วันพุธที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2553

การช่วยเหลือคนไทยที่ติดค้างในยุโรปกรณีประเทศต่างๆปิดน่านฟ้า

การช่วยเหลือคนไทยที่ติดค้างในยุโรปกรณีประเทศต่างๆปิดน่านฟ้า

การระเบิดของภูเขาไฟ Eyjafjallajokull ในประเทศไอซ์แลนด์เมื่อวันที่ เมษายน 2553 ส่งผลให้เถ้าถ่านภูเขาไฟที่พ่นออกมาถูกกระแสลมพัดกระจายครอบคลุมน่านฟ้าทั่วทวีปยุโรป ประเทศต่างๆจึงประกาศปิดน่านฟ้ายุโรปเป็นเวลานานถึง 7 วันสายการบินต่างๆทั่วโลกจึงต้องยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมาก ผู้โดยสารที่มีกำหนดเดินทางออกหรือเข้ายุโรปในช่วงเวลาดังกล่าวจึงติดค้างอยู่ในประเทศต่างๆทั่วโลกโดยไม่มีกำหนดว่าจะสามารถเดินทางได้เมื่อใด สร้างความโกลาหลไปทั่วทุกมุมโลก

เหตุการณ์ดังกล่าวได้ก่อผลกระทบต่อคนไทยจำนวนหนึ่งที่เดินทางไปท่องเที่ยวประเทศต่างๆ ในแถบยุโรป ทำให้คนไทยตกค้างอยู่ในประเทศต่างๆ ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ตามกำหนดเวลาเดิม กระทรวงการต่างประเทศจึงได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลของไทยที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ช่วยอำนวยความสะดวกแก่คนไทยที่ตกค้างอยู่ในประเทศต่างๆทั่วโลก ซึ่งความช่วยเหลือที่สถานทูตและสถานกงสุลใหญ่ดำเนินการเป็นไปในรูปแบบต่างๆ เช่น การจัดหาที่พักชั่วคราว การแจกจ่ายอาหารสำหรับผู้ตกค้าง ให้ยืมเงินช่วยเหลือสำหรับผู้ที่ตกทุกข์จากเหตุการณ์ดังกล่าว อำนวยความสะดวกในการจองตั๋วเครื่องบิน หรือแม้กระทั่งการขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในออกตรวจลงตราให้กับคนไทยที่ติดค้างเป็นกรณีพิเศษ เป็นต้น

ในการให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มคนไทยที่ติดค้างอยู่ตามประเทศต่างๆนั้น โดยที่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุฉุกเฉินไม่คาดคิดล่วงหน้ามาก่อน ดังนั้นสถานทูตและสถานกงสุลไทยจึงพยายามดำเนินการตามที่ทรัพยากรของสำนักงานจะอำนวย โดยสถานทูตและสถานกงสุลใหญ่ทุกแห่งทุ่มกำลังเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่จัดตั้งเป็นศูนย์เฉพาะกิจรับโทรศัพท์ร้องขอความช่วยเหลือของคนไทยซึ่งส่วนมากเป็นนักท่อเที่ยวที่เดินทางไปพักผ่อนในช่วงหยุดยาวระหว่างสงกรานต์ โดยคนกลุ่มนี้เป็นคนกลุ่มใหญ่ แม้ว่าจะมีหัวหน้าทัวร์ให้การดูแล แต่ในสถานการณ์ที่นักท่องเที่ยวจากทุกแห่งทั่วโลกที่เดินทางเข้าไปท่องเที่ยวในยุโรปประสบปัญหาไม่สามารถเดินทางออกจากประเทศได้ตามกำหนดการพร้อมกัน ย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปรับแผนและอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกทัวร์ได้ ในในจุดนี้เองที่สถานทูต/สถานกงสุลใหญ่สามารถเข้ามาให้ความช่วยเหลือ โดยให้ข้อสนเทศและคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ในยามฉุกเฉิน

สถานทูตหลายแห่งในยุโรป อาทิ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลีได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปประจำที่สนามบินเพื่อคอยสอบถามกลุ่มคนไทยที่ติดค้างอยู่ที่สนามบินว่ามีปัญหาอะไร ต้องการความช่วยเหลืออะไร และสถานทูตจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง สถานทูตไทยที่อิตาลีได้นำอาหารติดไปด้วยเมื่อเจ้าหน้าที่จะไปสนามบิน และอาหารที่นำติดตัวไปเป็นประโยชน์ช่วยให้คนไทยที่ติดค้างอยู่ที่สนามบินได้รู้สึกผ่อนคลาย และมีความรู้สึกอบอุ่นใจที่มีหน่วยงานของรัฐไปติดตามดูแล

การให้ความช่วยเหลือลักษณะดังกล่าวของสถานทูตเป็นการนำความช่วยเหลือไปมอบให้แก่คนไทยที่เดือดร้อน ซึ่งเป็นการทำงานเชิงรุก ไม่รอให้ผู้เดือดร้อนต้องเดินทางไปขอรับความช่วยเหลือที่สำนักงาน เพราะในห้วงเวลาดังกล่าว เป็นการลำบากสำหรับคนไทยที่เดินทางเป็นคณะจะสามารถเดินทางไปที่ต่างๆได้โดยสะดวก

นอกจากนั้นในการช่วยเหลือคนไทยที่ติดค้างในยุโรปครั้งนี้มีบางสถานทูตที่สามารถประสานนำชุมชนไทยเข้ามาช่วยเหลือคนไทยที่ได้รับความเดือดร้อน อาทิ สถานเอกอัครราชทูตไทยในประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งภายหลังเกิดปัญหาการปิดน่านฟ้าในวันที่ 17 เมษายน 2553 สถานทูตได้ส่งเจ้าหน้าที่กงสุลเข้าไปประสานกับวัดพุทธาราม (เมืองวาลแวกซ์) วัดพุทธวิหาร (เมืองลานสเมียร์) และมูลนิธิไทย กรุงอัมสเตอร์ดัม และตกลงร่วมกันจัดตั้งศูนย์ประสานงานให้ความช่วยเหลือชั่วคราว ณ วัดพุทธวิหาร โดยศูนย์ดังกล่าวเป็นจุดรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากการปิดท่าอากาศยาน Schiphol และเป็นจุดที่พักให้แก่ผู้ที่ไม่มีที่พักในย่านกรุงอัมสเตอร์ดัมและเมืองใกล้เคียง โดยมีกรรมการวัดฯและกรรมการมูลนิธิไทยคอยแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเจ้าหน้าที่กงสุล และประสานขอความร่วมมือจากคนไทยในกรุงอัมสเตอร์ดัมที่พร้อมจะให้ที่พักพิงชั่วคราวแก่คนไทยที่ยังไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้

ศูนย์ประสานงานดังกล่าวนี้เป็นตัวอย่างของความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับชุมชนไทยในท้องถิ่น เพื่อนำศักยภาพและความมีน้ำใจแบบไทยๆเข้ามารองรับปัญหาฉุกเฉินที่ไม่คาดคิดมาก่อน ซึ่งวิธีการดังกล่าวจะทำให้สามารถให้ความช่วยเหลือคนไทยผู้เดือดร้อนอย่างทั่วถึง และผลจากการที่ดำเนินงานในลักษณะของเครือข่ายดังกล่าวคนไทยที่เข้าไปรับบริการของศูนย์ดังกล่าวต่างรู้สึกขอบคุณน้ำใจของคนไทยและขอบคุณท่านทูตที่ให้ความช่วยเหลืออย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม

การที่ชุมชนไทยในเนเธอร์แลนด์สามารถดำเนินการช่วยเหลือโดยช่วยกันดูแลว่ามีคนไทยตกค้างอยู่เท่าไหร่ เมืองใดบ้าง และต้องการความช่วยเหลืออย่างไร ทั้งยังอำนวยความสะดวกให้กับคนไทยผู้ตกค้างให้ได้มีที่พักอาศัยชั่วคราว จัดหาอาหารไปเลี้ยงคณะคนไทย ถือเป็นการให้ความช่วยเหลือที่เปี่ยมด้วยน้ำใจของชุมชนไทยในเนเธอร์แลนด์ และการทำงานเชิงรุกไม่รอให้คนไทยเข้ามาขอความช่วยเหลือเพียงอย่างเดียวช่วยให้คนไทยที่ติดค้างได้รับความช่วยเหลือตามที่ต้องการ การจัดตั้งศูนย์ประสานงานดังกล่าวจึงเป็นการช่วยเหลือที่เข้าถึงผู้ได้รับความเดือดร้อน

การสร้างเครือข่ายความร่วมมือของชุมชนไทยในเนเธอร์แลนด์ดังกล่าวไทยทำให้เชื่อได้ว่าในอนาคตไม่ว่าคนไทยจะประสบปัญหาลักษณะเดียวกันนี้ก็จะได้รับความช่วยเหลืออย่างมีประสิทธิภาพ

ที่สำคัญคือคนไทยในเนเธอร์แลนด์ที่พยายามช่วยเหลือคณะคนไทยที่ติดค้างอยู่ที่สนามบินประเทศเนเธอร์แลนด์ทำงานดังกล่าวในขณะที่ตนเองก็อาจจะวิตกอยู่ด้วยเช่นกันว่าภาวะเถ้าภูเขาไฟกระจายครอบคลุมทวีปยุโรปจะบรรเทาเบาบางลงเมื่อใด และจะส่งผลกระทบอะไรตามมาบ้าง แต่ความวิตกดังกล่าวไม่ได้กีดกั้นธารน้ำใจของผู้คน นับว่าเป็นจิตใจอาสาสมัครที่น่านับถือยิ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น