วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

การติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่น (20 กรกฎาคม 2554)


การติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่น (20 กรกฎาคม 2554)


สถานะ ณ เวลา 12.00 น. วันพุธที่ 20 กรกฎาคม 2554

1. สถานการณ์ในญี่ปุ่น

1.1 สถิติ ณ วันที่ 20 ก.ค. 2554 สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่นได้รายงานดังนี้

- ผู้เสียชีวิต 15,597 ราย โดยเพิ่มขึ้น 42 ราย เมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลวันที่ 13 ก.ค. 2554

- ผู้สูญหาย 4,980 ราย โดยลดลง 364 ราย เมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลวันที่ 13 ก.ค. 2554

1.2 การเกิดอาฟเตอร์ช็อค (aftershock)

- ระหว่างวันที่ 14 – 20 ก.ค. 2554 กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นได้รายงานการเกิด Aftershock ระดับ 4 ริกเตอร์ขึ้นไปในบริเวณต่าง ๆ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกของญี่ปุ่น ได้แก่ จ.ฟุคุชิมะ จ.มิยากิ จ.อิวาเตะ จ.อิบารากิ โดยยังไม่มีรายงานการเกิดสึนามิและความเสียหายจากอาฟเตอร์ช็อคดังกล่าว โดยมีรายละเอียดตามเวลาท้องถิ่น ดังนี้

วันที่ 14 ก.ค. 2554 เวลา 10.35 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางที่ จ.มิยากิ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.8 ริกเตอร์

วันที่ 15 ก.ค. 2554 เวลา 01.47 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางที่ จ.มิยากิ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.1 ริกเตอร์

วันที่ 15 ก.ค. 2554 เวลา 12.21 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางที่ จ.ฟุคุชิมะ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.1 ริกเตอร์

วันที่ 15 ก.ค. 2554 เวลา 21.01 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางที่ จ.อิบาราคิ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.5 ริกเตอร์

วันที่ 16 ก.ค. 2554 เวลา 14.21 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางที่ จ.ฟุคุชิมะ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.4 ริกเตอร์

วันที่ 16 ก.ค. 2554 เวลา 18.02 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางที่ จ.อิบาราคิ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.0 ริกเตอร์

วันที่ 17 ก.ค. 2554 เวลา 09.55 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางที่ จ.ฟุคุชิมะ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.2 ริกเตอร์

วันที่ 19 ก.ค. 2554 เวลา 05.22 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางในอ่าวสุรุกะ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.0 ริกเตอร์

วันที่ 19 ก.ค. 2554 เวลา 10.39 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางที่ จ.ฟุคุชิมะ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.3 ริกเตอร์

วันที่ 20 ก.ค. 2554 เวลา 11.00 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางที่ จ.อิบาราคิ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.0 ริกเตอร์

1.3 รายงานสถานการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุคุชิมะที่ 1 (ฟุคุชิมะ ไดอิฉิ)

1.3.1 ณ วันที่ 20 ก.ค. 2554 บริษัทการไฟฟ้าโตเกียว (TEPCO) ยังคงดำเนินการฉีดน้ำเพื่อลดความร้อนของเตาปฎิกรณ์อย่างต่อเนื่อง โดยเตาหมายเลข 1 และ 2 สามารถลดปริมาณน้ำที่ฉีดลงได้เป็น 3.8 ลบ.ม./ชม. เนื่องจากเครื่องถ่ายเทความร้อน (heat exchanger) ที่ติดตั้งอยู่ภายในยังสามารถใช้งานได้ เตาหมายเลข 3 ปริมาณน้ำที่ฉีดอยู่ที่ 9.1 ลบ.ม./ชม. และเมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2554 เริ่มมีการฉีดไนโตรเจนที่ปริมาณ 14 ลบ.ม./ชม.เพื่อลดอุณหภูมิ เตาหมายเลข 4 เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2554 มีการติดตั้ง heat exchanger และอุปกรณ์ทำความเย็น ในส่วนของเตาหมายเลข 5 เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2554 มีการเปลี่ยนสายเครื่องสูบน้ำสำหรับระบายความร้อนตกค้าง

1.3.2 TEPCO ดำเนินการบำบัดน้ำปนเปื้อนในโรงไฟฟ้าฯ อย่างต่อเนื่อง หากแต่เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2554 มีการรั่วไหลของท่อฉีดสารเคมีสำหรับบำบัดน้ำปนเปื้อน แม้จะได้ซ่อมแซมส่วนที่ชำรุดแล้วเมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2554 ระบบบำบัดน้ำปนเปื้อนยังคงทำงานได้ช้ากว่าปกติ อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2554 ได้บำบัดน้ำปนเปื้อนไปแล้วทั้งหมด 24,360 ลบ.ม.

1.3.3 ผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (MEXT) แจ้งว่าจากผลการตรวจวัดระดับรังสีในตัวอย่างน้ำทะเลล่าสุด ไม่พบความเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญ แต่ค่ารังสีซีเซียม (Cs) ที่ตรวจพบในตัวอย่างดินทะเลใกล้โรงไฟฟ้าฯ เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2554 และในตัวอย่างน้ำทะเลเมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2554 มีค่าสูงกว่าปรกติ

1.3.4 ผู้เชี่ยวชาญจาก คกก. ความปลอดภัยนิวเคลียร์ญี่ปุ่น (NSC) แจ้งผลการตรวจวัดระดับรังสีในสิ่งแวดล้อมและตัวอย่างฝุ่นใกล้โรงไฟฟ้าฯ ว่าไม่พบความเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญ ทั้งนี้ ปริมาณรังสีในสิ่งแวดล้อมมีแนวโน้มลดลง และความเข้มข้นของ Cs ในน้ำประปาที่ จ.มิยากิ ก็ลดต่ำลงกว่าที่มาตรฐานกำหนดไว้

2. การดำเนินการของไทย

2.1 การติดตามเรื่องความปลอดภัยของอาหาร

- สอท. ณ กรุงโตเกียว แจ้งรายงานผลการตรวจการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในอาหารของกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ (Ministry of Health, Labour and Welfare) ญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 12 – 18 ก.ค. 2554 รวม 96 รายการ ซึ่งพบเนื้อวัวที่มีปริมาณรังสีเกินกำหนดมาตรฐานจากเมืองมินามิโซมะจ. ฟุคุชิมะ 3 ตัวอย่าง และจากเมืองอาซาคาวะ จ.ฟุคุชิมะ 10 ตัวอย่าง จึงสันนิษฐานว่าปริมาณรังสีเกินกำหนดในเนื้อวัวนั้น มีสาเหตุมาจากการที่เกษตรกรให้วัวกินฟางข้าวที่เก็บเกี่ยวหลังเหตุการณ์อุบัติเหตุโรงไฟฟ้าฯ ที่อาจมีรังสีปนเปื้อน

- เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค รัฐบาลท้องถิ่น จ.ฟุคุชิมะ ได้ขอให้ฟาร์มที่เลี้ยงวัวด้วยฟางที่มีรังสีปนเปื้อน 7 แห่ง งดจำหน่ายเนื้อวัวและเคลื่อนย้ายวัวไปที่อื่น นอกจากนั้น เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2554 รัฐบาลญี่ปุ่นได้เริ่มขยายการตรวจสอบปริมาณรังสีในเนื้อวัวในทั้ง 47 จังหวัด นอกเหนือจากเขตภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือ

2.2 การดูแลคนไทยในญี่ปุ่น

2.1.1 ตามที่ได้เกิดแผ่นดินไหวและ aftershock ในบริเวณต่าง ๆ ในญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. 2554 สอท. ณ กรุงโตเกียว ได้ประสานสอบถามความเป็นอยู่ของคนไทยในพื้นที่และทราบว่าคนไทยยังปลอดภัยดี แม้บางรายจะรู้สึกตกใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และรู้สึกกังวลใจเรื่องความเป็นอยู่และความปลอดภัย แต่ในชั้นนี้ยังไม่ได้รับรายงานคนไทยเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากวิบัติภัยดังกล่าว

2.1.2 ข่าวสารนิเทศกระทรวงการต่างประเทศ เรื่อง “คำแนะนำในการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นฉบับล่าสุด” ซึ่งได้ประกาศเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2554 มีเนื้อหาดังนี้ “ตามที่กระทรวงการต่างประเทศได้เคยประกาศเตือนให้คนไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น และขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารในการเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดนั้น ในปัจจุบัน แม้สถานการณ์โดยรวมจะดีขึ้นมากแล้ว แต่เนื่องจากยังเกิดแผ่นดินไหวตามมาเป็นระยะ ๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ได้ผลกระทบอย่างรุนแรงจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อวันที่

11 มีนาคม 2554 ได้แก่ จังหวัดอิวาเตะ จังหวัดมิยางิ และจังหวัดฟุคุชิมะ กระทรวงฯ จึงขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว ส่วนผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางเข้าไปในพื้นที่ข้างต้น ขอให้ใช้ความระมัดระวังอย่างเต็มที่และติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ โดยที่สถานการณ์เกี่ยวกับโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุคุชิมะ หมายเลข 1 ยังไม่เรียบร้อย กระทรวงฯ จึงขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินทาง เข้าไปในพื้นที่รัศมี 60 กม. จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฯ และตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับระดับกัมมันตภาพรังสีในพื้นที่ใกล้เคียงก่อนการเดินทาง ตลอดจนปฏิบัติตามคำแนะนำของรัฐบาลญี่ปุ่นอย่างเคร่งครัด จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน”

2.1.3 สอท. ได้ลงคำแนะนำในการเดินทาง ทาง twitter@rtetokyo ดังนี้

(1) โดยที่ขณะนี้ทางด้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นยังมีแผ่นดินไหวจาก Aftershock อยู่เป็นระยะ ประกอบกับปัญหาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ จึงขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าพื้นที่ดังกล่าว ส่วนผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางเข้าพื้นที่ดังกล่าว ขอให้ใช้ความระมัดระวังอย่างเต็มที่และติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด

(2) ขอให้ผู้ที่เดินทางไปญี่ปุ่นแจ้งข้อมูลการเดินทาง ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ในญี่ปุ่นให้ สอท. ทราบ ทางหมายเลขโทรศัพท์ +813-3222-4101 ต่อ 200 และ 275 (เวลาราชการ) หรือ +8190-8849-7785, +8190-3408-7786, +8190-1215-9369, -8190-1216-3168, +8190-1216-1871 และทางโทรสาร +813-3222-4122 หรือ E-mail: rtetokyo@hotmail.com (24 ชม.)

(3) สำหรับนักเรียน / นักศึกษา ที่ศึกษาในญี่ปุ่น หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเปิดเรียนและเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง สามารถสอบถามได้ที่ สนง.ผู้ดูแลนักเรียนในญี่ปุ่น หมายเลขโทรศัพท์ +813-5424-0652 หรือ โทรสาร + 813-5424-0658 หรือ E-mail: csctokyo@sepia.ocn.ne.jp

2.3 การให้ความช่วยเหลือของไทยต่อญี่ปุ่น

ยอดเงินบริจาคสะสมผ่านบัญชี “เงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยญี่ปุ่น” ของกระทรวงการต่างประเทศ ณ วันที่ 14 ก.ค. 2554 จำนวนเงินทั้งสิ้นประมาณ 178 ล้านบาท (ทั้งนี้ สอท. ณ กรุงโตเกียว ได้นำเงินบริจาคที่ได้รับโอนรอบแรก 125 ล้านบาท ให้แก่สภากาชาดญี่ปุ่นแล้ว)

2.4 สถิติคนไทย

2.4.1 จำนวนคนไทยในญี่ปุ่น 41,279 คน (ข้อมูล สนง. ตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่น) โดยเป็นคนไทยที่พำนักในพื้นที่เสี่ยงต่อกัมมันตรังสี 11 จังหวัด (ฮอกไกโด อะโอโมริ อิวาเตะ มิยาหงิ ฟุคุชิมะ อิบารากิ โทชิหงิ ชิบะ โตเกียว กุมมะ คาโงชิมา) 19,547 คน และคนไทยในพื้นที่เสี่ยงสูงต่อกัมมันตรังสี 3 จังหวัด (อิวาเตะ มิยาหงิ ฟุคุชิมะ) จำนวน 488 คน

2.4.2 จำนวนนักเรียนไทยในญี่ปุ่นมีประมาณ 2,429 คน (ข้อมูล สนง. ผู้ดูแลนักเรียนไทย) และจำนวนแรงงานไทยในญี่ปุ่นมีประมาณ 19,541 คน (เป็นแรงงานถูกกฎหมาย 13,541 คน แรงงานผิดกฎหมายประมาณ 6,000 คน)

2.4.3 ยังไม่มีรายงานคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2554

3. ความช่วยเหลือจากต่างประเทศ

กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นสรุปยอดประเทศที่เสนอให้ความช่วยเหลือ มีจำนวน 161 ประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ 43 แห่ง ซึ่งมีทั้งในรูปแบบเงินบริจาค สิ่งของบริจาค และผู้เชี่ยวชาญ (สถานะ ณ วันที่ 14 ก.ค. 2554)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น