วันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2553

รักษาการกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ เข้าพบหารือประธานคณะกรรมการบริหารองค์การบริหารกิจการฮัจย์กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นายชาลีฯ มอบของที่ระลึกแก่นาย Zuher Sedayu ก่อนอำลากลับ
การหารือเป็นไปในบรรยากาศฉันท์มิตร
นายชาลี สกลวารี รักษาการกงสุลใหญ่ฯ เข้าเยี่ยมคารวะนาย Zuher Sedayu ประธานคณะกรรมการบริหารองค์การกิจการฮัจย์หรือมูอัซซาซะห์

รักษาการกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ เข้าพบหารือประธานคณะกรรมการบริหารองค์การบริหารกิจการฮัจย์กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2553 เวลา 13.00 น. นายชาลี สกลวารี รักษาการกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ พร้อมด้วยนายหาลิม แวนะไล กงสุลฮัจย์ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ ได้เข้าเยี่ยมคารวะนาย Zuher Sedayu ประธานคณะกรรมการบริหารองค์การบริหารกิจการฮัจย์กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือมูอัซซาซะห์ ที่สำนักงานที่เมืองมักกะห์ โดยรักษาการกงสุลใหญ่ ในนามรัฐบาลไทย ได้กล่าวขอบคุณมูอัซซาซะห์ที่ให้ความร่วมมือและความช่วยเหลือแก่ประเทศไทยในด้านกิจการฮัจย์เป็นอย่างดีมาโดยตลอด และหวังว่าจะได้รับความร่วมมือที่ดีเช่นนี้ต่อไป

นายชาลีฯ กล่าวด้วยว่า ทราบดีว่าการบริหารจัดการเรื่องฮัจย์ของไทยยังมีประเด็นปัญหาอีกมากที่ต้องร่วมกันปรับปรุงแก้ไข ซึ่งฝ่ายไทยมิได้นิ่งนอนใจและกำลังพยายามในทุกวิถีทางเพื่อพัฒนาปรับปรุง และยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการเรื่องฮัจย์อย่างต่อเนื่องต่อไป

ประธานมูอัซซาซะห์ ได้กล่าวว่า ในแต่ละปีรัฐบาลซาอุดีฯ ต้องรับผิดชอบดูแลผู้แสวงบุญทั้งที่พำนักอยู่ในซาอุดีฯ และจากนานาประเทศ จำนวนประมาณ 3 ล้านคน จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญกับปัญหาบ้าง แต่อย่างไรก็ดี รัฐบาลซาอุดีฯ ได้พยายามเพิ่มประสิทธิภาพการบริการมาโดยตลอด เพื่อให้ผู้แสวงบุญได้รับความสะดวกสบายมากที่สุดเท่าที่อาคันตุกะของพระผู้เป็นเจ้าพึงจะได้รับ พร้อมกันนั้น ยังได้กล่าวชื่นชมการทำงานของคณะผู้แทนฮัจย์ไทยและสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ ที่ได้ทุ่มเทเพื่อจัดระเบียยการดำเนินการในด้านฮัจย์ ซึ่งได้มีพัฒนาการในหลายๆ ด้านอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ดี ยังคงมีประเด็นปัญหาด้านการบริหารจัดการอยู่บ้างที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันหาหนทางแก้ไขต่อไป

บรรยากาศของการหารือกันในครั้งนี้ เป็นไปอย่างฉันท์มิตร โดยหลังจากนั้น ทั้งสองฝ่ายได้แลกของที่ระลึกให้แก่กัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น