วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

นักโทษไทยในมาเลเซีย เครียดจัด จะฆ่าตัวตาย กงสุลรุดเยี่ยม

ท่านสมพงษ์ กางทอง อัครราชทูตที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย รายงานเข้ามาว่า เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่ผ่าน ได้เดินทางไปยังเรือนจำหญิงในรัฐสลังงอร์เพื่อเยี่ยมนักโทษหญิงในคดีอุกฉกรรจ์ต่างๆ ที่ถูกจำคุกอยู่จำนวน 35 คน

ท่านสมพงษ์ฯ ทราบมาว่า มีนักโทษรายหนึ่งพยายามฆ่าตัวตายจึงได้ขออนุญาตผู้คุมเพื่อเข้าพบกับนักโทษรายดังกล่าวที่ถูกกักบริเวณและควบคุมดูแลเป็นพิเศษซึ่งปกติจะไม่อนุญาตให้ใครเข้าเยี่ยม
นักโทษหญิงไทยรายนี้ บอกแก่ท่านสมพงษ์ฯ ว่า เป็นนักโทษในคดียาเสพติด ถูกศาลชั้นต้นของมาเลเซียตัดสินประหารชีวิต ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างอุทธรณ์ เกิดความเครียดจัดเนื่องจากถูกตัดสินประหารชีวิตแล้วยังไม่ทราบว่าในที่สุดหลังจากอุทธรณ์คดีแล้วผลจะออกมาเป็นอย่างไร ไม่ทราบว่าจะได้ลดหย่อนโทษหรือไม่ และยังไปรับทราบข่าวลือว่าไม่สามารถโอนตัวนักโทษเพื่อกลับมารับโทษที่ประเทศไทยได้ จึงเกิดความเครียดจนพยายามจะแขวนคอตายแต่ผู้คุมมาพบเห็นจึงช่วยเหลือไว้ได้ทัน
ท่านสมพงษ์ฯ จึงต้องปลอบโยนให้กำลังใจและชี้แจงว่าตราบใดที่การพิจารณาคดียังไม่สิ้นสุดก็ยังคงมีความหวังว่าอาจจะได้รับการลดหย่อนโทษลงมาบ้าง ส่วนกระบวนการโอนตัวนักโทษยังเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการดำเนินการอีกนาน จึงขอให้อดทน และขอให้นักโทษทุกคนช่วยเป็นกำลังใจซึ่งกันและกันด้วย

ปัจจุบัน มีนักโทษไทยในมาเลเซียที่ถูกศาลชั้นต้นตัดสินประหารชีวิตแล้ว รวม 28 คน คดีอยู่ระหว่างพิจารณาในศาลอุทธรณ์  ส่วนใหญ่เป็นคดียาเสพติด ( 19 คน ) ที่เหลือเป็นคดีเกี่ยวกับคดีความมั่นคง อาวุธปืน และปล้นฆ่า มีนักโทษไทยที่คดีสิ้นสุดในชั้นศาลฎีกาตัดสินให้ประหารชีวิต รวม 6 คน ซึ่งได้มีการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษต่อสุลต่านรัฐเคดะห์และกลันตันแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของรัฐทั้งสอง

ปัญหาหญิงไทยถูกชายชาวแอฟริกันหลอกลวงชักชวนไปขนยาเสพติดจากประเทศกลุ่มลาตินอเมริกายังคงมีอย่างต่อเนื่อง โดยมีหญิงไทยเป็นนายหน้าชักชวน เป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขและป้องกันโดยรีบด่วน รวมทั้งปัญหาการไปทำงานโดยผิดกฎหมายในประเทศมาเลเซียด้วย นอกจากนี้ ยังพบว่ามีเด็กที่อายุยังไม่บรรลุนิติภาวะตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์นำเข้าประเทศมาเลเซียเป็นระยะ ปัญหาเหล่านี้ควรได้รับการแก้ไขทั้งต้นทางและปลายทางอย่างจริงจัง

ที่มา : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น