วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

กรมการกงสุลลุย "การทูตเพื่อประชาชน" ลดปัญหาค้ามนุษย์


ปัจจุบัน โลกมนุษย์ใบนี้ดูเหมือนจะเล็กลงไปทุกวัน ผู้คนจากประเทศต่างๆ ล้วนมีการติดต่อ ไปมาหาสู่ มีกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องกระทำร่วมกันมากขึ้น การเดินทางระหว่างประเทศก็แสนจะสะดวก เหมือนดังสโลแกนของสายการบินสายหนึ่งที่ว่าเดี๋ยวนี้ "ใครๆ ก็บินได้" ประเทศไทยของเราก็เปิดประตูบ้านรับชาวต่างชาติมานานแล้ว มีคนต่างชาติต่างภาษาเวียนวนเดินทางเข้า-ออก วันละหลายแสนหลายล้านคน ยิ่งช่วงนี้กำลังมีการเปิดเสรีด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศในอาเซียนซึ่งไทยก็เป็นสมาชิกอยู่ด้วย ไทยเรายิ่งต้องเปิดทั้งประตูและหน้าต่างบ้านให้กว้างออกไปอีกเพื่อรับกับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังถาโถมเข้ามาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แต่ทุกอย่างย่อมต้องมี 2 ด้านเสมอ ขณะที่การเปิดเสรีให้มีการติดต่อค้าขายกับชาวโลกจะนำมาซึ่งความเจริญทางด้านเศรษฐกิจ ผู้คนบางส่วนได้รับประโยชน์ แต่ก็ยังมีคนอีกมากที่ต้องตกเป็นเหยื่อจากการถูกละเมิดสิทธิ ถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกหาประโยชน์อย่างไม่เป็นธรรมไม่มีความรับผิดชอบ ที่ผ่านมา คนไทยจำนวนมากมาย ทั้งชาย/หญิง (เดี๋ยวนี้เพศที่ 3 ก็โดนด้วย) เด็ก/ผู้ใหญ่ ต้องประสบกับเคราะห์กรรมจากการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน เป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ ถูกกดขี่ด้านแรงงาน หรือได้รับความไม่เป็นธรรมต่างๆ โดยเฉพาะทุกวันนี้ คนไทยต้องไปตกทุกข์ได้ยากในต่างประเทศเพราะเกิดจากปัญหานี้มีเป็นจำนวนมาก

กรมการกงสุล ตระหนักดีว่า การให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ตกทุกข์ได้ยากในต่างประเทศแม้จะเป็นภาระหน้าที่หลัก แต่ก็เป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ตลอดเวลาที่ผ่านมายังคงมีคนไทยตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์อยู่เสมอ และสภาพปัญหาก็รุนแรง คนไทยหลายรายถึงกับต้องสังเวยชีวิตในต่างแดนเพราะการถูกบีบคั้น ถูกเอารัดเอาเปรียบ บางรายเหมือนตายทั้งเป็น ต้องตกเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ที่ดินทำกินถูกยึด ครอบครัวแตกแยก ดังนั้น เพื่อมิให้คนไทยต้องตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ไปมากกว่านี้ กรมการกงสุล จึงต้องปรับกลยุทธ์ ติดอาวุธทางปัญญาให้กับพี่น้องชาวไทยโดยใช้วิธีการ "ตีท้ายครัว" คือบุกไปตามท้องถิ่นห่างไกลเพื่อให้ความรู้ สร้างความเข้าใจถึงสถานการณ์ของปัญหาการค้ามนุษย์ เรียกว่า ตามไปบอกเล่าประสบการณ์ พูดคุยให้่ข้อมูลกับพี่น้องประชาชนให้ทราบข้อเท็จจริงกันถึงบ้านเลยทีเดียว

ล่าสุด เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับ หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนที่ทำงานด้านสังคม เด็ก สตรี และสิทธิมนุษยชน ได้เดินสายตลุยบุกไปถึงจังหวัดน่านและแพร่ เพื่อจัดการอบรมให้ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาการค้ามนุษย์ ตลอดจนวิธีป้องกันมิให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพหรือขบวนการล่อลวงสตรีไทยในลักษณะต่างๆ งานครั้งนี้จัดในรูปแบบ "การเสวนาเวทีชุมชน"  
พูดคุยบอกกล่าวถึงเรื่องการเตรียมตัวก่อนการเดินทางไปต่างประเทศ ปัญหาการลักลอบเดินทางไปทำงานในต่างประเทศหรือการทำงานโดยใช้วีซ่าผิดประเภท การถูกหลอกไปค้าประเวณีแอบแฝงในสาขาอาชีพต่างๆ เช่น นวดแผนไทย นวดสปา พนักงานเสริฟในร้านอาหาร นักร้อง เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้พูดถึงปัญหาการแต่งงานอำพราง การป้องกันการถูกหลอกลวงให้ไปทำงานในต่างประเทศโดยเสียค่าใช้จ่าย หรือค่าหัวสูงเกินกำหนดตลอดจนปัญหาความแตกต่างทางวัฒนธรรมและการปรับตัว การแต่งงานกับคนต่างชาติและการถูกบังคับเป็นแรงงานทาสในบ้านพัก และยังมีปัญหาการค้ามนุษย์ในรูปแบบแรงงานที่เป็นแม่บ้านด้วย




การดำเนินโครงการดังกล่าว ถือเป็นภารกิจเชิงรุกตามนโยบาย " การทูตเพื่อประชาชน" และเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ กรมการกงสุลได้จัดโครงการลักษณะเดียวกันนี้มาอย่างต่อเนื่องทำให้ปัจจุบันสถิติการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ในต่างประเทศมีแนวโน้มลดลงตามลำดับ จากปี 2552 จำนวน 309 คน ลดลงเหลือ 128 คนในปี 2553 และ 46 คน ในปี 2554

ที่มา : กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
         กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น