วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2555

คนไทยถูกจับฉลองปีใหม่ในมาเลเซีย




 ตำรวจมาเลเซียต้อนรับปีใหม่โดยการออกกวาดล้างสถานบันเทิงในกรุงกัวลาลัมเปอร์และจับกุมคนต่างชาติได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งในจำนวนนี้มีคนไทยทั้งชาย-หญิง รวมอยู่ด้วยถึง 33 คน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ต้องส่งกงสุลไทยและเจ้าหน้าที่แรงงานออกไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้พร้อมทั้งขอเข้าเยี่ยมคนไทยที่ถูกจับกุมทั้งหมดด้วย

จากการพูดคุยกับคนไทยที่ถูกจับกุม พบว่า ส่วนที่เป็นหญิงไทย 24 คน อ้างว่าเดินทางเข้าไปเที่ยวในมาเลเซียได้หลายวันแล้วและได้เข้าไปเที่ยวผับเพื่อฉลองปีใหม่ (เคาท์ดาวน์) กับเพื่อนชายชาวมาเลย์และถูกตำรวจเข้าจับกุม ทั้งหมดอ้างว่าไม่ได้ทำผิดอะไรและปฏิเสธที่จะบอกชื่อหรือขอรับความช่วยเหลือจากกงสุล โดยขณะที่กงสุลเข้าไปเยี่ยมที่สถานีตำรวจ สังเกตเห็นว่ามีชาวมาเลย์หลายคนกำลังให้คำแนะนำในการตอบคำถามกับตำรวจด้วย   
ส่วนคนไทยอีก 9 คน (ชาย 7 คน หญิง 2 คน ) ที่เป็นนักร้องนักดนตรีถูกนำตัวไปฝากขังไว้ยังสถานีตำรวจอีกแห่งหนึ่งซึ่งตำรวจได้ตั้งข้อหาในเบื้องต้นคือไม่มีใบอนุญาตทำงาน
ตำรวจมาเลย์เจ้าของคดีได้แจ้งแก่กงสุลว่า คนไทยเหล่านี้เข้ามาทำงานตามผับต่างๆ ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ บ้างเป็นคนเชียร์แขก บ้างเต้นโคโยตี ที่เป็นนักร้องนักดนตรีก็มีด้วยเช่นกัน ทั้งหมดถูกจับกุมในผับ 2 แห่ง และถูกตั้งข้อหาทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต เข้าเที่ยวสถานบันเทิงกับชายอื่นที่ไม่ใช่สามี และหากตรวจปัสสาวะแล้วพบสารเสพติดจะตั้งข้อหาเพิ่มอีก

ในเรื่องการเดินทางไปทำงานในมาเลเซียนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลัวเปอร์ และสำนักงานแรงงานไทยในมาเลเซีย ได้มีการแจ้งข้อมูลและเตือนมาเป็นระยะให้คนไทยโดยเฉพาะผู้หญิง ให้ระมัดระวังตรวจสอบข้อมูลให้ดีเสียก่อน และหญิงไทยห้ามเข้าไปเที่ยวในสถานบันเทิงกับชายอื่นที่ไม่มีหลักฐานว่าเป็นสามีจริง เพราะนอกจากจะถูกจับกุมและตั้งข้อหาทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตแล้ว อาจโดนข้อหาค้าประเวณีด้วย
ประเทศมาเลเซียเป็นประเทศมุสลิมแต่ก็มีคนหลากเชื้อชาติหลายศาสนาและความเชื่อจึงมีคนมาเลย์ที่ไม่ใช่มุสลิมอยู่จำนวนไม่น้อยซึ่งคนเหล่านี้ต้องการความบันเทิงเริงรมณ์ การทำธุรกิจบันเทิงถือเป็นธุรกิจที่ทำรายได้ดีจึงมีการบริการด้านแหล่งบันเทิงและสถานเริงรมณ์เปิดบริการจำนวนมากโดยเจ้าของกิจการจะจัดส่งเอเยนต์ไปชักชวนคนต่างชาติโดยเฉพาะคนไทยไปทำงานหลากหลายวิธีและยอมจ่ายใต้โต๊ะให้แก่เจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่น

จึงขอย้ำเตือนกันมาอีกครั้งให้แก่ผู้ที่ประสงค์จะไปเที่ยวหรือทำงานในประเทศมาเลเซียโดยคาดหวังจะให้นายจ้างจัดหาใบอนุญาตให้ภายหลังนั้น ถือเป็นการหลอกลวง เสี่ยงภัยและอาจถูกจับกุมดำเนินคดีซึ่งทางสถานเอกอัครราชทูตฯ เองก็ไม่สามารถช่วยเหลือผู้กระทำผิดได้มากนัก

ที่มา : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์
           สำนักงานแรงงานไทยประจำประเทศมาเลเซีย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น