วันจันทร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2555

นักการทูตไทยถูกฉกกระเป๋าที่เบลเยี่ยม




ยุโีรป เป็นทวีปที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจากต่างทวีปรวมแล้วนับหลายสิบล้านคนเข้าไปเที่ยวในดินแดนแห่งนี้ รวมทั้งคนไทยเราด้วย  และที่ใดที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติไปเที่ยวกันมากๆ เหล่าบรรดามิจฉาชีพก็จะไปรวมตัวกันเพื่อประกอบอาชญากรรมกับนักท่องเที่ยวหรือคนต่างชาติ ในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวและคนต่างชาติต้องประสบเคราะห์ร้ายถูกหลอก ถูกลักทรัพย์ หรือถูกฉกชิงวิ่งราวทรัพย์สิน นักท่องเที่ยวชาวไทยก็ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพพวกนี้มานับไม่ถ้วน

ล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ นักการทูตสาวไทยที่ประจำอยู่ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม ขณะกำลังขับรถกลับบ้านแล้วติดไฟแดงอยู่ที่แยกแห่งหนึ่ง คนร้ายสองคนขับขี่จักรยานยนต์มาประกบด้านข้างแล้วใช้ของแข็งทุกกระจกรถและฉกกระเป๋าถือ จากนั้นหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว นักการทูตไทยรายนี้ นอกจากจะสูญเงินและทรัพย์สินต่างๆ รวมทั้งเอกสารสำคัญที่อยู่ในกระเป๋าแล้ว ยังต้องเสียสตางค์ไปซ่อมกระจกรถยนต์ที่แตกละเอียดอีกด้วย

เหตุการณ์ดังกล่าว ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดกับเจ้าหน้าที่หรือข้าราชการไทยที่ประจำอยู่ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์ลักวิ่งชิงปล้น บุกรุกทำลายทรัพย์สินนับครั้งไม่ถ้วน ข้าราชการของสถานทูตไทย "โดน" กันมาเกือบทุกคน โดยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 จนถึงปัจจุบัน เกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวขึ้นกับเจ้าหน้าที่ไทยถึง 7 ครั้ง แม้แต่ทำเนียบเอกอัครราชทูต (บ้านพักเอกอัครราชทูต) ก็ยังเคยถูกคนร้ายบุกรุกเข้ามาขโมยทรัพย์สินถึงห้องนอนของท่านทูตเลยทีเดียว จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ฝ่ายกงสุลของสถานทูตไทยที่เบลเยี่ยมจะต้องได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ถูกโจรกรรมทรัีพย์สิน หรือถูกฉกชิงวิ่งราวทรัพย์ จนเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว

บรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยี่ยมเป็นเมืองที่มีผู้อพยพจากแอฟริกาเหนือและยุโรปตะวันออกเข้ามาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก คนเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง อาศัยเลี้ยงชีพโดยการประกอบอาชญากรรม ซึ่งเป้าหมายของมิจฉาชีพพวกนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคนมีสตางค์ คนต่างชาติ เช่นนักการทูต นักท่องเที่ยว อาชญากรรมในเบลเยี่ยมนับวันจะรุนแรงขึ้น ทางการของเบลเยี่ยมเองก็อ้างว่าไม่มีกำลังบุคคลากรเพียงพอที่จะจัดการกับปัญหานี้ อีกทั้งกฎหมายของเบลเยี่ยมก็ลงโทษคดีเกี่ยวกับทรัพย์สินนี้ในสถานเบา เหล่ามิจฉาชีพจึงไม่เกรงกลัวกฎหมาย ปัญหานี้จึงกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนเป็นอย่างมาก

คนไทยที่จะเดินทางไปยุโรป โดยเฉพาะเมืองใหญ่ๆ อย่างบรัสเซลส์ ขอให้ระมัดระวังตัวเองและทรัพย์สินของท่านให้ดี แต่ถ้าเกิดเหตุขึ้นมาก็ติดต่อขอคำแนะนำจากสถานทูตไทยได้ แต่อย่าหวังว่าจะได้ทรัพย์สินคืน เพราะอย่างที่ได้กล่าวแล้ว แม้แต่นักการทูตและสถานทูตเองก็ยังไม่รอด

ที่มา : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์
        : กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
          กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น