วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ระวัง อย่านำเงินมูลค่าเกิน 10,000 ยูโร เข้า-ออก ประเทศอียู

สถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต รายงานว่าเมื่อ 18 มิ.ย. 55 ได้รับโทรศัพท์จากข้าราชการไทยที่เป็นคณะดูงานไปศึกษาดูงานที่ประเทศเยอรมันแจ้งว่าถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากรสนามบินแฟรงก์เฟิร์ตจับกุมและปรับในข้อหาพกพาเงินสดมูลค่าเกิน 10,000 ยูโรโดยไม่แจ้งการพกพา

ท่านกงสุลฤทธิชัย ทับสุวรรณ ก็ไม่รอช้ารีบเดินทางไปที่สนามบินทันที พอไปถึงก็พบว่าข้าราชการไทยที่ถูกจับกุมนั้น เป็นเจ้าหน้าที่อยู่ในคณะดูงานมีหน้าที่ถือเงินสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายของคณะเดินทางดังกล่าว และขณะที่กำลังจะผ่านด่านศุลกากรของสนามบินก็ถูกตรวจพบว่าพกพาเงินเกินกว่า 10,000 ยูโร ท่านกงสุลจึงต้องเจรจาขอให้ศุลกากรเยอรมันช่วยผ่อนปรนให้กับกรณีดังกล่าวด้วยเพราะตัวเจ้าหน้าที่ที่ถูกจับกุมไม่ทราบมาก่อนว่ามีระเบียบห้ามพกพาเงินเกิน 10,00 ยูโร อย่างไรก็ตาม ทางศุลกากรสนามบินแฟรงเฟิร์ตยืนยันต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด จึงยึดเงินสดจำนวน 3,350 ยูโรไว้เป็นค่าประกันก่อนจะส่งเรื่องไปให้สำนักงานใหญ่พิจารณาคำนวนเปรียบเทียบปรับต่อไป

ในเรื่องกฎเกณฑ์ในการนำเงินเข้า-ออกจากสหภาพยุโรปนั้น บังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2550 แล้ว โดยมีเป้าหมายเพื่อควบคุมการไหลเข้า-ออก ของเงินของประเทศสมาชิกประชาคมยุโรป เสริมมาตรการการฟอกเงินและฉ้อฉลทางการเงินในรูปแบบต่างๆ โดยระเบียบดังกล่าวกำหนดให้ผู้ที่เดินทางเข้า-ออก ประเทศสมาชิกประชาคมยุโรปที่ถือเงินสด (รวมไปถึงเช็ค ตั๋วแลกเงิน ไปรษณีย์ ธนาณัติ ฯลฯ ) ที่มีมูลค่ารวมกันตั้งแต่ 10,000 ยูโรขึ้นไป ต้องแจ้งต่อศุลกากรหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ ณ จุด เข้า-ออก ของประเทศสมาชิก หากฝ่าฝืนไม่แจ้งหรือแจ้งเท็จและถูกตรวจพบ อาจถูกปรับหรืออายัดเงินและถูกลงโทษตามกฎหมายของประเทศสมาชิก

เรื่องนี้ก็เป็นอุทธาหรณ์ให้ผู้ที่จะเดินทางเข้า-ออก ประเทศในกลุ่มอี.ยู ระมัดระวังการถือเงินหรือเอกสารเกี่ยวกับการเงิน อย่าให้มูลค่าเกินกว่าที่กำหนด เรื่องเงินๆ ทองๆ ยุโรปเขาเอาจริงนะ จะบอกให้


ที่มา : สถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต 
          กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
          กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น