วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

นักฮาฟีซ (นักท่องจำคัมภีร์อัลกุรอาน) ทีมชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขันท่องจำคัมภีร์อัลกุรอานและซุนนะห์สำหรับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิกที่อินโดนีเซีย






นักฮาฟีซ (นักท่องจำคัมภีร์อัลกุรอาน) ทีมชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขันท่องจำคัมภีร์อัลกุรอานและซุนนะห์สำหรับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิกที่อินโดนีเซีย


ระหว่างวันที่ 26-28 มิถุนายน 2554 นักฮาฟีซ (นักท่องจำคัมภีร์อัลกุรอาน) ทีมชาติไทย ครูผู้ฝึกสอน พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่จากสมาคมกอรีแห่งประเทศไทยในความอุปถัมภ์ของจุฬาราชมนตรี ได้เดินทางเข้าร่วมการแข่งขันท่องจำคัมภีร์อัลกุรอานและซุนนะห์สำหรับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก ณ มัสยิด Istiqlal กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยมีกระทรวงศาสนาของอินโดนีเซียและสถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบียประจำอินโดนีเซีย ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ การแข่งขันครั้งนี้มีเยาวชนมุสลิมเข้าร่วมกว่า 140 คน จาก 14 ประเทศในอาเซียน ภูมิภาคแปซิฟิก และเอเชียกลาง

สำหรับประเทศไทยได้ส่งนักฮาฟิซเยาวชนไทยมุสลิมเข้าร่วมกว่า ๑๐ คน จากจังหวัดต่างๆ อาทิ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ลพบุรี ปทุมธานี ปัตตานีและยะลา โดยกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมสนับสนุนงบประมาณในการเดินทางของคณะบางส่วน

ระหว่างที่คณะอยู่ในกรุงจาการ์ตา สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ได้ไปร่วมรับคณะที่ท่าอากาศยานกรุงจาการ์ตา และอุปทูตวุตติ วุตติสันต์ ในนามของเอกอัครราชทูต ได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำรับรองอิหม่ามสนิท เอี่ยมฤทธิ์ นายกสมาคมกอรีฯ นายสมาน ก้อพิทักษ์ เลขาธิการสมาคมกอรีฯ ครูผู้ฝึกสอน เจ้าหน้าที่ประสานงานของสมาคมกอรีฯ รวมทั้งนักฮาฟิซทีมชาติไทยทั้งหมด ที่ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ในช่วงค่ำวันที่ ๒๕ มิถุนายน โดยจัดให้คณะได้พบกับข้าราชการสถานเอกอัครราชทูตและนักศึกษาไทยมุสลิมที่ศึกษาอยู่ในกรุงจาการ์ตาเพื่อแลกเปลี่ยนทัศนะในโอกาสนี้ด้วย นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังได้ประสานให้คณะเข้าเยี่ยมคารวะ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน ณ สำนักเลขาธิการอาเซียน ในช่วงเช้าวันที่ 28 มิถุนายน 2554

กระทรวงการต่างประเทศได้ให้การสนับสนุนกิจกรรมของสมาคมกอรีแห่งประเทศไทยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี ๒๕๔๙ โดยเห็นว่า สมาคมกอรีฯ เป็นองค์กรไทยมุสลิมที่มีบทบาทในการสร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยในต่างแดน โดยที่ศาสตร์ด้านการอ่านคัมภีร์อัลกุรอานทำนองเสนาะและการท่องจำคัมภีร์อัลกุรอานถือเป็นศิลปะชั้นสูงที่แพร่หลายในโลกมุสลิม และนักกอรี (นักอ่านคัมภีร์อัลกุรอานทำนองเสนาะ) และกอรีอะห์ (นักอ่านคัมภีร์ที่เป็นหญิง) ของไทยก็เคยสร้างชื่อเสียงในวงการกอรีระดับสากลมาแล้ว ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันอย่างชัดเจนว่า สังคมไทยเปิดกว้างและเคารพสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนาอย่างเต็มที่ และกระทรวงการต่างประเทศจะได้สนับสนุนนักกอรีและกอรีอะห์ชาวไทย รวมทั้งนักฮาฟีซไทยที่มีความสามารถ ให้มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันในเวทีระหว่างประเทศต่อไป.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น