วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2556

หลงเชื่อคนแปลกหน้า .. จึงติดคุกที่บราซิล


       สมศรี (นามสมมติ) มีอายุอานามเข้าสู่วัยกลางคนแล้ว ผ่านการทำงานมาไม่น้อย แม้ชีวิตลุ่มๆ ดอนๆ แต่เธอก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะถูกหลอกให้ไปขนยาเสพติดได้ไกลถึงประเทศบราซิล วิบากกรรมครั้งนั้นเธอเล่าให้ฟังว่า เมื่อหลายปีก่อนขณะที่กำลังตกงาน เดินเรื่อยเปื่อยอยู่ในกรุงเทพฯ บังเอิญได้พบกับสตรีบุคลิกภูมิฐานสมฐานะเป็นนักธุรกิจ หลังจากนั่งคุยกันสักพักเธอถูกชักชวนให้เป็นเพื่อนร่วมเดินทางไปบราซิล เพื่อรับสินค้านำกลับมาขายในเมืองไทย ผู้หญิงคนนั้นบอกเธอว่า อย่าคิดอะไรมากเลย แค่ไปเป็นเพื่อนเพราะเธอเองก็กลัวที่จะเดินทางตามลำพัง ขากลับแค่ช่วยเธอถือข้าวของมาด้วยเท่านั้น เป็นเรื่องง่ายๆ แล้วแต่จะสมัครใจ พูดจบก็ให้เบอร์โทรศัพท์ไว้
        สมศรีใช้เวลาคิด อยู่สองสามวัน ในที่สุดก็ตอบตกลง แม้ว่าเธอจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้และไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศมาก่อน ผู้หญิงคนนั้นบอกให้เธอรีบไปทำหนังสือเดินทาง แล้วบินไปเจอกันที่ประเทศมาเลเซีย จากนั้นค่อยนั่งเครื่องต่อไปบราซิลด้วยกัน ทุกอย่างราบรื่นตามคำบอกไว้ทั้งหมด เธอมีตั๋วเครื่องบินจากมาเลเซียไปแวะที่ประเทศอาร์เจนตินาก่อน และจากนั้นก็มีตั๋วเดินทางต่อไปบราซิล แม้จะแปลกใจอยู่บ้างว่าทำไมเดินทางแต่ละครั้งจึงมักซื้อตั๋วเพียงขาเดียว และไม่เคยเห็นตั๋วบินกลับประเทศไทยเลย
          จนกระทั่งเมื่อไปจนถึงบราซิล แล้วนั่นแหละที่เธอเริ่มรู้สึกไม่ชอบมาพากล หญิงคนนั้นให้เธอพักรออยู่แต่ที่โรงแรมเป็นเวลานานถึง ๓ สัปดาห์ เปลี่ยนที่พัก ๒-๓ ครั้ง จนเธอเริ่มคิดถึงบ้าน สินค้าที่จะรับก็ไม่เห็นมาส่งสักที จะกลับเมืองไทยวันไหนไม่รู้ เมื่อถามก็บอกแต่ให้รอก่อน จนวันหนึ่งมีชายผิวดำมาพบที่โรงแรมนำของสามสี่อย่างมาให้ เป็นสมุดบันทึกอย่างดี เครื่องคิดเลข เครื่องประดับ กิ๊ฟติดผม ต่างหู กระดุม ฯลฯ ชายคนนั้นย้ำให้เธอเก็บไว้ในกระเป๋าเดินทางอย่างดีแล้วจะซื้อตั๋วเครื่องบิน ให้นำของไปส่งให้เพื่อนซึ่งรอรับอยู่ที่มาเลเซีย
          สมศรีเริ่มรู้สึก กลัวอย่างบอกไม่ถูกเพราะพวกเขาพยายามกล่อมให้เธอเดินทางกลับเพียงคนเดียว แต่เธอไม่ยอม ยังไงก็ต้องไปพร้อมกับเพื่อนคนไทยที่มาด้วยกัน เธอรู้ดีว่าต้องมีบางอย่างผิดปกติแต่เธอไม่มีทางเลือกอื่นเลย เช้าวันรุ่งขึ้นเธอและผู้หญิงไทยคนนั้นออกเดินทางไปสนามบินพร้อมกัน หลังจากเช็คกระเป๋าได้ไม่นานเธอก็ถูกตำรวจจับกุมทันทีด้วยข้อหาลักลอบขน โคเคนหลายกิโลกรัม สมศรีต้องใช้ชีวิตอยู่ในคุกหลายปีกว่าจะพ้นโทษออกมาได้ เธอเข็ดจนตายจากการหลงเชื่อและคบหากับคนแปลกหน้า
เรื่องราวนี้ เป็นเหตุการณ์จริง และเกิดขึ้นอย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า ...คนแปลกหน้า.. คนผิวดำ...พาเที่ยว ...อามิสสินจ้าง.. ฝากของ.... สถานการณ์น่ากลัวกว่าที่คิดไว้มาก เหยื่อเกือบทุกรายตกอยู่ในภาวะต้องตกกระไดพลอยโจน แม้จะรู้ว่าถูกหลอกแต่ทุกอย่างก็สายเกินแก้ไข
............................................... 




กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
กรมการกงสุล
กระทรวงการต่างประเทศ
123 ถ.แจ้งวัฒนะ ทุ่งสองห้อง หลักสี่ กทม 10210
โทร. 0 2575 1047-51
โทรสาร  0 2575 1052

2 ความคิดเห็น:

  1. ประสบการณ์ของคนอื่น มีไว้สอนและเตือน คน เพราะ คนทำผิดพลาดไปได้รับบทเรียนราคาแพง ก็ นำมาแชร์ไว้ สอนและเตือน คนได้อีก จำนวนมาก จ้าๆ อย่าพลาด พลั้ง เพียง อย่า ตกเป็น เหยื่อ โจร

    ตอบลบ