วันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2553

กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการของไทยจับมือร่วมกันพัฒนาศักยภาพให้แก่นักเรียน และนักศึกษาไทย

ท่านทูตพิทักษ์ พรหมบุบผาประธานในพิธีลงนามถ่ายภาพเป็นที่ระลึกร่วมกับผู้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ
พิธีลงนามเริ่มด้วยการกล่าวสุนทรพจน์แจ้งเจตนารมณ์ของการลงนามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้
ผู้แทนหน่วยงานไทยและผู้ประกอบการบรูไน ดารุสซาลาม รวม 6 ราย
ผู้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ



กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการของไทยจับมือร่วมกันพัฒนาศักยภาพให้แก่นักเรียน และนักศึกษาไทย

เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2553 นายพิทักษ์ พรหมบุบผา เอกอัครราชทูต ณ บันดาร์เสรีเบกาวันได้เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาของไทย (วิทยาลัยการอาชีพพล และวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีขอนแก่น) กับผู้ประกอบการ 6 รายในบรูไน ดารุสซาลาม เพื่อรับนักเรียนระดับอาชีวศึกษา และนักศึกษาจากประเทศไทยได้มีโอกาสเดินทางไปฝึกทักษะการทำงานกับผู้ประกอบการในประเทศบรูไน ในสาขาต่างๆ ได้แก่ ช่างเครื่องยนต์ การเกษตร การเงิน และคอมพิวเตอร์กราฟฟิค โดยมี อท.แวซง ดาเล็ง เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ และสำนักงานแรงงานไทยในบรูไน ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมในงานเป็นจำนวนมากทั้งชาวบรูไนและชาวไทย อาทิ ผู้อำนวยการองค์กรอาชีวศึกษาอาเซียน SEAMEO VOCTECH คณบดีคณะภาษาศาสตร์มหาวิทยาลัยแห่งชาติบรูไน นายกสมาคมชาวไทยในบรูไน กรรมการบริหารสมาคมฯ ผู้ประกอบการไทย เป็นต้น

การลงนามในบันทึกความเข้าใจอันเป็นดำริของสำนักงานแรงงานในประเทศบรูไนร่วมกับการสานต่อของสถานเอกอัครราชทูต ณ บันดาร์เสรีเบกาวันในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นอันสำคัญยิ่งในการขยายความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาของไทยกับผู้ประกอบการในประเทศบรูไนให้เพิ่มขึ้นในอนาคต และเพื่อช่วยส่งเสริมโอกาสให้ลูกหลาน นักเรียน/นักศึกษาไทยสามารถเดินทางไปฝึกทักษะการทำงานเพื่อพัฒนาฝีมือและความสามารถจากประสบการณ์การทำงานจริง โดยได้รับค่าจ้างจริง ซึ่งหากมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ก็อาจได้รับการว่าจ้างให้ปฏิบัติงานประจำต่อไปได้ และยังสามารถพัฒนาไปจนถึงระดับการเป็นเจ้าของกิจการของตนเองได้ในอนาคตด้วย ซึ้งเป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินความเป็นจริง เพราะมีตัวอย่างผู้ประกอบการในบรูไนที่ประสบความสำเร็จมาแล้วมากมายจากจุดตั้งต้นเล็กๆ เท่านั้น

ความร่วมมือในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยสร้างสรรค์แนวทางที่เป็นรูปธรรมในการพัฒนากำลังคน กำลังแรงงาน และพัฒนาการศึกษาในประเทศไทยแล้ว ยังจะสามารถขยายตัวพัฒนาไปยังประเทศอื่นๆ ในกลุ่มอาเซียนต่อไปได้ด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น