วันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

คำแนะนำในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2012 (Middle East respiratory syndrome coronavirus; MERS-CoV)



โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2012 หรือเมอร์ส-โควี พบการระบาดครั้งแรกตั้งแต่เดือนเมษายน 2555 โดยขณะนี้พบรายงานผู้ป่วยทั้งหมดจาก 15 ประเทศ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย จอร์แดน กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี ตูนิเซีย อิตาลี โอมาน คูเวต มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ กรีซ และอียิปต์ โดยอาการของโรคนี้จะมีไข้ ไอ ปอดบวม หายใจเร็ว บางรายอาจมีอาเจียน ท้องเสีย และในผู้ป่วยที่มีอาการแทกซ้อนรุนแรงและเสื่ยงต่อการเสียชีวิต จะพบอาการ เช่น ปอดอักเสบติดเชื้ออย่างรุนแรง ไตวาย เป็นต้น ส่วนการรักษาเป็นแบบการประคับประคอง ยังไม่มีวัคซีนและยารักษาที่จำเพาะ

เนื่องจากประเทศไทยมีผู้เดินทางไปแสวงบุญ รวมถึงมีผู้เดินทางไปท่องเที่ยวและใช้แรงงานในประเทศทางตะวันออกกลางตลอดปี ทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2012 จึงขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี

1. สำหรับผู้เดินทาง/นักท่องเที่ยว - ขอให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไปบริเวณฟาร์ม หรือพื้นที่โรงเก็บผลผลิตทางการเกษตร ให้ระมัดระวังการสัมผัสกับสิ่งต่าง ๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ตลาดที่มีอูฐ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสอูฐ และหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำนมดิบจากอูฐ เนื่องจากอาจมีการปนเปื้อนสารคัดหลั่งของสัตว์ รวมถึงการหลีกเลี่ยงสัมผัสผลิตภัณฑ์การเกษตรที่ยังไม่ผ่านการล้าง ปอกเปลือก หรือปรุงให้สุก

2. ประชาชนทั่วไป - หากเข้าเยี่ยมชมฟาร์มหรือพื้นที่โรงเก็บผลผลิตทางการเกษตร ควรรักษาสุขอนามัยทั่วไป หมั่นล้างมือเป็นประจำ และหลีกเลี่ยงสัมผัสสัตว์ป่วยและรับประทานอาหารที่ถูกสุขอนามัย

3. สำหรับสถานพยาบาล - หากพบผู้ป่วยสงสัยหรือผู้ที่รับการยืนยันว่าติดเชื้อโรคไวรัสโคโรน่า ขอให้ใช้มาตรการที่เหมาะสมในการลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไปยังผู้ป่วยอื่น และควรระมัดระวังใช้มาตรการควบคุมการติดเชื้ออย่างเป็นมาตรฐานและต่อเนื่องกับผู้ป่วยทุกรายตลอดเวลา

ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกแนะนำให้เพิ่มความตระหนัก เรื่องติดเชื้อโรคไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2012 ในกลุ่มนักท่องเที่ยวและผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาดของโรค แต่ยังไม่มีการแนะนำให้ตั้งจุดตรวจคัดกรองพิเศษบริเวณทางเข้า-ออกประเทศ และไม่แนะนำให้จำกัดการเดินทางหรือกีดกันทางการค้าแต่อย่างใด

ข้อมูลเพิ่มเติม ติดตามได้ที่ http://beid.ddc.moph.go.th/


 กระทรวงการต่างประเทศ
https://www.facebook.com/ThaiMFA/posts/771714146201929

กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
กรมการกงสุล
กระทรวงการต่างประเทศ
123 ถ.แจ้งวัฒนะ ทุ่งสองห้อง หลักสี่ กทม 10210
โทร. 0 2575 1047-51
โทรสาร  0 2575 1052

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น