วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555

เส้นทางสู่อเวจีสำหรับคนไทยที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยานรก




เรื่องราวของยาเสพติดยังคงปรากฏเป็นข่าวผ่านการรับรู้ของผู้คนในสังคมมาตลอดไม่เคยว่างเว้น ยังมีมนุษย์ชั่วๆ ที่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของคนอื่น และเหยื่อของยาเสพติดไม่ใช่มีแต่ผู้เสพเท่านั้น ผู้ที่หลวมตัวเข้าไปอยู่หรือไปมีส่วนร่วมในวงจรอุบาทว์นี้ก็เสมือนกับตกนรกทั้งเป็นด้วย

เมื่อช่วงเดือนกันยายน ปีที่ผ่านมาก็มีคนไทยถูกจับที่ประเทศจีน ข้อหาลักลอบนำยาเสพติด (เฮโรอีน) เข้าประเทศ จากการสอบสวนปากคำ ชายไทยรายนี้ก็ให้ข้อมูลว่า ตนเคยทำงานที่บาร์หลายแห่งบริเวณซอยอ่อนนุชและซอยนานา ในกรุงเทพฯ และได้รู้จักกับชายผิวดำจึงได้แลกเบอร์โทรศัพท์กันไว้ ต่อมาเมื่อปี 2553 ชายผิวดำคนดังกล่าวได้ชักชวนให้ไปขนเฮโรอีนที่ประเทศมาเลเซียเพื่อไปส่งที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน โดยจะมีผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ จึงได้ตกลงทำและเดินทางออกไปประเทศมาเลเซียทางด่านสะเดา จังหวัดสงขลา เมื่อถึงประเทศมาเลเซียจะเข้าพักที่โรงแรมซึ่งจะมีชายผิวดำอีกคนหนึ่งนำเฮโรอีนมาให้กลืนลงท้อง จากนั้นออกเดินทางไปยังเมืองเซินเจิ้นแล้วจะมีคนมารับเข้าพักที่โรงแรมพร้อมให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้ เมื่อถ่ายของ (เฮโรอีน) ออกหมดแล้วให้ติดต่อไปจะมีคนมารับของพร้อมจ่ายเงินให้ครั้งละ 70,000 - 80,000 บาท แล้วเดินทางกลับมาเลเซียและเข้าไทยทางด่านสะเดา ซึ่งตนทำเช่นนี้มาหลายครั้งแล้ว จนกระทั่งครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนกันยายน 2554 ระหว่างจะผ่านด่านศุลกากรที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน ก็ถูกเจ้าหน้าที่นำตัวไปเอกซเรย์และตรวจพบเฮโรอีนจำนวน 772.8 กรัม จึงถูกจับกุมตัว

นี่ไม่ใช่คนไทยรายแรกที่ถูกจับกุม กระบวนการนรกนี้ หลอกลวงคนไทยมานับไม่ถ้วนแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นหญิงไทยที่หัวอ่อน เชื่อคนง่าย บางรายมีลูกกับมนุษย์ชั่วพวกนี้ด้วย  ก็เรียกว่าเสียทั้งตัว เสียทั้งอนาคต เพราะโทษที่ได้รับ เกือบทุกราย "ประหารชีวิต"   สถานทูตไทยหลายแห่งก็ช่วยอะไรไม่ได้มากเพราะหลักฐานมัดตัวเแน่นหนา กฎหมายต่างประเทศก็รุนแรงเข้มงวด ปัจจุบันมีคนไทยที่ถูกจับกุมในต่างประเทศในข้อหายาเสพติดจำนวนมาก และรอการประหารชีวิตอยู่อีกหลายราย

ภาพที่น่าเวทนาและสลดใจ นอกจากจะเป็นภาพที่เราต้องเห็นคนไทยถูกประหารชีวิตหรือถูกจับกุมคุมขังในต่างประเทศแล้ว บางรายก็ต้องจบชีวิตก่อนจะถูกจับกุมเพราะถุงบรรจุเฮโรอีนที่กลืนลงท้องไปเกิดแตกขึ้นมา ร่างกายรับปริมาณยาเสพติดขนาดนั้นไม่ได้ก็ช็อคตายไป บางรายถูกจับกุมขณะตั้งครรภ์อ่อนๆ ก็ต้องรอจนคลอดลูกในเรือนจำ สถานทูตก็ต้องส่งตัวลูกกลับประเทศไทย เป็นภาระให้ญาติพี่น้องที่เมืองไทยต้องเลี้ยงดู ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเด็กที่เติบโตมาโดยที่ไม่รู้ว่าพ่อเป็นใคร แม่อยู่ไหน จะมีความรู้สึกอย่างไร และยิ่งถ้ารู้ความจริงว่าพ่อเป็นนักค้ายา แม่ก็ถูกประหารชีวิตไปแล้ว เด็กคนนั้นจะกลายเป็นปัญหากับสังคมต่อไปหรือไม่ ที่แย่ที่สุดคือ มนุษย์ชั่วที่มาหลอกลวงคนไทยยังคงลอยนวล ยังคงหลอกคนไทยต่อไป ยังคงจะมีคนไทยอีกหลายคนต้องตกเป็นเหยื่อวงจรนรกนี้ต่อไปอีก

จึงอยากฝากเป็นอุทธาหรณ์ว่าอย่าหลงเชื่อคนง่าย อย่าเห็นแก่ประโยชน์ค่าจ้างเล็กน้อยแล้วต้องเอาชีวิต เอาอนาคตของตัวเองไปเสี่ยง  และที่สำคัญที่สุด อย่าหลอกตัวเอง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น