วันอังคารที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

สถานทูตไทยที่มาเลเซียออกเยี่ยมและให้ความช่วยเหลือผู้ต้องขังชาวไทยที่เรือนจำในรัฐเปรัก


สถานทูตไทยที่มาเลเซียออกเยี่ยมและให้ความช่วยเหลือผู้ต้องขังชาวไทยที่เรือนจำในรัฐเปรัก


เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2553 นายกำธร สิทธิโชติอัครราชทูต นายสมพงษ์ กางทอง อัครราชทูตที่ปรึกษา และนางสาวปางมาศ วิเชียรสินธุ์ ที่ปรึกษาฝ่ายแรงงาน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ได้เดินทางไปยังเรือนจำเปนจารา เมืองตาปาห์ ห่างจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ 130 กิโลเมตร เพื่อเข้าเยี่ยมและให้ความช่วยเหลือผู้ต้องขังชาวไทย

ที่เรือนจำเปนจาราคณะของสถานทูตได้รับการต้อนรับจากผู้บัญชาการเรือนจำ และในการพบปะกับผู้ต้องขังจำนวน 15 คน นายกำธรฯ ในฐานะหัวหน้าคณะได้ปราศรัยให้ข้อคิดเตือนสติและให้กำลังใจทุกคน พร้อมทั้งได้มอบเงินสถานทูตฝากเข้าบัญชีเรือนจำให้ผู้ต้องขังทั้ง 15 ราย เพื่อเบิกจ่ายซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นจากร้านค้าของเรือนจำคนละ 50 เหรียญมาเลเซีย ซึ่งภายหลังการพบปะทักทายทำให้ผู้ต้องขังทุกคนมีกำลังใจดีขึ้น และหัวหน้าพัสดีเรือนจำได้ขอบคุณคณะผู้แทนของสถานทูตที่เอาใจใส่เดินทางไปเยี่ยมผู้ต้องขังสัญชาติไทยเป็นระยะเสมอมา ทั้งนี้คณะได้ใช้เวลาที่เรือนจำแห่งนี้ประมาณ 2 ชั่วโมง

หลังจากนั้นคณะได้ออกเดินทางต่อไปยังศูนย์กักกันตัวรอการส่งกลับลังคับของสำนักตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซีย ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองตาปาห์ระยะทาง 20 กิโลเมตร โดยมีหัวหน้าศูนย์และเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับคณะและได้นำผู้ถูกกักกันชาวไทย จำนวน 8 คนออกมาให้พบกับคณะ

หลังจากภารกิจเยี่ยมนักโทษและผู้ที่ถูกกักกันรอการส่งกลับแล้ว นายกำธรฯ และคณะได้เดนยทางไปเมืองอิโป เมืองหลวงของรัฐเปรักเพื่อร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ดูแลกิจการเกี่ยวข้องกับคนต่างชาติของรัฐเปรักรวม 30 คนซึ่งนายธนะ ดวงรัตน์ เอกอัครราชทูตไทยประจำมาเลเซียเป็นเจ้าภาพ

ต่อมาในวันที่ 2 กรกฎาคม 2553 เอกอัครราชทูตพร้อมด้วยคณะของสถานทูตได้เดินทางไปเยี่ยมวัดสิริปุญญามรรคาราม และได้เข้านมัสการพระอธิการเลื่อง เปมสีโร พระภิกษุเชื้อชาติไทย-มาเลย์ เจ้าอาวาสวัด ปัจจุบันวัดแห่งนี้มีพระลูกวัด 1 รูป วัดนี้ถือเป็นวัดสำคัญของชาวจีนและไทย-มาเลย์ที่นับถือศาสนาพุทธในเมืองอิโป ซึ่งมีประเพณีทำบุญวันอาทิตย์แทนวันธรรมสวนะหรือวันพระ เนื่องจากวันพระมักจะตรงกับวันทำงาน ในโอกาสดังกล่าวท่านทูตธนะฯ ได้มอบปัจจัยจำนวนหนึ่งเพื่อสนับสนุนกิจการของวัดด้วย

ปัจจุบันสถานทูตไทยที่มาเลเซียให้ความสำคัญกับการคุ้มครองคนไทยโดยจัดทำยุทธศาสตร์ในการสร้างความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ทางการมาเลเซียที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่ระดับสูงไปเยี่ยมคนไทยที่ถูกกักกัน คุมขังตามศูนย์กักกัน และเรือนจำในรัฐต่างๆสม่ำเสมอ

2 ความคิดเห็น:

  1. อยากรู้ว่าคุกในมาเลมีกี่ที่เพราะพี่สาวถูกขังแต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนจะติดต่อได้ยังไงค่ะ

    ตอบลบ
  2. กรุณาส่งคำร้องไปที่
    กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
    กรมการกงสุล
    เลขที่ 123ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหามหานคร 10210
    ขอให้ติดตามหาพี่สาว (ระบุชื่อ-นามสกุล)พร้อมส่งสำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประชาชนของคุณแนบไปด้วย ทางกองฯ จะขอให้สถานทูตติดตามหาครับ

    ตอบลบ