้นเดือน กันยายน 2555 สถานทูตได้รับแจ้งว่ามีคนไทยถูกจับกุมทั้งคดรทำงานผิดกฎหมาย คดีเข้าเมืองผิดกฎหมาย และคดียาเสพติดรวมแล้วกว่า 700 คน

ดังนั้น จึงขอให้คนไทยอย่าได้หลงเชื่อนายหน้าที่มาชักชวนให้เข้าไปทำงานในมาเลเซีย เพราะทางการมาเลเซียเข้มงวดเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้มาก ท่านจะต้องถูกจับกุมดำเนินคดีอย่างแน่นอน และเมื่อถูกจับกุมแล้ว นายหน้าหรือนายจ้างก็ไม่สามารถจะช่วยอะไรได้และจะหายหน้าเข้ากลีบเมฆเพราะตัวเองก็มีความผิดฐานจ้างแรงงานผิดกฎหมายด้วยซึ่งจะต้องถูกลงโทษหนักเป็น 3 เท่าของแรงงานที่ตนจ้าง ที่สำคัญก็คือ สถานทูตไม่สามารถช่วยอะไรท่านได้เพราะเป็นการกระทำผิดกฎหมายโดยชัดแจ้ง สรุปว่า เข้าไปทำงานในมาเลเซีย มีโอกาสสูงมากๆ ที่ท่านจะถูกจับกุมดำเนินดคี ยากที่จะรอดหูรอดตาตำรวจไปได้
ารไปทำงานอย่างถูกต้องนั้น สามารถกระทำได้โดยนายจ้างจะต้องยื่นเรื่องขอรับหนังสือยืนยันการจ้างงานจากกรมการจัดหางานของมาเลเซีย ที่เรียกกันว่า Calling Visa หรือ Visa with Reference ประกอบการยื่นขอวีซ่าจากสถานทูต/สถานกงสุลมาเลเซียในประเทศไทยก่อนการเดินทางไปทำงานในมาเลเซีย 

ที่มา : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น