ข่าวคราวเกี่ยวกับหญิงไทยถูกหลอกลวงไปค้าประเวณีในต่างประเทศ เรื่องราวของหมอนวดสาวไทยที่ไปประสบปัญหาสารพัดในต่างประเทศ มีการนำเสนอมาโดยตลอด และยังไม่มีทีท่าว่าปัญหาต่างๆ เหล่านี้จะหมดไป เดี๋ยวนี้ นอกจากสาวแท้แล้ว สาวเทียมหรือสาวประเภทสองของไทยก็ไม่ยอมน้อยหน้าสาวแท้ ดั้นด้นเดินทางไปทำงานและต้องตกทุกข์ได้ยากกันในต่างประเทศมากขึ้น
อย่างในกรณีล่าสุดที่เกิดขึ้นที่รัฐชาร์จาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตำรวจที่นั่นไปกวาดจับคนต่างชาติที่ทำงานเป็นพนักงานนวดในร้านนวดหลายแห่ง ได้ผู้ต้องหาเป็นคนไทยหลายคน ในจำนวนนี้มีทั้งสาวแท้และสาวประเภทสอง ทั้งหมดถูกตั้งข้อหาค้าประเวณีและถูกนำตัวไปฝากขังเพื่อรอขึ้นศาล สาวแท้ก็ไม่มีปัญหาอะไรมาก นายจ้างมาประกันตัวเพื่อออกไปสู้คดี แต่ทางด้านสาวเทียมเรื่องยังไม่จบ
ทางตำรวจแขกเพ่งพิจารณาสาวเทียมทั้ง 3 คน จนตาแทบจะถลนออกมานอกเบ้า พบว่ามีลักษณะเป็น ladyboy โดยนอกจากจริตกิริยาจะไม่ใช่แบบแมนๆ แล้ว 2 ใน 3 คน ยังได้เสริมเต้ามาจากยันฮีเป็นที่เรียบร้อย เด้งดึ๋งชูชันขนาดนั้นถ้านำตัวไปขังรวมกับนักโทษชายคนอื่นๆ มีหวังไม่ได้อยู่ในคุกกันอย่างสงบสุขแน่นอน จึงได้นำเทยไทยทั้ง 3 คน ไปฝากขังที่เรือนจำแห่งหนึ่งซึ่งต้องแยกขังทั้ง 3 คน ต่างหากจากผู้ต้องขังชายอื่นๆ พอเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ที่ดูไบไปเยี่ยม พวกเธอก็ดีใจมากพร้อมทั้งเล่าให้ฟังด้วยสีหน้าท่าทางที่ตื่นเต้นว่า มีตำรวจบางนายที่ดีและคอยดูแล แต่ก็มีบางคนที่มองพวกเธอเหมือนตัวประหลาดและคอยกลั่นแกล้ง เช่นขู่จะจับโกนผม และให้เปิดเสื้อโชว์หน้าอกให้ตำรวจคนอื่นๆ ดู บางคนก็คอยถามแต่ว่าไปทำอะไรมาถึงได้ ตูม ตูม ขนาดนั้น พวกเธอก็อ้างไปว่ากินฮอร์โมน พวกตำรวจก็ไม่เชื่อคอยถามซ้ำอยู่ตลอด (สงสัยอาจจะอยากไปเสริมบ้าง จะได้อกผายไหล่ผึ่งสมกับเป็นตำรวจ)
ทางเจ้าหน้าที่สถานกงสุลได้สอบถามกับทางตำรวจเกี่ยวกับข้อหาและความคืบหน้าของคดี ตำรวจบอกว่าสำหรับเทยไทยทั้ง 3 คน จะถูกตั้งข้อหาเป็นสาวประเภทสอง (ladyboy) ซึ่งในรัฐซาร์จาร์ถือเป็นความผิดตามกฎหมายอิสลาม (ซาร์จาร์เป็นรัฐที่บังคับใช้กฎหมายอิสลามเข้มงวดที่สุดในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) และทั้ง 3 คนจะต้องรอการขึ้นศาลต่อไป
เรื่องนี้นับว่่าเป็นกรณีตัวอย่างและเป็นอุทธาหรณ์สำหรับสาวประเภทสองที่อยากจะไปทำงานหรือเดินทางไปต่างประเทศ ในบางประเทศโดยเฉพาะประเทศที่ใช้กฎหมายอิสลาม การแสดงออกถึงพฤติกรรมผิดเพศเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
เรื่องนี้ต้องขอให้เข้าใจให้ชัดๆ ว่า การมีรสนิยมหรือพฤติกรรมแบบนั้น ไม่ใช่เรื่องผิด และเมืองไทยเรารวมทั้งหลายประเทศทั่วโลกก็ยอมรับได้ แต่ "การแสดงออก" ต่างหากที่อาจจะกลายเป็นความผิดได้สำหรับบางประเทศที่มีกฎหมายเอาผิดกับผู้ที่มีลักษณะหรือพฤติกรรมผิดเพศ อย่างเช่นกรณีเทยไทย 3 รายนี้
ที่มา : สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น