วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558

สะท้อนสังคม : ปัญหาคนไทยลักลอบทำงานในเกาหลีใต้

            เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2558 อัครราชทูต และอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงานประจำกรุงโซล) ได้พบหารือกับหัวหน้าสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ประจำสนามบิน Incheon เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาคนไทยลักลอบทำงานในเกาหลีใต้ เพราะปัจจุบันมีข้อมูลระบุว่า คนต่างชาติที่ลักลอบทำงานหรือพำนักอย่างผิดกฎหมายในเกาหลีใต้จำนวน 213,823 คน เป็นคนไทย 53,444 คน คิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนทั้งหมดดังกล่าว โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จำนวนคนไทยเหล่านี้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 258.6 และตั้งแต่วันที่    17 ม.ค.- 15ก.พ. 2558 มีคนไทยเดินทางเข้าเกาหลีใต้จำนวน 26,269 คน โดยในจำนวนนี้เป็นคนไทยลักลอบทำงานถึง 1,138 คน
            ทางการเกาหลีใต้ให้ข้อมูลว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้จำนวนคนไทยพำนักอย่างผิดกฎหมายในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วจนน่าวิตก เนื่องจากมีนายหน้าชาวไทยและเกาหลีร่วมกันลักลอบนำเข้าแรงงานไทย โดยในเดือน พ.ค. 2558 สามารถจับกุมนายหน้าคนไทยได้ 5 คน ซึ่งจากการตรวจสอบระบบทำงานของนายหน้าดังกล่าว พบการใช้ระบบ Online สมัครงาน ฝึกอบรมผู้สมัครให้ปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยว และเมื่อเดินทางถึงสนามบิน จะมีคนเกาหลีรับไปส่งให้บริษัทก่อสร้าง โรงงาน ฟาร์ม สถานบริการนวด/บริการทางเพศ ฯลฯ โดยคิดค่าบริการต่างๆ รวมประมาณ 80,000 บาท/คน

            นับเป็นข้อมูลที่น่าตกใจอย่างยิ่ง เพราะเมื่อบุคคลเหล่านั้นตกทุกข์/ถูกจับมักจะขอความช่วยเหลือกับสถานเอกอัครราชทูต โดยอ้างว่าตนเองถูกหลอกมาทำงาน แต่แท้จริงแล้วคนไทยจำพวกนี้เต็มใจมาทำงานแม้กระทั่งจะต้องทำงานค้าบริการทางเพศก็ตาม หากสภาพการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไปอาจส่งผลกระทบต่อคนไทยที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวเกาหลีใต้ ประเด็นดังกล่าวข้างต้นนี้อาจเป็นผลให้เกิดการพิจารณาการตรวจลงตราแก่คนไทยที่จะเดินทางไปเกาหลีใต้ในอนาคต (ในปัจจุบันคนไทยสามารถเดินทางไปเกาหลีใต้ได้โดยได้รับการยกเว้นการตรวจตรา และสามารถพำนักในเกาหลีใต้ไม่เกิน 90 วัน)

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล

http://www.thaiembassy.org/seoul

กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
กรมการกงสุล
กระทรวงการต่างประเทศ
123 ถ.แจ้งวัฒนะ ทุ่งสองห้อง หลักสี่ กทม 10210
โทร. 0 2575 1047-51
โทรสาร  0 2575 1052
http://protectthaicitizen.blogspot.com
www.facebook.com/protectthai.consular


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น