วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ส่งศพ นิมิตร จิตรานนท์ กลับไทย


 
หลายท่านคงได้ข่าวการเสียชีวิตของ นิมิตร จิตรานนท์  หรือ ''กบ-นิมิตร'' สามี ''เจี๊ยบ-วรรธนา'' นักร้องนักแต่งเพลงชื่อดังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ดับ ขณะถ่ายสารคดีที่ประเทศอินเดีย นับเป็นช๊อกวงการเพลงและก็ช๊อคถึงงานพระธรรมทูตอินเดียด้วยเพราะอุบัติเหตุถึงเสียชีวิตบนท้องถนนของชาวไทยที่ไปอินเดียจะมีไม่เห็นบ่อยนัก ที่ผ่าน ๆ มาอย่างมากก็จะบาดเจ็บและจะเสียชีวิตด้วยเหตุโรคาอื่น ๆ มากกว่าอุบัติเหตุรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตเช่นนี้
๓ พ.ค. ๒๕๕๕ เวลา สามโมงเช้า ผู้เขียนได้รับแจ้งเหตุขณะเดินทางไปพาราณสี เพื่อนำคณะพระธรรมทูตสายต่างประทศ รุ่นที่ ๑๘ ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬา ฯ(มจร.)  โดยได้รับโทรศัพท์จากประเทศไทยว่ามีผู้บาดเจ็บสาหัส ๒ ราย จากอุบัติเหตุด้วยรถเสียหลักพลิกคว่ำชนเสาริมถนน ใกล้เมืองทันบาด(Dhanbad) ห่างจากพุทธคยาประมาณ ๒๐๐ ก.ม.ขณะนี้กำลังติดต่อไปยังโรงพยาบาลที่นำคนเจ็บไปรักษา  ในชั้นต้นได้กราบเรียนพระราชรัตนรังษี เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา หัวหน้าพระธรรมทูตอินเดียได้รับทราบ และท่านเจ้าคุณพระราชรัตนรังษี   ได้ส่งอาสาสมัครของวัดไทยพุทธคยา ที่เป็นนึกศึกษาอยู่สันตินิเกตัน เมืองกัลกัตตา ๒ คนออกเดินทางไปยังที่เกิดเหตุเพื่อประสานการช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน
ต่อมาไม่นานได้รับแจ้งว่า มีผุ้เสียชีวิตเป็นชายไทย อายุประมาณสี่สิบปี  จึงได้ส่งพระธรรมทูตจากวัดไทยพุทธคยาไปสมทบอีกสามรูป นำโดยพระมหานิพนธ์ ญาณวีโร เพื่อดำเนินการด้านเอกสารต่าง ๆ และดำเนินจัดการเรื่องศพผู้เสียชีวิต ผู้เขียนรับหน้าที่ประสานงานเรื่องแจ้งข่าวแก่ญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ทราบภายหลังผู้เสียชีวิตคือ นิมิตร จิตรานนท์ สามีของคุณเจี๋ยบ วรรธนา นักร้องชื่อดังแห่งวงการเพลง และผู้บาดเจ็บเป็นช่างภาพ ๑ คน
 บ่ายโมงได้รับโทรศัพท์จากคุณเจี๋ยบ ว่าขอให้นำศพสามีมาเพื่อไหว้พระพุทธเจ้าที่พุทธคยาก่อน ตามความมุ่งมั่นและตั้งใจมากของสามีที่จะมากราบพระพุทธเจ้าและถ่ายทำสารคดีเนื่องในงานพุทธชยันตีการเฉลิมฉลอง ๒๖๐๐ ปี ระหว่างวันที่ ๔-๖ ณ พุทธคยา แดนตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า จึงแจ้งว่าจะดำเนินการตามประสงค์และจักจัดการส่งศพให้ถึงเมืองไทยอย่างด่วนที่สุด และรีบประสานงานทางสถานกงสุลใหญ่นครกัลกัตต้าได้ประสาน Agencyเพื่อดำเนินการส่งศพ จะทางอะเจนซี่แจ้งว่าจะส่งตัวแทนมารับศพเช้าวันที่ ๕ พ.ค. เพื่อส่งกลับกลางคืนถึงเมืองไทยเช้าวันที่ ๖ พ.ค



 ศพของคุณนิมิตร มาถึงวัดไทยพุทธคยาตีหนึ่งของวันที่ ๔ พ.ค. ๒๕๕๕ วันที่ ๔ พ.ค. เช้า มีคุณบิณ บรรลือฤทธิ์ จากร่วมกตัญญู ที่มาถ่ายทำละครเรื่องรูปู-รูปี อยู่ที่พุทธคยา มาช่วยแต่งศพคุณนิมิตรให้อย่างดี พระราชรัตนรังษี ได้จัดสวดอภิธรรมศพ ที่วัดไทยพุทธคยา เป็นวันแรก โดยมีคณะพระธรรมทูตสายต่างประเทศจำนวน ๑๐๘ รูปได้ร่วมสวดมาติกา และคณะคุณบิณฑ์ร่วมเป็นเจ้าภาพ นี่ก็นับเป็นความโชคดีของญาติ ๆคุณนิมิตรเพราะพระจำนวนมากมาสวดส่งวิญญาณให้ จากนั้นได้ประสานกับทางญาติว่าจะดำเนินการเรื่องจัดส่งกลับวันเสาร์ที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ถึงเช้าวันอาทิตย์ที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เพราะเรื่องการจัดส่งศพกลับประเทศนับเป็นความยุ่งยากที่สุดในอินเดีย เพราะต้องการพีธีการขั้นตอนเอกสารต่าง ๆ จำนวนมาก ในกรณีการเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ตำรวจท้องถิ่นต้องได้รับรายงานเบี้องต้น (FIR)และมาตรวจสอบจากนั้นจะขอให้วิทยาลัยการแพทย์ผ่าชันสูตรศพ และออกใบรับรองการชันสูตรแล้วแพทย์อินเดียต้องออกใบรับรองสาเหตุการเสียชีวิตตามผลที่ชันสูตร จากนั้นรัฐบาลอินเดียต้องออกใบ NOC(No Objection Certificate) การนำศพเคลื่อนย้ายออกนอกประเทศ และทางสถานกงสุญก็ต้องออกใบรับรอง NOC เพื่อการอนุญาติให้นำศพกลับเข้าประเทศ เจ้าหน้าที่ LIU (Local Inteligent Unit) ต้องรับรอง  การส่งศพ บริษัทขนส่งทางเครื่องบิน Air Cargo ต้องดำเนินการออก AWB Number  พร้อมจัดส่งตามที่อยู่ของญาติผู้เสียชีวิตที่เมืองไทยตามที่สถานทูตออกแจ้งไปทางรัฐบาลอินเดียเพื่อให้ส่งศพไปให้ตามที่อยู่ผู้รับที่รัฐบาลไทยรับรองนั้น

 ส่วนช่างภาพทราบชื่อภายหลังคือนายธิติ ศรีจันทร์ ที่บาดเจ็บสาหัส ไหปลาร้าขวาหักและลำไส้เล็กถูกกระแทกหนัก..ต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล Apollo Kolkatta มีอาสาสมัครคือ เกสินี ศรีสองเมือง พร้อมคนไทยอีกหนึ่งคนไปช่วยดูและประสานญาติต่อไป ทราบว่า ขณะนี้อาการพ้นขีดอันตรายและญาติเดินทางมาเผ้ารักษาอาการไข้ที่โรงพยาบาล ณ เมืองกัลกัตตาแล้ว


วันที่ ๕ พ.ค. รอตัวแทนAgency อินเดีย ที่จะมารับศพไปกัลกัตตา ถึงสิบโมงเช้าถึงรู้ว่าไม่มีเจ้าหน้าที่จากตัวแทนบริษัทจัดส่งศพดังกล่าวเดินทางมา โดยไม่ทราบเหตุผล จึงได้รีบแจ้งสถานกุงสุลให้ทราบเพื่อหา บริษัทอื่นดำเนินการแทน และในขณะเดียวกันก็เตรียมการส่งศพไปยังกัลกัตตาซึ่งต้องใช้เวลาประมาณสิบชั่วโมง กงสุลแจ้งว่าได้ตัวแทนดำเนินการจัดส่งศพแล้วจึงได้จัดส่งศพ โดยรถ Traveler Force ออกจากวัดไทยพุทธคยาเวลาบ่ายโมง  มีพระมหานิพนธ์ พระชยโพธิ  พระ ๒ รูปนั่งไปพร้อมรถส่งศพ และผู้ช่วยคนอินเดียอีก สามคน พร้อมจัดยนต์อีกหนึ่งวิ่งตามไปเพื่อประสานงานด้านความสะดวกต่าง ๆ  ในระหว่างทางพระมหานิพนธ์ ต้องแวะไปโรงพยาบาลที่รักษาเพื่อรับเอกสารใบ รับรองการเสียชีวิต (Death Certificate)จากนายแพทย์ของอินเดียที่รับรักษาจนถึงเสียชีวิต ช่วงเย็นได้รับแจ้งว่า เจ้าหน้่าที่อินเดียออกเอกสาร NOCให้ไม่ทัน จึงไม่สามารถส่งศพกลับคืนวันที่ ๕ พ.ค.ได้ วันนี้เป็นวันอาทิตย์และเป็นวันหยดอีกด้วย จึงต้องรอต่อไป มาถึงตรงนี้มีลุ้นหนักเพราะแรงกดดันจากญาติผู้เสียชีวิตเริ่มหนักขึ้น ด้วยรอมาหลายวันแล้วซึ่งเราทราบดีว่า อินเดียก็คืออินเดีย แต่ก็อยากจะบอกว่า ฝ่ายพระก็ทำงานกันเต็มที่แล้วนะโยม โดยเฉพาะท่านพระมหานิพนธ์ไม่ได้จำวัดมาสองวันแล้ว ผู้เขียนเองต้องใช้โทรศัพท์ประสานงานตลอด อาศัยโทรศัพท์มือที่สามารถรับส่ง โอนถ่าย ข้อมูล ผ่านทางอีเมล์ได้ จึงทำงานได้สะดวกขึ้น

วันนี้ ที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ขณะนี้เวลาที่อินเดียบ่ายสองโมงครึ่งแล้วก็ยังไม่มีคำตอบว่าเอกสารทั้่งหมดพร้อมหรือยัง แล้วคืนนี้จะได้ส่งศพคุณนิมิตร กลับไปหาญาติ  ๆ กลับไปหาโยมเจี๊ยบ กลับไปหาลูกเนปาลและทิเบตได้หรือไม่..ขณะนี้เจ้าหน้าที่สถานกุงสุลใหญ่นครกัลกัตต้าและตัวแทนพระธรรมทุตกำลังทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งการรอคอย ด้วยความโศกเศร้าของญาติมิตรทางบ้าน ผู้เขียนทราบดี มิอาจสาธยายความรู้สึกนั้นได้เลย แต่พระธรรมทูตไทยในอินเดียพร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องจะต้องทำงานให้ดีที่สุด สุดกำลังความสามารถ หากคืบหน้าอย่างไรจะแจ้งให้ทราบโดยด่วนที่สุดต่อไป



ต่อไป
                ขอแสดงความเสียใจกับคุณเจ๊๋ยบ วรรธนา ลูก ๆ และญาติ ๆ ของคุณนิมิตรด้วยจิตแห่ง อนิจจา วต สังขารา อุปปาทวยธมฺมิโน อุปปัชชิตวา นิรุฌชนฺติ เตสํ วูปสะโม สุโข..   ขอดวงวิญญาณของนิมิตร จิตรานนท์ จงไปสู่สคติ สันดุสิตภพ ด้วยเจตนาแห่งมหากุศล ศรัทธา ความตั้่งใจที่ได้มาสู่แดนพุทธองค์ครั้งนี้ด้วยเทอญ ฯ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ท่านคมสรณ์ - พระธรรมทูตไทยในอินเดีย
http://www.oknation.net/blog/mylifeandwork/2012/05/06/entry-1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น