วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

หนุ่มไทยถูกศาลมะกันจำคุก 78 เดือน ข้อหาหิ้วหนังโป๊เด็กเข้าประเทศ

สื่อมวลชนไทยในอเมริกา ลงข่าวการตัดสินลงโทษจำคุกหนุ่มไทยวัย 52 ปี ข้อหามีไว้ในครอบครองและนำเข้าวัตถุลามกผู้เยาว์ (Child Pornography) เป็นเวลา 78 เดือน และคุมความประพฤติตลอดชีวิต
โดยหนุ่มไทยรายดังกล่าวได้เดินทางจากประเทศไทยมายังสนามบินแม็คคาร์เรนของลาสเวกัส โดยสายการบินเกาหลีเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2554 เพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองเซ็นต์จอร์จ รัฐยูทาห์ ซึ่งเขาและญาติมีร้านอาหารอยู่ที่นั่น แต่ถูกเจ้าหน้ที่จับกุมหลังตรวจพบว่าแผ่นซีดีที่หนุ่มไทยรายนี้ซื้อมาจากเมืองไทยจำนวน 36 แผ่น มีบางส่วนเข้าข่ายสื่อลามกเกี่ยวกับเด็ก
หนุ่มไทยคนดังกล่าวยอมรับสารภาพต่อศาลแต่โดยดีและให้คำสาบานว่าจะไม่กระทำเยี่ยงนี้อีกและขอให้ศาลส่งตัวกลับประเทศไทยแทนการจำคุก โดยจะบวชเป็นพระตลอดชีวิต แต่ผู้พิพากษาปฏิเสธคำร้องดังกล่าวและตัดสินจำคุกหนุ่มไทย 78 เดือน 
โทษที่ได้รับ คือจำคุก 78 เดือนนี้ นับว่าศาลปราณีลงโทษสถานเบาแล้ว เนื่องจากปกติ อเมริกาจะเข้มงวดจริงจังกับคดีทางเพศของเด็ก มีโทษจำคุกสูงสุดถึง 20 ปี และกรณีของหนุ่มไทยคนนี้อัยการที่ฟ้องได้ร้องขอให้ศาลลงโทษจำคุก 12 ปี จึงนับว่าเป็นโชคดีของหนุ่มไทยที่โดนไปเพียง 78 เดือน

  กรณีที่คนไทยถูกจับกุมตัวระหว่างเดินทางเข้าประเทศอเมริกา เพราะมีแผ่นดีวีดี หรือวีซีดีลามกเกี่ยวกับเด็กนั้น ไม่ถือเป็นเรื่องใหม่ เพราะที่ผ่านมาเคยมีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง
          กงสุลบรรณา วังวิวัฒน์ กงสุลด้านกฎหมายแห่งสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส เคยกล่าวกับสยามทาวน์ฯ เมื่อเดือนธันวาคม 2011 ว่าในช่วงที่ผ่านมา มีคนไทยถูกจับข้อหามีวัตถุลามกเกี่ยวกับเด็กในอเมริกาอย่างน้อย 5-6 คน ทั้งที่แคลิฟอร์เนีย ฟลอริดา และที่อื่นๆ
          “ก็ควรเตือนๆ กันว่าก่อนที่คุณจะเข้ามา ถ้ามีก็ควรจะล้างเครื่องคอมพิวเตอร์ทิ้งซะก่อน จริงๆ แล้วกรมสารนิเทศก็เตือนนะ ถ้าจะว่าไป แต่คนไม่ดู มันต้องลงเป็นใบปะก่อนเข้ามาอเมริกามาเลย โทษของคดี Child pornography มันแรงมาก คนไทยควรรู้ เพราะเมืองไทย ถ้ามีอยู่ในเครื่องมันไม่ผิดนะ จะผิดก็ต่อเมื่อจำหน่ายจ่ายแจกเท่านั้น มันต่างกัน” กงสุลบรรณา วังวิวัฒน์ กล่าว
          ทั้งนี้ เหตุการณ์แบบนี้ถือเป็นเรื่องน่าห่วง เพราะสื่อลามกประเภทนี้ บางจังหวะมีวางขายอย่างเปิดเผยตามแผงข้างถนน หรือในห้างสรรพสินค้าของไทย คนไทยในอเมริกาบางคนอาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงซื้อติดมือกลับมา และกลายเป็นผู้ต้องหาในคดีอุกฉกรรจ์ของอเมริกา ซึ่งเอาจริงกับการป้องกันและปราบปรามการกระทำทารุณกรรมทางเพศกับเด็ก ทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีการเอาผิดทั้งผู้ผลิต จำหน่าย เผยแพร่ และมีไว้ในครอบครองอย่างรุนแรง อีกทั้งมีกฎหมายว่าด้วยการเอาผิดชาวอเมริกันที่เดินทางไปกระทำผิดทางเพศกับเด็กในต่างประเทศ ซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงของหน่วยงานอิมมิเกรชั่น หรือ ICE (Immigration and Customs Enforcement) และกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ มีการสร้างปฏิบัติการพิเศษที่เรียกว่า Operation Predator ขึ้นมาเมื่อปี 2003 เพื่อการนี้โดยเฉพาะ โดยทำงานร่วมกับหน่วยงานรักษากฎหมายทุกระดับของประเทศ รวมถึงนานาชาติด้วย.

ที่มา : สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส
        :น.ส.พ.สยามทาวน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น