วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556

หญิงไทยไปนวดผิดกฏหมาย ... ถึงคราวเกาหลีใต้ “จับ” จริง


ข่าวด่วนจากกรุงโซล... วันพฤหัสบดีที่  ๒๓  พฤษภาคม  ๒๕๕๖   สำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้แถลงข่าวการจับกุมนายปาร์ก มู บอง  อายุ ๕๒ ปี  เจ้าของกิจการร้านนวดแผนไทย  (Thai  Massage ) หลายแห่งในจังหวัดคยองกี  ในข้อหามีพฤติกรรมล่อลวงสตรีไปค้าประเวณี  กักขังหน่วงเหนี่ยว  ล่วงละเมิดทางเพศและยึดทรัพย์สินของผู้อื่น
                 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติการบุกเข้าตรวจค้นสถานให้บริการหลายแห่งในเขตเมืองซีฮึง  เมือง
อันซาน  เมืองซูวอน และเมืองอึยวัง   ผลการปฏิบัติสามารถช่วยเหลือสตรีต่างชาติได้จำนวน  ๑๔  ราย
ทั้งหมดเป็นสตรีไทย
                        ผู้อ่านหลายคนคงคาดไม่ถึงว่าประเทศ “เกาหลีใต้”ที่คนไทยเรารู้จักกันอย่างดี  ประเทศที่เรารู้จักกันอย่างดี ประเทศที่เรามักได้เห็นแง่มุมอันสวยงามจากการถ่ายทอดของภาพยนตร์หรือซีรีย์เรื่องต่างๆ เป็นตัวเลือกอันดับแรกๆ ในการเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางและหมดเงินไปกับค่าใช้จ่ายมากนัก จะมีการหลอกลวงเช่นนี้เกิดขึ้น
สำหรับกรณีนี้ ต้องขอบอกว่าคนบางกลุ่มพวกเขารู้อยู่แก่ใจดีว่า  สถานบริการนวดแผนไทยที่ประเทศเกาหลีใต้นั้นกำลังเป็นที่นิยมแพร่หลายเพียงใด กิจการนี้ทั้งสร้างงานและสร้างโอกาสขุดทองให้แก่หญิงไทยจำนวนหนึ่งที่พร้อมจะเดินทางไปเสี่ยงโชค  พวกเธอรู้ดีว่า แค่ไปทำหนังสือเดินทางไทยหนึ่งเล่ม  ซื้อตั๋วเครื่องบินไป-กลับกรุงโซล  แค่นี้ก็สามารถเดินทางเข้าไปอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ได้นานถึง  ๙๐  วัน 
นี่คือโอกาสทองของหญิงไทยที่ถนัดงานประเภทนี้   ถึงแม้ว่าจะเข้าข่ายเป็นการลักลอบทำงานอย่างผิดกฏหมาย และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีใต้จะปราบปรามอย่างจริงจังก็ตาม
หลายคนเคยได้ยินข่าวเตือนภัยจากหลายหน่วยงานราชการจากในสื่อต่างๆ รวมทั้งใน “คู่สร้างคู่สม” ที่ขอให้ระวังการถูกหลอกลวงจากนายหน้าที่ชักชวนให้เดินทางไปทำงานนวดแผนไทย  นวดสปา  นวดมือนวดเท้า  หรืองานบริการตามสถานบันเทิงในต่างประเทศ   เพราะธุรกิจประเภทนี้มีความสุ่มเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์  อาจถูกกักขังจนสิ้นอิสรภาพ  กระทั่งเลยเถิดไปจนถูกกระทำทารุณกรรมสารพัดรูปแบบก็เป็นได้  แต่กระนั้นพวกเธอก็พร้อมที่จะเสี่ยง..  ด้วยเหตุผลเพราะว่า
รายได้สูง...  งานสบาย ...และไม่มีใครรู้
นายหน้าที่เมืองไทยชอบโฆษณาชวนเชื่ออย่างหรูหราให้พวกเธอฟังว่า  ทำงานนวดที่เกาหลีใต้มีรายได้เป็นเงินเดือนถึง 1,000,000 วอน  (แลกที่เมืองไทยได้เกือบ  ๒๕,๐๐๐  บาท)  และจะได้ค่าทิปอีกครั้งละ  ๔,๐๐๐ – ๖,๐๐๐  วอน  ยิ่งหากเต็มใจให้บริการทางเพศด้วยแล้ว  ก็จะได้เงินเพิ่มพิเศษอีกครั้งละ  ๑๐,๐๐๐ – ๓๐,๐๐๐  วอน  คำนวณเบ็ดเสร็จเมื่อทำงานครบ ๓ เดือนจะมีรายได้ตกกว่าแสนบาททีเดียว
แต่สิ่งที่พวกเธอไม่เคยรู้ก็คือว่า  นายหน้าที่พาผู้หญิงไปส่งให้นายจ้างที่เกาหลีใต้นั้น  พวกนี้จะได้เงิน
แบบสบายๆ ถึง  ๗๕,๐๐๐ บาท  ต่อการจัดหาผู้หญิงแค่ ๑ คน... ซึ่งนี่แหละที่ไม่ต่างจากการค้ามนุษย์ที่สังคมของผู้เจริญเขารังเกียจเดียจฉันท์กันนัก  ไม่ว่าหญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อรายนั้นจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม
                เมื่อไม่นานมานี้  มีกรณีที่สถานทูตไทย  ณ  กรุงโซล  ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีใต้ เพื่อบุกเข้าช่วยเด็กสาวอายุ  ๑๗  ปี ซึ่งถูกญาติคนไทยพาไปทำงานนวดประเภทที่มีบริการแอบแฝง   การช่วยเหลือครั้งนั้นกระทำอย่างรวดเร็ว  จนกระทั่งสามารถส่งตัวเด็กคนนี้เดินทางกลับประเทศไทยได้อย่าง
ปลอดภัย  แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ทุกฝ่ายรู้สึกเศร้าใจ   เพราะคาดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นกับเยาวชนที่ยังอยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียน 
                สังคมไทยจึงต้องตระหนักถึงปัญหานี้  ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา  อย่าปล่อยให้มันลุกลามบานปลายไปมากกว่านี้เลย...
                ไม่เช่นนั้น เราอาจจะช่วยพวกเขาไม่ทัน

                                                                                     ...........................................
   
นิตยสารคู่สร้างคู่สม ปีที่ 34 ฉบับวันที่ 801 วันศุกร์ที่ 14 มิ.ย. 2556
คอลัมน์คนไทย กับภัยรอบโลก หน้า 94 – 95


*****************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น