วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ลิเบียปะทะเดือด สถานทูตไทยโดนลูกหลง

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงตริโปลี ประเทศลิเบีย รายงานด่วนเข้ามาว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 55 เวลาประมาณ 11.30 น. ขณะที่สถานทูตกำลังเปิดดำเนินการตามปกติและมีผู้มาติดต่อขอวีซ่าอยู่นั้น ได้มีหน่วยรบติดอาวุธสังกัดกระทรวงมหาดไทยของลิเบีย ประกอบด้วยทหารจากหน่วยรบพิเศษกว่า 30 นาย พร้อมรถกระบะติดตั้งปืนสำหรับต่อสู้อากาศยานประมาณ 10 คัน เข้าล้อมบ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่เยื้องกับอาคารที่ทำการสถานทูตห่างไปเพียงประมาณ 20 เมตร ซึ่งสืบทราบมาว่ามีกลุ่มกองกำลังติดอาวุธใช้เป็นที่ซ่องสุม

หลังจากโอ้โลม ปฏิโลมอยู่ประมาณ 10 นาทีเพื่อให้กลุ่มติดอาวุธยอมมอบตัว แต่ก็ไม่เป็นผล จึงเปิดฉากปะทะกันโดยการยิงใส่กันอย่างดุเดือดด้วยอาวุธสงครามล้วนๆ ทั้งปืนกล ปืนต่อสู้อากาศยาน และระเบิด อาร์พีจี เสียงปืนดังกึกก้องสนั่นหวั่นไหว เจ้าหน้าที่สถานทูตรวมทั้งชาวลิเบียที่มาติดต่องานต้องวิ่งหาที่หลบกระสุนกันจ้าละหวั่น

ยิงใส่กันแบบไม่ยั้งมือและไม่เสียดายกระสุนอยู่ประมาณ 10 นาที เหตุการณ์ก็ค่อยๆ คลี่คลายลง จนเวลาประมาณ 14.00 น. ทุกอย่างสงบลง หน่วยรบของรัฐบาลสามารถเข้ายึดบ้านพักดังกล่าวได้สำเร็จ พบว่าฝ่ายกองกำลังติดอาวุธเสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 3 คน และถูกจับกุม 6 คน ซึ่งเป็นวัยรุ่น

หลังจากทุกอย่างสงบลง ข้าราชการและเจ้าหน้าที่รวมทั้งชาวลิเบียที่มาติดต่อสถานทูตก็ออกจากที่หลบซ่อน ปรากฏว่าทุกคนปลอดภัยดี รอดจากวิถีกระสุนมาได้ทุกคน แต่ก็ต้องขวัญหนีดีฝ่อกันถ้วนหน้า

พอคลายอาการอกสั่นขวัญแขวนกันไปบ้างแล้วก็จึงได้เริ่มสำรวจความเสียหายของตัวอาคารที่ทำการสถานทูต พบว่า ได้รับความเสียหายพอสมควร ถูกกระสุนลูกหลงที่กำแพงรั้วและตัวอาคาร รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 20 นัด และที่น่าตกใจที่สุดคือกระสุน 2 นัด เจาะทะลุหน้าต่างเข้าไปที่ห้องทำงานของเจ้าหน้าที่และยังกระดอนไปถึงห้องน้ำด้วย เดชะบุญที่ไม่มีใครหลบอยู่ตรงจุดนั้น ไม่งั้นคงต้องเจ็บและอาจถึงตายได้เนื่องจากอาวุธที่ใช้มีอานุภาพทะลุทะลวงสูงมาก มาทราบภายหลังว่าที่อาคารสถานทูตโดนลูกหลงไปกว่า 20 นัด ก็เพราะฝ่ายรบพิเศษฝ่ายรัฐบาลใช้อาคารสถานทูตบางส่วนเป็นที่กำบังตัวจึงถูกพวกกลุ่มติดอาวุธยิงสวนมาโดนตัวอาคารดังกล่าว

อาคารสถานทูตโดนกระสุนลูกหลงไปขนาดนี้แต่ยังนับว่าโชคดี เพราะบ้านพักของชาวลิเบียที่อยู่ตรงข้ามกับสถานทูตได้รับความเสียหายอย่างหนักจากลูกระเบิดอาร์พีจีที่ตกใส่บ้านทำให้ตัวอาคารและรถยนต์ได้รับความเสียหาย อาร์พีจี เป็นระเบิดที่มีอำนาจทำลายล้างสูงถ้าเกิดหลงมาตกที่สถานทูตมีหวังต้องมีคนบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแน่นอน

หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวสงบลงแล้ว ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษได้เข้ามาพบกับท่านทูตเพื่อขอโทษขอโพยต่อการปราบปรามที่รุนแรงซึ่งถือเป็นเหตุสุดวิสัยเนื่องจากกองกำลังดังกล่าวมาซุ่มซ่อนตัวอยู่ใกล้สถานทูตไทยจึงต้องถูกลูกหลงไปบ้าง หลังจากเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงทางการเมืองในลิเบียเพื่อขับไล่พันเอกโมอัมมา กัดดาฟี แล้ว ลิเบียก็มีกลุ่มติดอาวุธที่ไม่ยอมวางอาวุธและเข้าร่วมกับฝ่ายรัฐบาลกระจายตัวอยู่ทั่วไปซึ่งรัฐบาลกำลังเอาจริงเอาจังกับการปราบปรามกลุ่มติดอาวุธเหล่านี้

การปราบปรามกลุ่มติดอาวุธในลิเบียนี้ เรียกได้ว่าเกิดขึ้นแทบทุกวัน จึงไม่มีอะไรจะรับประกันความปลอดภัยของผู้คนในประเทศนี้ได้ ยุทธวิธีที่ใช้ในการปราบปรามนั้นรุนแรง ไม่เป็นไปตามหลักสากล ไม่มีการบอกเตือนล่วงหน้า ไม่เน้นการเจรจา แต่จะใช้วิธียิงถล่มกันโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน คราวนี้นับว่าเจ้าหน้าที่สถานทูตยังโชคดี แต่ไม่มีใครบอกได้ว่าจะต้องประสบกับเหตุการณ์เขย่าขวัญแบบนี้อีกเมื่อใด และจะเคราะห์ร้ายบาดเจ็บล้มตายหรือไม่ แต่จะอย่างไร เจ้าหน้าที่ก็ยังต้องปฏิบัติงานในประเทศลิเบียต่อไปเพื่อผลประโยชน์ของประเทศไทยเองเนื่องจากแม้ว่าลิเบียจะยังไม่สงบแต่ก็เป็นประเทศที่มีทรัพยากรโดยเฉพาะน้ำมันปริมาณมหาศาลและยังมีความต้องการทั้งสินค้าและการลงทุนด้านการบูรณะและพัฒนาประเทศอีกมาก จึงเป็นโอกาสที่ดีของไทยที่จะเข้าไปร่วมมือในการพัฒนาลิเบียในทุกด้าน

ที่ผ่านมา ไทยได้ประโยชน์จากการส่งแรงงานเข้าไปทำงานในลิเบียอย่างมาก บางช่วงเวลามีคนงานไทยทำงานอยู่นับหมื่นๆ คน และโดยที่ลิเบียเป็นประเทศที่มีแต่น้ำมันแต่แทบจะไม่ผลิตอะไรเองเลย จึงเป็นโอกาสที่ดียิ่งของภาคธุรกิจไทยในการที่จะนำเสนอสินค้าส่งออกไปยังลิเบีย ในส่วนของการพัฒนาและบูรณะประเทศนั้น ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็นอย่างมากสำหรับลิเบีย ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ถนนหนทาง อาคารบ้านเรือน ล้วนแต่เป็นโอกาสของไทยที่สามารถจะเข้าไปลงทุนหรือร่วมพัฒนาได้อีกมาก แต่หนทางก็คงไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ปัญหาเรื่องความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังอย่างมากถ้าคิดจะไปลิเบีย เพราะแม้ว่าคนไทยจะไม่ใช่เป้าหมาย แต่โอกาสที่จะเคราะห์ร้ายถูกลูกหลงก็มีอยู่สูงมากด้วยเช่นกัน

หน่วยรบติดอาวุธของรัฐบาลลิเบีย ยกกำลังปิดล้อมบ้านที่มีกลุ่มติดอาวุธซ่องสุมกันอยู่

หน่วยรบฯ กำลังบุกเข้าไปภายในบ้าน ฝ่ายกลุ่มติดอาวุธจึงยิงสวนออกมา จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็เปิดฉากดวลกันสนั่นซอย
หลังจากเสียงปืนสงบลง เจ้าหน้าที่ได้สำรวจความเสียหายของตัวอาคารสถานทูต พบว่า
ตัวอาคารโดนกระสุนปืนเสียหายหลายจุด
มีกระสุนนัดหนึ่งเจาะทะลุเข้ามาทางหน้าต่างห้องทำงานเจ้าหน้าที่
กระสุนมีอำนาจทะลุทะลวงสูง แฉลบไปถูกส่วนที่กั้นเป็นห้องน้ำ
จุดที่นั่งรอสำหรับผู้มาติดต่อ โดนไป 3 นัด
ปลอกกระสุนทีเก็บได้
                             

ที่มา : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงตริโปลี
        : กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
          กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น